มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จับมือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จัดอบรมหลักสูตร “การค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (Urban Search And Rescue)” หรือ USAR ให้แก่ทีมบรรเทาสาธารณภัยของมูลนิธิฯ เพื่อเสริมศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยจัดการฝึกอบรม ณ ศูนย์ฝึกอบรมอาสาสมัครป้องกันฝ่ายพลเรือน จังหวัดชัยนาท
การอบรมครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม 2568 โดยมีนายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ และนายสุรพงศ์ เสรฐภักดี กรรมการและรองเหรัญญิก มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นประธานมอบวุฒิบัตรให้แก่ผู้ผ่านการอบรม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยาน

ภายในหลักสูตร มีการถ่ายทอดความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ อาทิ การตรวจสอบโครงสร้างอาคาร การวิเคราะห์รอยร้าวและสาเหตุอาคารวิบัติ การแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้น เทคนิคการลดความเสี่ยงการพังทลายของอาคาร รวมถึงการกำหนดสัญลักษณ์ค้นหา การปฏิบัติภารกิจของสุนัขกู้ภัย (K9) และการใช้เครื่องมือกู้ภัยสมัยใหม่ โดยมีนายเกริกเสกข์สัณห์ วาสะสิริ ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการพิเศษค้นหาและกู้ภัย ปภ. ผศ.ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร และทีมผู้เชี่ยวชาญร่วมเป็นวิทยากร

นอกจากเนื้อหาด้านเทคนิคแล้ว การอบรมยังมุ่งเน้นสร้างความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจให้เจ้าหน้าที่กู้ภัย เนื่องจากการทำงานในสถานการณ์ภัยพิบัติจริงต้องอาศัยความแข็งแกร่ง ความอดทน และการทำงานเป็นทีม เพื่อความปลอดภัยของทั้งผู้ประสบภัยและทีมกู้ภัยเอง

นายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เปิดเผยว่า มูลนิธิฯ เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ ปภ. เพื่อร่วมมือกันทั้งด้านวิชาการและปฏิบัติการ ซึ่งช่วยยกระดับมาตรฐานงานบรรเทาสาธารณภัยให้ทัดเทียมนานาชาติ

ที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเคยจัดการอบรมหลักสูตร USAR รุ่นแรกเมื่อปี 2566 ซึ่งสามารถนำความรู้ไปใช้ได้จริง เช่น ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อเดือนมีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ทีมกู้ภัยของมูลนิธิฯ สามารถเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงทีและปลอดภัย

ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับผู้ยากไร้โดยไม่จำกัดเชื้อชาติหรือศาสนา แต่ยังพัฒนาโครงการและบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ดูแลประชาชนอย่างครบวงจร ภายใต้ปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

ทั้งนี้ มูลนิธิฯ เตรียมขยายหลักสูตรฝึกอบรมให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นในอนาคต เพื่อให้เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครมีความพร้อมสูงสุด ในการเผชิญกับภัยพิบัติทุกรูปแบบที่อาจเกิดขึ้นในประเทศไทย

ผู้เข้าอบรมต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า การฝึกครั้งนี้ให้ทั้งความรู้ เทคนิค และประสบการณ์จริงที่สามารถนำไปใช้ได้ทันทีในสถานการณ์ฉุกเฉิน ถือเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชน