วันศุกร์ ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 05:34 น.

ประชาสัมพันธ์

กระแสเชิงบวก! ลดภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บางชนิด หนุนไทยยกระดับเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว

วันพฤหัสบดี ที่ 07 มีนาคม พ.ศ. 2567, 16.20 น.

กระแสเชิงบวก! ลดภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บางชนิด หนุนไทยยกระดับเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว

 


จากที่กรมสรรพสามิตได้ออกมาตรการลดภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บางประเภท รวมถึงภาษีสรรพสามิตสำหรับไวน์  โดยลดอัตราภาษีตามมูลค่าลงครึ่งหนึ่ง จาก 10% เป็น 5% และลดอัตราภาษีตามมูลค่า สำหรับสุราแช่ชุมชน จาก 10% เป็นศูนย์ มีผลตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 รวมทั้งมาตรการลดการเก็บภาษีสรรพสามิตจากรายรับสถานบันเทิงเหลือเพียงครึ่งหนึ่งจาก 10% เป็น 5% ในปีนี้ นั้น ด้านผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) และการท่องเที่ยว มองว่า มาตรการด้านภาษีเหล่านี้อาจมีผลประโยชน์เฉพาะผลิตภัณฑ์บางประเภทเท่านั้น แนะให้มีการปฏิรูปเพิ่มเติมเพื่อขับเคลื่อนการฟื้นตัวภายในประเทศและการเติบโตของภาคการบริการ อาหารและเครื่องดื่ม และการท่องเที่ยว รวมถึงการสร้างประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการในท้องถิ่น พนักงาน และรายได้ของรัฐบาล


คุณเขมิกา รัตนกุล นายกสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย (TABBA) กล่าวชื่นชมการดำเนินการเชิงบวกของรัฐบาลในการลดภาษีสินค้าไวน์และสุราแช่ชุมชน ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) และการท่องเที่ยว โดยคาดว่ารายรับภาษีที่ลดลงจะถูกชดเชยด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากความต้องการสินค้าเหล่านี้


เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายของรัฐบาลในการทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับพรีเมี่ยม ภาคเอกชนแนะให้มีการทำ “กิโยตินกฎหมาย” อาทิ ปลดล็อคการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลา 14.00 น. - 17.00 น. มาตรการโซนนิ่ง และมาตรการควบคุมการโฆษณา ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจและตอบสนองความคาดหวังของนักท่องเที่ยว ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ในการทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวและอาหาร โดยปี 2030 รัฐบาลไทยมุ่งมั่นในการส่งเสริมวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศผ่านซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งอาหารและเครื่องดื่มเป็นส่วนสำคัญ

 

คุณมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า โซจูเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ซอฟต์พาวเวอร์ของเกาหลีและเชื่อว่าประเทศไทยสามารถทำเช่นเดียวกันกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ท้องถิ่น เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยแล้วรู้สึกไม่ประทับใจเมื่อพบว่าราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงหรือไม่สามารถซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงบ่ายได้ ทำให้ภาพรวมของค็อกเทลในประเทศไทยมีราคาแพงกว่าในประเทศของพวกเขา ข้อบังคับอีกข้อหนึ่งที่มีผลต่อโรงแรมคือการห้ามโฆษณาเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งทำให้เราไม่สามารถประชาสัมพันธ์โปรโมชั่นที่เป็น Happy Hours ได้ ซึ่งนับว่าเป็นส่วนสำคัญของวิธีการสร้างรายได้ของกลุ่มโรงแรม
ทั้งนี้ จากรายงานการวิจัย  "International Wine and Spirits in ASEAN: The Economic Contribution of the International Wine and Spirits Value Chain in Thailand and  Vietnam" จัดทำโดย Oxford Economics  พบว่าเครื่องดื่มไวน์และสุราต่างประเทศมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจอย่างมากในประเทศไทย โดยมีความต้องการไวน์และสุราต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงิน 198 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (6.9 พันล้านบาท) ใน GDP ปี 2022 โดยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงิน 24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (0.8 พันล้านบาท) จากปี 2021 ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้มีงานทำ 20,500 อัตราและสร้างรายได้จากภาษีเป็นจำนวนเงิน 292 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (10.0 พันล้านบาท) ในปี 2022 ด้วย

 

หน้าแรก » ประชาสัมพันธ์