วันเสาร์ ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567 19:59 น.

อสังหา

แสนสิริ ปลื้ม นักลงทุนจองซื้อหุ้นกู้เกลี้ยง 5,000 ล้านบาท

วันศุกร์ ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2567, 13.02 น.

แสนสิริ ปลื้ม นักลงทุนจองซื้อหุ้นกู้เกลี้ยง 5,000 ล้านบาท

 

 

นายวิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า สำหรับหุ้นกู้ชุดใหม่ จำนวน 2 รุ่น ที่เปิดขายให้กับผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.60% (เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป) และ ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.60% ต่อปี (เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่) โดยหุ้นกู้ทั้ง 2 ชุดดังกล่าวมีกำหนดไถ่ถอนปี 2570 รวมเป็นวงเงิน 5,000 ล้านบาท และได้มีการเสนอขายในช่วงวันที่ 19-21 มีนาคม 2567 ซึ่งปรากฎว่า ได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาดจากนักลงทุน จนสามารถปิดการจองซื้อได้ตั้งแต่ชั่วโมงแรกของวันทึ่เปิดจอง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อความแข็งแกร่งของแสนสิริได้เป็นอย่างดี สวนกระแสสภาวะตลาดหุ้นกู้ที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลของนักลงทุนหุ้นกู้ในช่วงนี้

 

"แสนสิริ" ขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความสนใจลงทุนหุ้นกู้ของ SIRI ในครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินระดมทุนดังกล่าวไปชำระหุ้นกู้คืนที่จะครบกำหนด และต่อยอดธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนการทำงานในองค์รวม ส่งมอบสินค้าและบริการให้กับผู้บริโภคอย่างตรงใจและโดดเด่นเหนือคู่แข่ง เพื่อเป็นการสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่นยืนในอนาคตต่อไป”

 

 

              

นายวิชาญ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปี 2567 บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ชุดใหม่วงเงินรวมไม่เกิน 9,000 ล้านบาท ซึ่งได้ออกไปแล้วในครั้งนี้ 5,000 ล้านบาท ส่วนหุ้นกู้ชุดที่เหลืออยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสม เนื่องจากแสนสิริมีวงเงินจากสถาบันการเงินที่พร้อมรองรับการพัฒนาโครงการไว้เรียบร้อยแล้ว โดยปัจจุบันบริษัทมีสภาพคล่องอยู่ที่ประมาณ 17,000 ล้านบาท ทั้งนี้สิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญ คือการรักษาสภาพคล่องที่เหมาะสมรองรับได้กับทุกสถานการณ์ อย่างไรก็ตามแม้บริษัทจะไม่มีแผนออกหุ้นกู้เพิ่มเติม ก็มีสภาพคล่องเพียงพอที่จะชำระคืนหุ้นกู้จำนวนดังกล่าวได้" 

 

สำหรับในปี 2567 บริษัทวางแผนเปิดตัวรวม 46 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 61,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 26 โครงการ มูลค่ารวม 35,000 ล้านบาท พร้อมเดินกลยุทธ์เพิ่มเซ็กเมนต์บ้านทุกระดับราคา และโครงการแนวสูง 20 โครงการ มูลค่ารวม 26,000 ล้านบาท เน้นขยายการลงทุนไปยังหัวเมืองท่องเที่ยวและทำเลศักยภาพที่มีความต้องการ (Demand)สูง ซึ่งการเปิดโครงการใหม่ทั้งหมดในปี 2567 นี้ เป็นการสนับสนุนให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ตั้งเป้ายอดขายรวมทั้งปี 52,000 ล้านบาท และยอดโอนที่ 43,000 ล้านบาท