ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็น “ครัวโลก” เราจึงได้เห็นนวัตกรรมอาหารใหม่ๆ ออกสู่ท้องตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งอาหารจานหลักและเครื่องเคียงที่ช่วยเสริมรสชาติอาหารหลักให้เด็ดยิ่งกว่าเดิม เช่นนวัตกรรมอาหาร “น้ำจิ้มผงตราลุงนวย” ของ “ภูเบศร์ รัตนวิมล” กรรมการผู้จัดการ บริษัทแอลเอ็น อินโนเทค จำกัด

ภูเบศร์เล่าที่มาของน้ำจิ้มผงลุงนวยว่า  เกิดจากโปรเจ็กต์ส่งอาจารย์สมัยเรียนปริญญาโท “ช่วงนั้นผมนัดกินข้าวกับเพื่อนที่ร้านลุงนวยบ่อย อาหารอร่อยมาก เวลากินข้าวก็จะเห็นน้ำจิ้มแจ่ว น้ำจิ้มซีฟู้ด ไว้กินคู่กับอาหาร ทำให้เกิดไอเดียทำน้ำจิ้มขึ้นมา และขอชื่อร้านลุงนวยมาเป็นชื่อน้ำจิ้ม”

น้ำจิ้มผงกึ่งสำเร็จรูปตราลุงนวยแตกต่างจากน้ำจิ้มทั่วไปในท้องตลาดที่มักจะเป็นซอสเหลว แต่ภูเบศร์คิดต่างด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมน้ำจิ้มในรูปแบบผง ผ่านกรรมวิธีการผลิตจากโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน GMP & HACCP และ อย. แปรรูปวัตถุดิบปรุงน้ำจิ้มให้กลายเป็นผง เมื่อนำมาผสมน้ำอุ่นกลายเป็นน้ำจิ้มรสเด็ด อร่อย เข้มข้น จัดจ้าน สไตล์ไทยแท้ มีกลิ่นและรสชาติเหมือนน้ำจิ้มปรุงสด เป็นน้ำจิ้มที่ไม่ใส่ผงชูรสและไม่มีวัตถุกันเสีย สามารถพกพาไปได้สะดวกทุกที่ ปรุงง่าย ไม่ต้องเสียเวลาจัดเตรียมวัตถุดิบ และเก็บไว้ในนานอย่างน้อย 1 ปี นับจากวันผลิต

“น้ำจิ้มผงตราลุงนวยมีจุดเด่น คือ มีเนื้อสัมผัส (Texture) ของวัตถุดิบในตัวน้ำจิ้ม เช่น น้ำจิ้มซีฟู้ดมีพริกเขียวและพริกแดง น้ำจิ้มแจ่วมีต้นหอมและหอมแดง ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเมื่อปรุงเสร็จแล้วมีหน้าตา รสชาติ ลักษณะเหมือนน้ำจิ้มปรุงสด”

หลังจากมีน้ำจิ้มสูตรเด็ดอยู่ในมือแล้ว ภูเบศร์ก็คิดขยายตลาดไปต่างประเทศ จึงต้องการปรับบรรจุภัณฑ์ให้สะท้อนอัตลักษณ์แบรนด์ มีความเป็นพรีเมียม ดีไซน์เป็นสากลมากขึ้น มีความโดดเด่นเตะตาคนซื้อเมื่อวางอยู่บนชั้นจำหน่าย บรรจุภัณฑ์รูปแบบกล่องนำไปใช้งานได้ง่าย โดยภูเบศร์ได้ร่วมกับทีมดีไซเนอร์ในโครงการสร้าง SMEs ไทยสู่เวทีการค้าสากล (ต้นกล้า ทู โกล) ออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่ได้อย่างลงตัว และคว้ารางวัล “การออกแบบบรรจุภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์” ไปครองได้สำเร็จ

“การร่วมโครงการต้นกล้า ทู โกล ทำให้ผมได้บรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตัวตนของแบรนด์ มีความทันสมัย เหมาะกับตลาดต่างประเทศมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้อัปเดตความรู้ใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์กับการทำธุรกิจจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ได้แลกเปลี่ยนมุมมองประสบการณ์การทำธุรกิจกับเพื่อนผู้ประกอบการ และพบกับผู้ซื้อที่มีศักยภาพทั้งบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของไทยและตัวแทนจำหน่ายสินค้าไทยในต่างประเทศ เช่น จีน ฮ่องกง และอาเซียน ด้วย”

ตามแผนการขยายธุรกิจในอนาคต ภูเบศร์มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายชัดเจน คือ คนไทยและชาวต่างชาติในประเทศไทย คนไทยที่อยู่ในต่างประเทศ ชาวต่างชาติที่ชอบกินอาหารไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ชอบแคมปิ้ง ซึ่งภูเบศร์คาดหวังว่าการเจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อในโครงการต้นกล้า ทู โกล จัดโดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จะช่วยให้เขาสามารถเปิดตลาดใหม่ๆ ได้สำเร็จในอนาคต

โครงการต้นกล้า ทู โกล เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 11 มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ SMEs ท้องถิ่น ให้สามารถต่อยอดแนวคิดและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์เทรนด์โลกและความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย และสามารถดำเนินธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน