วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568 18:21 น.

ประชาสัมพันธ์

กรมอุทยานแห่งชาติฯ แจงพื้นที่ป่าแหว่งเขตอุทยานฯ สิรินาถ จ.ภูเก็ต ตรวจยึดตั้งแต่ปี 64 เผย DSI รับเป็นคดีพิเศษแล้ว

วันศุกร์ ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2566, 18.02 น.
กรมอุทยานแห่งชาติฯ แจงพื้นที่ป่าแหว่งเขตอุทยานฯ สิรินาถ จ.ภูเก็ต ตรวจยึดตั้งแต่ปี 64 เผย DSI รับเป็นคดีพิเศษแล้ว
 
 
 
นายนรินทร์ ประทวนชัย รองอธิบดี โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า  และพันธุ์พืช กล่าวว่า ตามที่เพจ ขยะมรสุม MONSOONGARBAGE THAILAND ได้มีการเผยภาพป่าแหว่งเป็นวงกว้างในพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยระบุข้อความ “ป่าในอุทยานแหว่งไปไหน จ.ภูเก็ต เงียบกริ๊บเลย ไม่ตอบไม่เป็นไร อุทยานแห่งชาติ สิรินาถ จังหวัดภูเก็ต” กรมอุทยานแห่งชาติ ฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้สั่งการให้อุทยานแห่งชาติสิรินาถ เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงประเด็นดังกล่าว 
 
 
 จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง นายสรศักดิ์ รณะนันทน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ได้รายงานว่าเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 อุทยานแห่งชาติสิรินาถดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ตรวจยึดพื้นที่บริเวณท้องที่ หมู่ที่ 1 ตำบลสาคู อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เนื้อที่ 15 - 3 - 71 ไร่ ซึ่งพื้นที่อยู่ในทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์แหลมพิศ - ปากบาง และในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ โดยจับกุมผู้ต้องหา รวม 3 คน ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสาคู จังหวัดภูเก็ต ตามบันทึกประจำวันข้อ 8 เวลา 23.00 น. ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 คดีอาญาที่ 61/2564 และคดีดังกล่าวพนักงานอัยการจังหวัด มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง โดยมีคำวินิจฉัยว่า ผู้ต้องหาทั้งสามเข้าใจว่าได้ครอบครองที่ดินดังกล่าวมาโดยชอบด้วยกฎหมายและมีอำนาจอยู่ และทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวต่อไปได้ คดีนี้ผู้ต้องหาทั้งสามให้การปฏิเสธและมีพยานเอกสารประกอบจนรับฟังได้ว่า ไม่มีเจตนาบุกรุกพื้นที่ป่าและพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติ คดีมีพยานหลักฐานไม่พอฟ้อง สำหรับความผิดฐานร่วมกันกระทำการหรืองดเว้นกระทำการไม่ว่าจงใจหรือประมาทเลินเล่อโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และก่อความเสียหายแก่อุทยานแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 จะต้องรับผิดชอบในค่าเสียหาย
 
 
แก่รัฐ  ซึ่งไม่ใช่โทษทางอาญาและไม่ใช่อัตราโทษปรับ ข้อกล่าวหาไม่มีบทกำหนดโทษทางอาญาไว้ และไม่มีมูลความรับผิดทางอาญาแต่อย่างใด จึงไม่อาจมีคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องตามบทบัญญัติในมาตราดังกล่าวได้ และในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งสามทางแพ่ง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มอบหมายให้กองนิติการพิจารณาดำเนินการเพื่อจะฟ้องคดีแพ่งต่อผู้กระทำการละเมิด ต่อไป
 
 
 สำหรับกรณีการตรวจสอบพิสูจน์สิทธิในที่ดิน (ส.ค.1) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เห็นว่าแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน ( ส.ค.1) เลขที่ 283 ไม่ตรงกับตำแหน่งที่ดินที่ครอบครอง พื้นที่มีสภาพเป็นป่าที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ จึงได้มีหนังสือ ฉบับลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 เรียนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ขอให้จังหวัดภูเก็ตแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบพิสูจน์ตำแหน่งที่ดินของแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (สค. 1) เลขที่ 283 หมู่ที่ 1 ตำบลสาคู อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต จากการตรวจสอบแปลงที่ดินบุกรุกดังกล่าว แปลงที่ดินทับซ้อนอยู่ในเขตที่ดินสาธารณประโยชน์ สำหรับเลี้ยงสัตว์ ประกาศหวงห้าม เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2474 มีสภาพแปลงที่ดินเป็นป่าทั้งแปลงอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จึงขอให้พิจารณาดำเนินการจำหน่าย ส.ค. 1 เลขที่ 283 หมู่ที่ 1 ตำบลสาคู อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ออกจากทะเบียนการครอบครองที่ดินตามระเบียบราชการแต่ต่อมาจังหวัดภูเก็ตแจ้งผลการตรวจสอบว่า หลักฐาน ส.ค. 1 ไม่ตรงกับตำแหน่งที่ดินที่ครอบครอง มิใช่เป็นการแจ้งการครอบครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และยังไม่มีการพิสูจน์ตำแหน่งที่ดินตามหลักฐาน ส.ค. 1 แต่อย่างใด จึงไม่สามารถดำเนินการจำหน่าย ส.ค. 1 เลขที่ 283 หมู่ที่ 1 ตำบลสาคู อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ตามระเบียบกรมที่ดินได้  
 
 
 โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มิได้ปล่อยปละละเลยเรื่องดังกล่าว โดยได้พยายามที่จะรักษาผืนป่าและทวงคืนให้กลับมาเป็นของรัฐ โดยได้ขอความอนุเคราะห์กรมสอบสวนคดีพิเศษ (D.S.I) พิจารณาสอบสวน ตำแหน่งอาณาเขตที่ข้างเคียง เนื้อที่อยู่ในพื้นที่บริเวณใด และมีการนำ ส.ค.1 ฉบับดังกล่าวไปออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้วหรือไม่ อย่างไร ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มอบหมายให้กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พิจารณาดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมสอบสวนคดีพิเศษ