‘อรสิริน’ เผย Q3 ยอดโอน New High ดีมานด์คอนโดฯ พุ่ง–รับรู้รายได้ธุรกิจใหม่

ORN เผยธุรกิจไตรมาส 3/2568 ดีต่อเนื่อง ตลาดอสังหาฯ เชียงใหม่ทยอยฟื้น คอนโดฯ “ARISE เจริญเมือง” คึกคัก หนุนยอดโอน New High “ARISE Vibe” ภูเก็ต ยอดพรีเซลพุ่ง เดินหน้าพัฒนาโครงการ Green Building ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน รับดีมานด์ลูกค้าไทย-ต่างชาติ จับมือสถาบันการเงินเพิ่มโอกาสขาย พร้อมอัดโปรโมชันพิเศษ จ่อบุ๊ครายได้โรงเรียนนานาชาติ Mill Hill International School Thailand เตรียมเปิดคอมมูนิตี้มอลล์ THE BACKYARD รับไฮซีซัน มั่นใจธุรกิจเติบโตตามเป้า งบครึ่งปีแรก 2568 รายได้รวม 801.63 ล้านบาท กำไรสุทธิ 63.69 ล้านบาท

นายอรรคเดช อุดมศิริธำรง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จํากัด (มหาชน) หรือ ORN เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจไตรมาส 3/2568 มีแนวโน้มที่ดี ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเชียงใหม่เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และประเด็นภาษีคลี่คลาย ส่งผลให้โครงการแนวราบ-แนวสูงที่อยู่ระหว่างขายได้รับการตอบรับในเกณฑ์ดี คาดว่าบริษัทจะสามารถรับรู้ยอดโอนกรรมสิทธิ์ได้เกินเป้าหมายที่วางไว้

โดยสามารถทำยอดขายพรีเซลโครงการแนวราบ-แนวสูง รวมกว่า 1,742.60 ล้านบาท จากโครงการหลัก ประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียม High-Rise  ARISE Vibe ภูเก็ต และ ARISE Hill โครงการแนวราบ Low-Rise BELIVE วงแหวน-สันกำแพง และ HABITAT วงแหวน-สันกำแพง แบ่งสัดส่วนกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ 34% ชาวไทย 66% และโครงการ ARISE Vibe ภูเก็ต มียอดขายพรีเซลสูงเป็นพิเศษ 865.52 ล้านบาท สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของโครงการและทำเลที่ตั้ง ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ประมาณ 2,606 ล้านบาท

ORN มีแผนสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการพัฒนาโครงการตามมาตรฐาน Green Building ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและพลังงานมากขึ้น พร้อมปรับปรุงฟังก์ชันการใช้งาน ดีไซน์ ให้มีความแตกต่าง เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าต่างชาติ อาทิ จีน เมียนมา และไต้หวัน ที่ต้องการที่พักอาศัยระยะยาว และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง

นอกจากนี้ยังร่วมมือกับสถาบันการเงินชั้นนำ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านสินเชื่อแก่ลูกค้าชาวไทย ควบคู่กับการจัดแคมเปญการตลาดพิเศษอย่างต่อเนื่อง กระตุ้นยอดขาย เพิ่มยอดโอนกรรมสิทธิ์ ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

ส่วนธุรกิจของบริษัทย่อย เตรียมรับรู้รายได้จากโรงเรียนนานาชาติ Mill Hill International School Thailand ซึ่งมีกำหนดเปิดภาคเรียนแรกในเดือนก.ย.นี้ โดยมีนักเรียนผ่านการคัดเลือกเข้าเรียนแล้วประมาณ 90 ราย และทำการเปิดรับนักเรียนสำหรับปีการศึกษาถัดไป รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่โครงการคอมมูนิตี้มอลล์ THE BACKYARD ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา มีร้านค้าเช่าแล้วกว่า 70% คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งจะเข้ามาช่วยเพิ่มแหล่งรายได้ที่มั่นคงให้กับบริษัท

“ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศยังคงซบเซา และมีทิศทางขยายผลกระทบสู่กลุ่มบ้านระดับบนมากขึ้น บริษัทเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน เพื่อปรับตัวรับมือกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดอย่างแท้จริง พร้อมปรับกลยุทธ์การตลาดและการขายให้เข้าถึงลูกค้าในแต่ละกลุ่ม สร้างรายได้ที่หลากหลาย เสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจในระยะยาว” นายอรรคเดช กล่าว

สำหรับผลประกอบการช่วงครึ่งปีแรก 2568 มีรายได้รวม 801.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 379.64 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 63.69 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8.10 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 686.23%