วันเสาร์ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2568 14:22 น.

สังคม-สตรี

การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมีความสำคัญไหม ต้องทำอย่างไรบ้าง

วันจันทร์ ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567, 13.02 น.

รู้หรือไม่? มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับต้นๆ ของผู้หญิงไทย โดยพบผู้ป่วยใหม่ปีละกว่า 5,500 คน และเสียชีวิตปีละกว่า 2,200 คน จึงไม่ใช่เรื่องเกินความจริงเลย ถ้าจะบอกว่าผู้หญิงทุกคนมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูก ด้วยเหตุนี้ การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เป็นวิธีสำคัญในการค้นหาโรคในระยะเริ่มต้น ช่วยให้รักษาได้ทันท่วงที เพิ่มโอกาสรอดชีวิตสูง

รู้ทันสาเหตุของมะเร็งปากหมดลูก

            ก่อนจะไปดูว่าการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกต้องทำอย่างไร เรามาทำความเข้าใจถึงสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกกัน

สาเหตุหลักของโรคนี้คือการติดเชื้อไวรัส HPV (Human papillomavirus) ซึ่งสามารถติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่เพิ่มโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูก ดังนี้

  • มีคู่นอนหลายคน
  • มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย
  • ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
  • สูบบุหรี่
  • ติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เช่น โรคหนองในแท้ โรคซิฟิลิส

ทำไมต้องตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก?

มะเร็งปากมดลูกมักไม่แสดงอาการในระยะเริ่มต้น ผู้หญิงอาจไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคจนกระทั่งลุกลาม การตรวจคัดกรองช่วยค้นหาโรคได้เร็ว เพิ่มโอกาสรอดชีวิตสูง อีกทั้งยังช่วยให้แพทย์วางแนวทางการรักษามะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มต้น ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ การตรวจคัดกรองทำได้ง่าย ไม่เจ็บ มีค่าใช้จ่ายไม่สูงอีกด้วย

ผู้หญิงควรเริ่มตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเมื่อไหร่?

  • ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว ควรเริ่มตรวจคัดกรองเมื่ออายุ 21 ปี
  • ผู้หญิงที่อายุ 30 ปีขึ้นไป สามารถตรวจคัดกรองด้วยวิธี HPV test แทน Pap smear
  • ผู้หญิงที่อายุ 65 ปีขึ้นไป สามารถหยุดตรวจคัดกรองได้

วิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

  • Pap smear: เก็บเซลล์จากปากมดลูกไปตรวจหาความผิดปกติ
  • HPV test: ตรวจหาเชื้อ HPV

วิธีป้องกันมะเร็งปากมดลูก

  • ฉีดวัคซีน HPV: วัคซีน HPV มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันมะเร็งปากมดลูก เหมาะสำหรับผู้หญิงอายุ 9-45 ปี
  • ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก: ผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไปควรตรวจคัดกรองทุกๆ 3 ปี โดยวิธีตรวจแป๊ปสเมียร์ หรือตรวจหาเชื้อ HPV
  • มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย: สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อ HPV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ
  • ไม่สูบบุหรี่: การสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก
  • ดูแลสุขภาพ: ทานอาหารครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ

ทั้งหมดนี้ คงทำให้หลายคนเห็นความสำคัญของการตรวจหามะเร็งปากมดลูกกันมากขึ้น การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เป็นวิธีสำคัญในการป้องกันและรักษาโรค ผู้หญิงทุกคนควรเข้ารับการตรวจคัดกรองตามคำแนะนำของแพทย์ และควรหาเวลาไปตรวจกัน เพื่อการมีสุขภาพที่ดีในอนาคต

 

หน้าแรก » สังคม-สตรี

ข่าวในหมวดสังคม-สตรี