ประชาสัมพันธ์
กรมลดโลกร้อน มอบ 160 รางวัล ทสม. และเครือข่าย ทสม. ดีเด่น ประจำปี 2568
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
กรมลดโลกร้อน มอบ 160 รางวัล ทสม. และเครือข่าย ทสม. ดีเด่น ประจำปี 2568
สนับสนุนการดำเนินงานแก้ไขปัญหาโลกเดือด สร้างความเข้มแข็งในระดับพื้นที่
.
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม จัดกิจกรรมวัน ทสม. แห่งชาติ เปิดเวที “พลัง ทสม. ฟื้นธรรมชาติ สู่วิกฤตภูมิอากาศ” พร้อมมอบรางวัลเชิดชูเกียรติ ทสม. และเครือข่าย ทสม. ดีเด่น ประจำปี 2568 รวม 160 รางวัล สร้างพลังขับเคลื่อน ต่อยอดการดำเนินงานด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ พร้อมสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย โดยได้รับเกียรติจากนางปรีญาพร สุวรรณเกษ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดการประชุมพร้อมมอบรางวัลเชิดชูเกียรติ พร้อมด้วยนายโกเมศ พุทธสอน รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าวรายงาน มีผู้ร่วมงานจากผู้แทน ทสจ. และเครือข่าย ทสม. 76 จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงานกว่า 400 คน ณ โรงแรมมารวย การ์เด้น กรุงเทพมหานคร
.
นางปรีญาพร สุวรรณเกษ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า วิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่โดยเฉพาะเหตุกาณ์น้ำท่วม ดินโคลนถล่มในภาคเหนือ น้ำท่วมน้ำหลากในภาคกลาง และน้ำท่วมใหญ่ในภาคใต้ ที่เกิดขึ้นในปีนี้ ซึ่งภัยพิบัติเกิดขึ้นในหลายประเทศ ทำให้ทุกประเทศเร่งยกระดับความมุ่งมั่นเพื่อจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยประเทศไทยได้แสดงจุดยืนในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 30 หรือ COP 30 ที่ประเทศบราซิล ภายใต้แนวคิด การรวมพลังของประชาคมโลก โดยเน้นการมองคนเป็นศูนย์กลาง สนับสนุนการขับเคลื่อนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) และสร้างภูมิคุ้มกันในการปรับตัวการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน และมุ่งเน้นการสร้างกระแสให้เกิดการดำเนินการจากระดับท้องถิ่นถึงระดับโลก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เร่งผลักดัน ร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นกฎหมายที่จะกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนประเทศไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างเป็นระบบ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นเชอบเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา และเมื่อมีผลบังคับใช้ ทสม. จะมีบทบาทสำคัญในการเป็นเครือข่ายอาสาสมัครภาคประชาชน ที่จะเป็นผู้นำขับเคลื่อนงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
.
นางปรีญาพร กล่าวต่อว่า ทสม. เป็นกลไกการสื่อสารและการปฏิบัติการ ที่จะทำให้เป้าหมายทั้งในระดับประเทศและระดับโลกเกิดขึ้นจริงในพื้นที่ชุมชน ทั้งด้านลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น การส่งเสริมการคัดแยกและจัดการขยะมูลฝอยอย่างถูกวิธีในชุมชน การเป็นผู้นำสร้างพื้นที่ต้นแบบเพิ่มพื้นที่สีเขียว การปลูกป่าชุมชนเพื่อเพิ่มแหล่งดูดซับคาร์บอน ขณะที่ด้านการปรับตัวและสร้างภูมิคุ้มกัน ทสม. จะเป็นผู้เฝ้าระวังและอนุรักษ์ ปราการธรรมชาติให้ระบบนิเวศทำหน้าที่ลดความเสี่ยงและสร้างภูมิคุ้มกันแก่ชุมชนจากภัยพิบัติ ส่วนการเข้าถึงกลไกการเงิน ทสม. จะเป็นผู้สร้างโครงการต้นแบบที่มีศักยภาพ เช่น โครงการคาร์บอนเครดิตในชุมชน เพื่อให้สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากกลไกทางการเงินใหม่ อย่างเป็นรูปธรรมและเท่าทัน อีกทั้ง ทสม. ยังเป็นโซ่ข้อกลางระหว่างชุมชน และหน่วยงาน ในกบูรณาการการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการจัดการสิ่งแวดล้อมในระดับพื้นที่ “พลังของเครือข่าย ทสม. จะเป็นกลไกการสื่อสารและการปฏิบัติในการลดก๊าซเรือนกระจก และการปรับตัวในพื้นที่ เปลี่ยนวิกฤตสภาพภูมิอากาศให้เป็นโอกาสในการพัฒนาที่ยั่งยืน และบรรลุเป้าหมายของประเทศไทยตามพันธกรณีระดับโลก” ด้าน นายโกเมศ พุทธสอน รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีเครือข่าย ทสม. มากกว่า 300,000 คน ทั่วประเทศ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ได้คัดเลือกต้นแบบการทำงานด้วยจิตอาสา ด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในระดับพื้นที่ เพื่อเป็นแบบอย่างการทำงาน ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด 76 จังหวัด มาตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน สำหรับในปี 2568 ดำเนินการคัดเลือก แบ่งออกเป็น 2 ระดับ ได้แก่ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ มีการแบ่งผลงานการคัดเลือกออกเป็น 2 สาขา 7 ด้าน คือ สาขาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 3 ด้าน คือ 1) ด้านการจัดการทรัพยากรป่าไม้ และพื้นที่สีเขียว 2) ด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ และ 3) ด้านการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ และสาขาการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จำนวน 4 ด้านคือ 1) ด้านการจัดการขยะมูลฝอยเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 2) ด้านการจัดการไฟป่า หมอกควัน และการเผาในที่โล่ง 3) ด้านการเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร และ 4) ด้านการจัดการระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างพลังขับเคลื่อนการดำเนินงานของเครือข่าย ทสม. ให้เกิดความเข้มแข็งยิ่งขึ้น ตลอดจนสามารถยกระดับ และพัฒนาต่อยอดการดำเนินงานด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในระดับพื้นที่ให้เป็นที่ประจักษ์ของสังคม
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » ประชาสัมพันธ์
ข่าวในหมวดประชาสัมพันธ์ ![]()
PTG มอบน้ำมันเชื้อเพลิง 3 หมื่นลิตรให้กองทัพภาคที่ 4 หนุนภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ 05:41 น.- “รองนายกฯ สุชาติ” ระดมทีมกู้ภัยทางน้ำ 15 ทีม–เรือ 25 ลำ ลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ตลอด 24 ชั่วโมง 05:16 น.
- DEMCO ร่วมส่งมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ 21:32 น.
- SFLEX คว้า 2 รางวัลจากเวที SET AWARDS 2025 ต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน 19:37 น.
- SPREME เร่งส่งมอบงาน–ลุยเมกะโปรเจค ดันปี 68 โตต่อเนื่อง 11:17 น.


