‘ชีวาทัย’ ออกหุ้นกู้ชุดใหม่มีผู้ค้ำประกัน อายุ 2 ปี เปิดให้จองซื้อในวันที่ 4-6 พ.ย.68

‘ชีวาทัย’ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ค้ำประกันโดยบริษัท ชาติชีวะ จำกัด อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 7.25% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยนักลงทุนสามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท และคาดเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 4-6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 นี้ โดยมีวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้เพื่อใช้ชำระคืนหุ้นกู้ CWTTH25DA บางส่วน ที่จะครบกำหนดในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2568

นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยว่า ณ ไตรมาส 2 ปี 2568 บริษัทฯ มี Backlog รวมประมาณ 980 ล้านบาท จาก 7 โครงการ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทยอยโอนตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2568 เป็นต้นไป นอกจากรายได้ด้านการขายอสังหาริมทรัพย์เดิมของบริษัทฯ แล้ว ยังเร่งสร้างรายได้จากโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการหลักที่จะรับรู้รายได้ภายในปีนี้ ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียม "ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค เอกมัย-รามอินทรา" มูลค่าโครงการ 1,264 ล้านบาท ภายใต้การร่วมทุนกับบริษัท นิปปอน สตีล โควะ เรียล เอสเตท จำกัด (NIPPON STEEL KOWA REAL ESTATE) หรือ NSKRE ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าในพื้นที่เป็นอย่างดี ปัจจุบันการก่อสร้างแล้วเสร็จเกือบ 100% คาดว่าจะรับรู้รายได้ในช่วงเดือน ธ.ค. 2568 พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังมีธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปให้เช่า จำนวน 4 โรงงาน ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ระยอง ภายใต้การร่วมทุนกับบริษัท ยูเวิร์ค 999 และ Neo727 ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีความแข็งแกร่งและมีประสบการณ์ที่ได้รับการยอมรับ คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1 ปี 2569

นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนซื้อที่ดิน 2 แปลง บริเวณถนนแจ้งวัฒนะ ซอย 15 และถนนพหลโยธิน ซอย 50 เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม มูลค่ารวมประมาณ 1,600 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างขออนุญาต EIA โดยคาดว่าจะเปิดโครงการต้นปี 2569 และสามารถทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3-4 ปี 2570 ทั้งสองโครงการ และมีแผนจะซื้อที่ดินในปีหน้าอีก 3-4 โครงการ รวมถึง Take Over 1 โครงการเป็นอย่างน้อย และสำหรับแผนการเติบโตใน 3-5 ปีข้างหน้า บริษัทฯ มีแผนที่จะซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการปีละ 4-5 โครงการเป็นอย่างน้อย โดยเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ประมาณ 60-70% และโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ประมาณ 30-40%

กลยุทธ์ของบริษัทฯ คือ มุ่งเน้นในการลดหนี้ลงมาให้มากที่สุดไม่ว่าจะเป็นหุ้นกู้หรือเงินกู้สถาบันการเงิน และจะมุ่งโอนกรรมสิทธิ์เพื่อเก็บเงินสดกลับมาให้มากที่สุด โดยมีการจัดแคมเปญการตลาดอย่างต่อเนื่อง และจะมีการ Maintain brand Image of excellent เพื่อคุณภาพและบริการหลังการขายที่ดี ถ้าเป็นลูกค้าของบริษัทฯ จะรู้ดีว่าโครงการของเรามีผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพที่ดี และมีบริการหลังการขายที่ดีมากในอุตสาหกรรม

“CHEWA หวังว่าการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้จะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเหมือนครั้งที่ผ่านมา บริษัทฯ ขอขอบคุณท่านนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจและสนับสนุนการดำเนินงานของเราอย่างต่อเนื่อง แม้ในภาวะตลาดที่มีความท้าทาย บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในการบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งด้านการพัฒนาโครงการ การควบคุมต้นทุน และการบริหารเงินทุนอย่างรอบคอบ เรามีนโยบายร่วมทุนกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินและลดความเสี่ยงในการลงทุน ทำให้สามารถขยายโครงการไปในทำเลที่มีศักยภาพสูง พร้อมสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้น บริษัทฯ ยังติดตามสภาพตลาดและนโยบายภาครัฐอย่างใกล้ชิด เช่น การลดดอกเบี้ยของแบงก์ชาติ ซึ่งช่วยเพิ่มกำลังซื้อและทำให้การลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์มีความน่าสนใจมากขึ้น ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นสร้างมูลค่าและความมั่นคงให้กับนักลงทุนทุกท่านอย่างต่อเนื่อง”