ทส. โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระดับภูมิภาคอาเซียน

ชู "น้ำบาดาล" เป็นวาระสำคัญในกรอบความร่วมมืออาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม

นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เป็นประธานแถลงข่าวการจัดประชุมระหว่างประเทศ เรื่อง “การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบาดาล ในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Groundwater Management)” ภายใต้หัวข้อ Regional Meeting on ASEAN Groundwater Resources Management ระหว่างวันที่ 19 - 20 พฤษภาคม 2568 ณ โรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพฯ พร้อมกิจกรรมศึกษาดูงาน วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ณ จังหวัดฉะเชิงเทรา

การประชุมครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน ยกระดับองค์ความรู้ ประสบการณ์ และแนวทางปฏิบัติที่ดีด้านการบริหารจัดการน้ำบาดาล รวมถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำบาดาลอย่างยั่งยืน 

โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานด้านน้ำบาดาลของประเทศสมาชิกอาเซียน ผู้แทนเลขาธิการอาเซียน และองค์กรระหว่างประเทศด้านการพัฒนาและการเงิน ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการบริหารจัดการน้ำของไทย เข้าร่วม

นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า น้ำบาดาล เป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงด้านน้ำของภูมิภาคอาเซียน แต่ที่ผ่านมาประเด็นนี้ยังไม่ได้รับความสนใจอย่างเพียงพอในเวทีระดับภูมิภาค การประชุมครั้งนี้จึงนับเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และผลักดันให้การบริหารจัดการน้ำบาดาล เป็นวาระสำคัญในกรอบความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมของอาเซียน เพื่อให้ทุกประเทศสามารถปรับตัวและรับมือกับวิกฤตน้ำและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาลของไทย มีความเชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยา อุทกธรณีวิทยา วิศวกรรม และการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการ บริหารจัดการและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำบาดาล พร้อมทั้งมีกฎหมายที่สำคัญ เช่น พระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. 2520 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการกำกับควบคุมการใช้น้ำบาดาลอย่างยั่งยืน ความสำเร็จของไทยในเวทีนานาชาติ ทั้งด้านการศึกษาวิจัย และความร่วมมือระหว่างประเทศ สะท้อนถึงศักยภาพของไทยในการเป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการน้ำบาดาลในภูมิภาค

สำหรับผลจากการประชุมครั้งนี้ จะได้รับการนำเสนอในการประชุมคณะทำงานอาเซียนด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ (AWGWRM) การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม (ASOEN) และการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม (AMME) เพื่อผลักดันให้ประเด็นเรื่องน้ำบาดาลได้รับการกล่าวถึงมากขึ้นในกรอบความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมของอาเซียน และสนับสนุนการบรรลุ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เป้าหมายที่ 6 ด้านน้ำสะอาดและสุขอนามัย 

ดังนั้น การประชุมครั้งนี้ ไม่เพียงแต่สร้างเครือข่ายและความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการน้ำบาดาลในภูมิภาคอาเซียน เพื่อรับมือกับวิกฤตน้ำและความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคต