วันศุกร์ ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2568 02:38 น.

ประชาสัมพันธ์

กรมทะเลและชายฝั่ง เปิดศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ศปพ.ทช.) เพื่อดำเนินงานภารกิจด้านการป้องกันและปราบปราม

วันจันทร์ ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 21.45 น.
กรมทะเลและชายฝั่ง เปิดศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ศปพ.ทช.) 
เพื่อดำเนินงานภารกิจด้านการป้องกันและปราบปราม
 
 
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) จัดพิธีเปิดศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ศปพ.ทช.) เพื่อดำเนินงานภารกิจด้านการป้องกันและปราบปราม โดยมี ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีมอบธงชุดปฏิบัติการพิเศษ (ฉลามขาว) พร้อมประดับอาร์มเครื่องหมายชุดปฏิบัติการพิเศษ (ฉลามขาว) โดยศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ศปพ.ทช.) มีหน่วยงานประกอบด้วย กลุ่มงานปฏิบัติราชการประจำศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ทางทะเล (ศรชล.) กองป้องกันและปราบปราม ส่วนยุทธการ ส่วนพิทักษ์ทรัพยากร กรม ทช. มีเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ จำนวน 386 รายภายใต้การกำกับดูแลของ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โอกาสนี้นายอรรถพล เจริญชันษา 
อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (อทช.) นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดี ทช. ดร.พรศรี สุทธนารักษ์ รองอธิบดี ทช. นายไพรัตน์ สิทธิพล ผู้อำนวยการกองป้องกันและปราบปราม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง จากส่วนกลาง และสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 – 10 ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กรมฯ เข้าร่วมในพิธี ณ ห้องประชุมลำแพน 
 
 
ชั้น 9 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง        
         
 
ดร.ยุทธพล กล่าวว่า ในวันนี้ตนรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม และให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่กรมฯ พร้อมทั้งมอบนโยบายในการปฏิบัติงาน โดยเน้นให้ทำงานร่วมกับประชาชน และอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล เพราะถือเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็งที่สุด พร้อมทั้งให้สร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อเป็นกำลังหลักในการปฏิบัติงาน ทั้งนี้การปราบปรามการกระทำความผิดทางทะเลให้ใช้การสอบสวนเชิงลึก เพื่อนำนายทุนผู้อยู่เบื้องหลังผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้ อีกทั้งให้จัดหาเทคโนโลยีในการสำรวจตรวจพื้นที่ทะเลและชายฝั่งที่มีความรวดเร็วปลอดภัย อาทิ การใช้โดรนบินลาดตระเวน ถ่ายภาพหรือติดตามสถานการณ์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากมีอะไรที่ช่วยให้ทำงานง่ายขึ้นและปลอดภัยขึ้นเราต้องเร่งดำเนินการทันที ตามนโยบายของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) 
       
 
นายอรรถพล กล่าวว่า การปฏิบัติงานตามภารกิจ ที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อกำหนดกรอบภารกิจหลัก เพื่อป้องกันและหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้ได้อย่างทันท่วงที และยึดคืนพื้นที่จากผู้บุกรุกครอบครอง พัฒนาระบบการตรวจติดตามการเปลี่ยนแปลงพื้นที่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความเป็นเอกภาพในการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เร่งรัด และติดตามผลการดำเนินคดีด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้ถึงที่สุดโดยเร็ว อีกทั้งปฏิบัติการร่วมกับศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) และปฏิบัติงานด้านการแก้ไขปัญหา การทำประมงผิดกฎหมาย (IUU) อีกทั้งช่วยเหลือประชาชน ผู้ประสบภัยจากภัยพิบัติและการบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามภารกิจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ และคณะกรรมการนโยบายและแผน
 
 
การบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ รวมทั้งภารกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการป้องกันและคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ประกอบด้วยกลุ่มงานปฏิบัติราชการประจำศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) กองป้องกันและปราบปราม โดยแบ่งงานภายในเป็น 4 ส่วน และ 10 หน่วยงานปฏิบัติพิเศษภายใต้สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 – 10 เพื่อดำเนินการขับเคลื่อน
การดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป ทั้งนี้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) มีอัตรากำลังเจ้าหน้าที่
 
 
ผู้พิทักษ์ป่าและพิทักษ์ทะเล ที่ทำหน้าที่ในการดูแล รักษา คุ้มครอง และป้องกันทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในพื้นที่ 24 จังหวัดชายฝั่งทะเล
     
 
นายอรรถพล กล่าวต่อว่า กรม ทช. ได้บูรณาการการทำงานร่วมกันให้เป็นรูปธรรม และมีประสิทธิภาพในทุกมิติ 
ทั้งด้านทะเล ด้านชายหาด ด้านการกัดเซาะชายฝั่ง และด้านป่าชายเลน เป็นศูนย์กลางรวบรวมข้อมูลระบบปฏิบัติการ
 
 
ด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อสร้างเครือข่ายข้อมูลข่าวสารในพื้นที่ร่วมกับชุมชนชายฝั่ง และอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล ในการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ ศปพ.ทช. จะต้องมีองค์ความรู้ พร้อมจัดทำฐานข้อมูลการป้องกันและปราบปราม 
 
 
ภัยคุกคามต่อพื้นที่ทรัพยากรทางทะเล และข้อมูลของการลาดตระเวนเชิงคุณภาพทางทะเล (Smart Marine Patrol) โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านกฎหมายถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการปฏิบัติงาน มีทักษะในการสื่อสาร การเจรจา รวมถึงพาหนะ เช่น เรือตรวจการณ์ต่างๆ ต้องพร้อมใช้งานและซ่อมบำรุงอยู่เสมอ ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ 
 
 
เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้กับเจ้าหน้าที่ พร้อมเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความรอบคอบ ประเมินความเสี่ยงเพื่อป้องกันอันตราย ให้คำนึงถึงความปลอดภัย นายอรรถพล กล่าวทิ้งท้าย

หน้าแรก » ประชาสัมพันธ์