วันศุกร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567 10:21 น.

สังคม-สตรี

ละมุน เบบี้ รักษาตำแหน่งผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคสำหรับแม่และเด็ก

วันอังคาร ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2563, 16.09 น.

ละมุน เบบี้ รักษาตำแหน่งผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคสำหรับแม่และเด็ก โตถึง34% จาก 3 สินค้าขายดี โฟมอาบน้ำ น้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างขวดนม ปรับกลยุทธ์รุกตลาด Modern Trade เพิ่ม Distribution ให้เข้าถึงคุณแม่ยุคใหม่มากขึ้น ปฎิวัติวงการเปิดตัวถุงเก็บน้ำนมลดกลิ่นหืนเอาใจแม่สายปั้ม ผลตอบรับดีมาก โกยส่วนแบ่งการตลาด สวนกระแสภาวะเศรษฐกิจ

ละมุนเบบี้ ก้าวสู่ปีที่ 10 อย่างมั่นคง ทุบสถิติมูลค่าการตลาด 130 ล้านบาทในปีนี้ตามคาดจากการเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตลุยต่อเนื่องก้าวกระโดดมั่นใจรายได้ ถึง200 ล้านบาทในปี 2020จากการที่มี R&D และ Supply Chain ที่มีความพร้อมสูงเตรียมนำเสนอสินค้าใหม่อีก 2 รายการในปี 2020 คือ Spray กันยุงและยาสีฟันสูตร Non Fluoride สำหรับเด็กโต มั่นใจพ่อแม่ยุคใหม่หาข้อมูลตามเทรนด์โลก

คุณเนตรนพิศ  รุ่งธนเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ละมุนเบบี้ จำกัด กล่าวถึงกระแสผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค ว่าละมุนมั่นใจด้วยความเป็น Brand แรกๆ ของไทยที่เข้ามาเปิดตลาด Organic อย่างจริงจังตั้งแต่ยังไม่เป็นกระแส พร้อมยืนยันจุดแข็งที่ใช้เฉพาะส่วนผสมจากสารสกัดจากธรรมชาติ100% เท่านั้น ไม่กลัวแบรนด์ใหญ่หรือแบรนด์ใหม่ๆกระโดดลงมาเล่นตลาดนี้เพราะเชื่อว่าเป็นเราคือ Number one จากการวางมาตรฐานความเป็นออร์แกนิคของละมุนไว้ว่าผลิตภัณฑ์ต้องมีแหล่งต้นกำเนิดจากธรรมชาติในทุกส่วนผสม รวมถึงวัตถุดิบที่ใช้ต้องมีใบรับรองและผ่านการทดสอบคุณภาพว่าไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ไม่มีน้ำหอม และสารเคมี  กว่า 10 ปีที่บุกเบิกเข้ามาในตลาดนี้ จับกลุ่มแม่ในเมืองที่มีลูกน้อยลงแต่กำลังการจ่ายสูงจนละมุนไม่กลัวคู่แข็งเพราะคิดว่าเป็นการส่งเสริมตลาดให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้นและยิ่งสร้างกระแสสินค้าOrganic ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และทำให้เราต้องยิ่งรักษาคุณภาพเร่งพัฒนาสินค้าไกลจากแบรนด์อื่นๆส่งผลให้ละมุนเติบโตต่อเนื่องโดย2-3 ปีให้หลังมานี่  หากเทียบกับตลาดรวมสินค้าเด็กที่มีมูลค่ากว่า 5,800 ล้านบาท ติดลบที่  -1.1%แบรนด์ “ละมุน ” สามารถเติบโตมากกว่าตลาดรวม อยู่ที่ 34%

คุณเนตรนพิศ กล่าวต่ออีกว่า “ปัจจุบันสินค้าของละมุนเบบี้ Focus เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆได้แก่ สินค้าหลักขายดีตลอดกาลAll-time Best Sellerไม่ใช่แค่Must Try แต่ละมุนมั่นใจว่าเป็นMust Have Item ที่แม่ทุกคนต้องใช้คือ โฟมอาบน้ำสระผม น้ำยาล้างขวดนม น้ำยาซักผ้า เป็นสินค้าที่ขายดีสูงสุดตลอดการเป็นสินค้าที่ทำให้แม่ละมุนรู้จักเรามากที่สุดด้วยคุณภาพสินค้าที่แตกต่างอย่างชัดเจนกับผลิตภัณฑ์อื่นที่มีอยู่ในท้องตลาด ทำให้เมื่อได้ลองใช้แล้วเกิดความประทับใจ กลับมาซื้อซ้ำ รวมถึงเกิดการบอกต่อในวงกว้าง หรือเอาไปรีวิวต่อทำให้ยอดขายสินค้ากลุ่มนี้โตขึ้น100% นอกจานี้เรามีการนำสินค้าขายดีมาทำ Welcome Baby Set ออกมาสำหรับคุณแม่มือใหม่โดยเฉพาะ นอกจากกลุ่มคุณแม่ที่ซื้อไปใช้เองแล้ว ก็ยังรวมถึงลูกค้าอีกกลุ่มที่ไม่ได้มีลูกแต่นิยมซื้อไปเยี่ยมแม่ลูกอ่อนตามโรงพยาบาล ทั้งหมดนี้เมื่อคุณแม่มือใหม่ท้องแรกได้ลองซื้อ Set นี้ก็ต้องกลับมาซื้อซ้ำ หรือพอคลอดลูกไปแล้วเจอปัญหาผดผื่นซึ่งเป็นปัญหาที่เกือบทุกบ้านเจอ เพราะเด็กแพ้สารเคมีลองเปลี่ยนมาใช้ละมุนเป็นทางเลือกก่อนต้องพาไปหาหมอ เพราะบางครั้งอาจแพ้อาหารหรือปัจจัยอื่นๆอันนั้นต้องให้คุณหมอดูแลแต่ถ้าเปลี่ยนน้ำยาซักผ้า หรือโฟมอาบน้ำแล้วจบแม่ก็สบายใจลูกก็Happy

Strong Growth สินค้าที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องอาทิ สเปรย์ทำความสะอาดของใช้เด็ก ยาสีฟันที่ไม่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ใช้ได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนแป้งเด็กที่ไม่มีส่วนผสมของ Talcum น้ำยาล้างผักและผลไม้ ที่ตอบรับNature and Hygienic trend ของโลกตอนนี้หรือแผ่นแปะกันยุงที่เราเพิ่งได้รางวัล Mom Choice’s Award มาเมื่อเดือนที่ผ่านมาจากการโหวตของคุณแม่ สินค้ากลุ่มนี้แม้จะไม่ได้มีสัดส่วนการขายที่สูงมากแต่มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สูงมากเป็นสินค้าที่มีอนาคตในการเพิ่ม Basket Size ของครอบครัวและคนรักสุขภาพ

Rising Star สินค้าดาวรุ่ง มาแรงผลิตภัณฑ์สำหรับคุณแม่ให้นม ของMum ต้องมีโดยมีดาวเด่นได้แก่ถุงเก็บน้ำนมที่มีจุดขายโดดเด่น ตอบโจทย์ทุกความต้องการของแม่ให้นม แตกต่างจากสินค้าที่มีอยู่ตามท้องตลาดอย่างชัดเจน ซึ่งละมุนได้จับเทรนด์ “การเลี้ยงลูกให้นมแม่” มานานแล้ว เป็น Global Trend สินค้าขาดตลาดตั้งแต่เดือนแรก หลังจากเปิดตัวได้เพียง 15 วัน โดยตัวถุงเก็บน้ำนมนี้ต่อยอดมาจากที่ประคบหน้าอก บาล์มทาหัวนมและริมฝีปาก ผ้าคลุมให้นมลูก และกระเป๋าเก็บอุณหภูมิละมุนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ความเป็นแม่ ตอบโจทย์แม่ยุคใหม่ เพราะนมแม่คือ Organic Love บริสุทธิ์ที่สุด สร้างภูมิคุ้มกัน เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางกายและเสริมสายใยความรักแม่ลูกได้อย่างเปี่ยมล้นการที่เราจับเทรนด์นี้และผลิตออกมา แรกก็เกิดสินค้าขาดตลาดเกือบเดือน สร้างปรากฎการณ์Happy Crisis Management  จนต้องทำขนาด 5 ออนซ์ และแบบ 3 in 1 เพื่อเอาใจคุณแม่กลุ่มนี้โดยเฉพาะ ซ้ำยังสร้างความฮือฮาด้วยการออกถุงเก็บน้ำนมLimited Edition เป็น Festive Holiday Design เพื่อเป็นกำลังใจให้คุณแม่มีความสุขกับการปั้มนมในทุกๆวัน

นอกจากนี้จะสังเกตได้จากเวลาออกงานอย่างงาน Baby Fairต่างๆทุกครั้งยอดขายเพิ่มขึ้นทุกครั้งลูกค้าใหม่เค้ามาเฉลี่ยครั้งละ 3,000-5,000 คน ยอดขายเฉลี่ยต่อบิลล์อยู่ที่ 2,000 บาท โดยลูกค้าประจำหรือแม่ใหม่ซื้อยกเซ็ท มักซื้อบิลล์ใหญ่ครั้งละไม่ต่ำว่าหมื่นบาท  หลายคนมาเพราะเพื่อนที่มีลูกมากก่อนแนะนำมว่าต้องละมุนเท่านั้น รวมถึงลูกค้าต่างชาติที่อยู่เมืองไทยหาข้อมูลพูดคุยตลอดเวลาว่าต้องละมุนเบบี้ เท่านั้น เราเริ่มต้นจากการทำธุรกิจจากแม่ที่ต้องการแก้ปัญหาผดผื่นคัน จนลองมาทำขายแล้วเกิดกระแสบอกต่อ ดาราเซเลปและลูกค้ารีวิวให้เองเพราะความเชื่อมั่นในแบรนด์ที่มีมาอย่างยาวนานและคุณภาพของสินค้าที่แตกต่างตอกย้ำความสำเร็จด้วยรางวัลมหาชนจาก ETDA*และ Sticker กันยุงที่ คุณแม่ Vote มาทาง Amarin Baby & Kidsละมุนเบบี้มีจำหน่ายในแผนกเด็กที่ห้างสรรสินค้าเซ็นทรัล โรบินสัน เดอะมอลล์  แต่ช่องทางที่นิยมสั่งสินค้ามากที่สุดก็คือออนไลน์เพราะต้องการความสะดวกและรวดเร็วทั้งจากwww.lamoonbaby.com  Facebookและ Line@ Lamoonbaby LazadaShopee แต่ละมุนก็ขยายDistribution ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่มากยิ่งขึ้นผ่านSupermarket ชั้นนำ อาทิ Tops Gourmet Big C Villa รวมถึงร้านขายยาBoots ที่และ Kingpowerที่ตอบโจทย์ลูกค้าต่างชาติหรือชาวจีนที่นิยมสินค้าเด็กจากไทยและญี่ปุ่นปีนี้มีสัดส่วนการขายในModern trade และตัวแทน 50% และอีก 50% ผ่านช่องทางออนไลน์และงานFair ต่างๆ

คุณเนตรนพิศ  รุ่งธนเกียรติ ยังกล่าวถึงการทำตลาดในต่างประเทศ ปัจจุบันได้ส่งออกผลิตภัณฑ์ผ่านตัวแทนจำหน่ายไปประมาณ 8 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม ลาว กัมพูชา สิงค์โปร มาเลเซีย จีน ตอนนี้ต่างประเทศตอนนี้มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 20% เทียบกับในประเทศ แต่เนื่องจากปีหน้าเราจะเข้าจีนแบบเต็มตัวซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่และมีศักยภาพค่อนข้างสูง คาดว่าจะช่วยผลักดันรายได้จากการส่งออกในปีหน้าเพิ่มขึ้น 300% และแผนที่จะเข้าไปเล่นตลาดจีน อินโดนีเซีย ฟิลิปินส์ รวมถึงกลุ่มอาหรับและตะวันออกกลางอย่างเต็มตัว สำหรับปี 2020 ทำให้บริษัทตั้งเป้ารายได้การเติบโตไว้ประมาณ 54 % และตั้งเป้าผลักดันรายได้รวมเพิ่มเป็นปีละ200ล้านบาทโดยหัวใจหลักจะมาจากการพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มสินค้ามากขึ้นและการทำการตลาดที่เข้าถึงคุณแม่ตั้งแต่เตรียมพร้อมการตั้งครรภ์ และขยายอายุให้ใช้ต่อเนื่องนานขึ้นจนลูกโต ทั้งนี้เรายังเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมทั้งการออกผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ refill เพื่อลดปริมาณขยะและพัฒนาแพคเกจจิ้งให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการเติบโตของลูกและเพื่อความยั่งยืนของโลก

หน้าแรก » สังคม-สตรี

ข่าวในหมวดสังคม-สตรี