เหล็กกล่องกัลวาไนซ์เป็นวัสดุก่อสร้างที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งในด้านความแข็งแรง ทนทาน และการป้องกันสนิม การเลือกใช้เหล็กกล่องกัลวาไนซ์ให้เหมาะสมกับงานจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ใช้งานควรทำความเข้าใจ

เหล็กกล่องกัลวาไนซ์ผลิตจากเหล็กแผ่นรีดร้อนชุบสังกะสี นำมาขึ้นรูปเป็นท่อสี่เหลี่ยม ผ่านกระบวนการเชื่อมด้วยความต้านทานไฟฟ้า และชุบสังกะสีอีกครั้งเพื่อป้องกันสนิม ทำให้มีความแข็งแรงสูง ทนทานต่อแรงดัด แรงบิด และสามารถรับน้ำหนักได้ดี

การนำไปใช้งานสามารถใช้ได้หลากหลาย เช่น

• โครงสร้างหลังคา: ใช้เป็นจันทัน แป และโครงเคร่าหลังคา เนื่องจากมีน้ำหนักเบากว่าเหล็กรูปพรรณทั่วไป แต่มีความแข็งแรงเพียงพอ
• โครงสร้างอาคาร: ใช้ทำเสา คาน และโครงถัก สำหรับอาคารขนาดเล็กถึงขนาดกลาง
• งานรั้ว: ใช้ทำโครงรั้ว ประตูรั้ว และเสารั้ว เพราะทนต่อสภาพอากาศภายนอกได้ดี
• งานตกแต่ง: ใช้ทำราวบันได ระแนง และโครงเคร่าผนังเบา

การเลือกสเปคเหล็กกล่องกัลวาไนซ์ที่เหมาะสม ต้องพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้

• ขนาดหน้าตัด: มีให้เลือกหลายขนาด เช่น 1x1 นิ้ว, 1.5x1.5 นิ้ว, 2x2 นิ้ว, 2x4 นิ้ว เป็นต้น การเลือกขนาดขึ้นอยู่กับการรับน้ำหนักและระยะห่างระหว่างจุดรองรับ
• ความหนา: มีตั้งแต่ 1.2 มม. ถึง 3.2 มม. ยิ่งหนามากยิ่งรับน้ำหนักได้มาก แต่ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
• เกรดเหล็ก: เหล็กกล้าคาร์บอนต่ำ (Mild Steel) เป็นที่นิยมใช้มากที่สุด เพราะราคาไม่แพงและเชื่อมได้ง่าย
• ความหนาชั้นสังกะสี: มาตรฐาน JIS G3302 กำหนดไว้หลายเกรด เช่น Z220 หมายถึงเคลือบสังกะสี 220 กรัมต่อตารางเมตร ยิ่งตัวเลขมากยิ่งทนสนิมได้ดี

การตรวจสอบคุณภาพเหล็กกล่องกัลวาไนซ์ก่อนใช้งาน ควรสังเกตดังนี้
 

• ผิวเคลือบสังกะสีต้องเรียบสม่ำเสมอ ไม่มีรอยถลอกหรือสนิม
• รอยเชื่อมต้องสมบูรณ์ ไม่มีรูพรุนหรือรอยแตก
• หน้าตัดต้องได้ฉาก ไม่บิดเบี้ยว
• ความหนาต้องสม่ำเสมอตลอดความยาว

การดูแลรักษาเหล็กกล่องกัลวาไนซ์เพื่อยืดอายุการใช้งาน ควรปฏิบัติดังนี้

• เก็บในที่แห้ง ไม่โดนน้ำขังหรือความชื้นสูง
• หลีกเลี่ยงการขูดขีดหรือกระแทกที่จะทำให้ชั้นสังกะสีหลุดลอก
• ทาสีทับเพื่อเพิ่มการป้องกันสนิมในกรณีที่ต้องใช้งานในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง
• หมั่นตรวจสอบและซ่อมแซมจุดที่มีความเสียหายทันทีที่พบ

ทั้งนี้ การเลือกใช้วัสดุที่ได้มาตรฐานจากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ และการติดตั้งโดยช่างที่มีความชำนาญ จะช่วยให้งานมีคุณภาพและอายุการใช้งานที่ยาวนาน คุ้มค่ากับการลงทุน