วันพุธ ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 03:14 น.

อสังหา

การเคหะแห่งชาติออกมาตรการปรับโครงสร้างหนี้-ยกระดับการอยู่อาศัยให้ทุกคนเข้าถึงได้

วันเสาร์ ที่ 05 ตุลาคม พ.ศ. 2567, 15.49 น.

การเคหะแห่งชาติออกมาตรการปรับโครงสร้างหนี้-ยกระดับการอยู่อาศัยให้ทุกคนเข้าถึงได้

 

 

การเคหะแห่งชาติออกมาตรการปรับโครงสร้างหนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อโดยตรงกับการเคหะแห่งชาติและลูกค้าสัญญาเช่าซื้อภายใต้โครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของลูกค้าที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน ให้สามารถรับภาระในการผ่อนชำระหนี้ได้ โดยกำหนดระยะเวลามาตรการฯ ดังกล่าว ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2567

 

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบ ทั้งหนี้ในระบบและหนี้นอกระบบ การปรับโครงสร้างระบบการให้สินเชื่อและการค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน และมีรายได้ไม่เพียงพอที่จะชำระหนี้ให้สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ การเคหะแห่งชาติจึงมีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ลูกค้าที่เช่าซื้อโดยตรงกับการเคหะแห่งชาติและลูกค้าที่เช่าซื้อภายใต้โครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยทั้ง 2 ประเภท เพื่อช่วยให้ผู้เช่าซื้อสามารถรับภาระในการผ่อนชำระหนี้ด้านที่อยู่อาศัยได้ตามนโยบายรัฐบาลในการสร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงที่อยู่อาศัย ทั้งยังเป็นการยกระดับด้านที่อยู่อาศัยให้เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนเข้าถึงได้

 

สำหรับมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อโดยตรงกับการเคหะแห่งชาติและสัญญาเช่าซื้อภายใต้โครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยทั้งกรณีมีหนี้ค้างชำระ และไม่มีหนี้ค้างชำระ อาทิ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย และขยายอายุการทำสัญญาให้กับผู้เช่าซื้อไม่เกิน 40 ปี แต่เมื่อรวมกับอายุผู้เช่าซื้อต้องไม่เกิน 75 ปี โดยกำหนดระยะเวลามาตรการปรับโครงสร้างหนี้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2567 เงื่อนไขเป็นไปตามที่การเคหะแห่งชาติกำหนด โดยลูกค้าสัญญาเช่าซื้อทั้ง 2 ประเภทของการเคหะแห่งชาติ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเคหะจังหวัด หรือสำนักงานเคหะนครหลวงในพื้นที่โครงการ หรือโทรศัพท์สอบถามเพิ่มเติมที่ Call Center 1615

 

นายทวีพงษ์ กล่าวเพิ่มว่า ตั้งแต่ประเทศไทยต้องเผชิญกับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ส่งผลให้ต้นทุนการประกอบการต่าง ๆ และค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายคนหลายครอบครัวต้องขาดสภาพคล่องทางการเงิน และมีรายได้ไม่เพียงพอที่จะชำระหนี้ได้ตามกำหนด ดังนั้นการออกมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ของการเคหะแห่งชาติ จะเป็นหนึ่งในทางออกที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถรับภาระหนี้ด้านที่อยู่อาศัยได้ ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถเป็นเจ้าของบ้านได้เช่นเดิม เพราะการมีบ้านที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองเป็นความมั่นคงในชีวิตทางหนึ่ง และยังมีความสุขที่ได้อยู่กับครอบครัวในบ้านหลังเดียวกัน ตามวิสัยทัศน์ของการเคหะแห่งชาติ “สร้างบ้าน สร้างสุข เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี”