วันพุธ ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2568 13:19 น.

สังคม-สตรี

รู้ทัน 5 สัญญาณอาการไข้เลือดออกในเด็ก

วันจันทร์ ที่ 04 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 22.17 น.

โรคไข้เลือดออกเป็นหนึ่งในโรคติดต่อที่เกิดจากไวรัสเดงกีซึ่งมียุงลายเป็นพาหะ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่ยุงลายแพร่พันธุ์ได้ง่าย เด็กเล็กเป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญที่มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนสูง เนื่องจากภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงเท่าผู้ใหญ่ ดังนั้น การเฝ้าระวังและสังเกตอาการให้ทันจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 5 สัญญาณสำคัญของอาการไข้เลือดออกในเด็กที่พ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือครูควรสังเกตอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถพาเด็กเข้าสู่กระบวนการรักษาได้ทันก่อนจะลุกลามเป็นอันตรายถึงชีวิต

1. มีไข้สูงฉับพลัน ไม่ลดภายใน 2 วัน

สัญญาณแรกของอาการไข้เลือดออกในเด็กคือไข้สูงเฉียบพลันถึง 39–40 องศาเซลเซียส โดยไม่มีอาการของหวัดหรือไอร่วมด้วย เด็กจะมีอาการซึม เบื่ออาหาร และอาจมีอาเจียนร่วมด้วย ไข้มักจะไม่ลดลงเมื่อให้ยาลดไข้ทั่วไป และหากไข้ไม่ลดภายใน 48 ชั่วโมง ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที

พ่อแม่บางคนอาจเข้าใจผิดว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา และรอดูอาการไปก่อน แต่การปล่อยไว้โดยไม่ตรวจสอบอาจทำให้การวินิจฉัยโรคล่าช้าและเกิดภาวะแทรกซ้อนได้

2. ปวดเมื่อยตัวและปวดท้องผิดปกติ

อีกหนึ่งอาการไข้เลือดออกในเด็กที่สังเกตได้คือ เด็กจะบ่นปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดกระบอกตา หรือปวดศีรษะร่วมด้วย บางรายมีอาการปวดท้องเฉียบพลัน โดยเฉพาะในบริเวณใต้ชายโครงด้านขวา อันเกิดจากตับโตหรือเลือดออกในช่องท้อง

หากเด็กบ่นปวดท้องบ่อย ๆ และไม่สัมพันธ์กับอาการอาหารเป็นพิษหรือท้องเสียทั่วไป ควรตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นอาการเริ่มต้นของไข้เลือดออกได้

3. มีผื่นจุดเลือดออกตามร่างกาย

อาการไข้เลือดออกในเด็ก ที่ชัดเจนอีกประการคือการเกิดผื่นแดงหรือจุดเลือดออกเล็ก ๆ บนผิวหนัง มักขึ้นที่แขน ขา ลำตัว หรือหลังใบหู จุดเลือดออกเหล่านี้ไม่หายไปเมื่อลองใช้นิ้วกดเบา ๆ บางครั้งอาจพบเลือดออกตามไรฟัน หรือเลือดกำเดาไหล

หากพบว่ามีผื่นลักษณะดังกล่าว ควรรีบนำเด็กไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยทันที เพราะอาการนี้มักแสดงว่าเกล็ดเลือดในร่างกายลดต่ำ ซึ่งเสี่ยงต่อภาวะเลือดออกง่ายและช็อก

4. ซึม อ่อนเพลีย และไม่อยากอาหาร

เด็กที่เป็นไข้เลือดออกมักมีอาการซึมลงเรื่อย ๆ ไม่ร่าเริง ไม่อยากเล่น หรือหลับบ่อยกว่าปกติ รวมถึงเบื่ออาหาร ดื่มน้ำได้น้อย และไม่ยอมกินข้าว ซึ่งต่างจากไข้ทั่วไปที่เด็กยังสามารถทานอาหารได้บ้าง

อาการเหล่านี้มักเกิดในช่วงวันที่ 3–5 ของโรค ซึ่งเป็นช่วงที่อันตรายที่สุด เพราะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะช็อกหากไม่ได้รับน้ำและการดูแลอย่างเหมาะสม

5. ปัสสาวะน้อยหรือไม่ปัสสาวะเลย

ในเด็กที่ติดเชื้อและเริ่มเข้าสู่ระยะวิกฤต อาจพบว่าเด็กมีปริมาณปัสสาวะลดลง หรือไม่ปัสสาวะเลยภายใน 6–8 ชั่วโมง ซึ่งอาจบ่งบอกถึงภาวะขาดน้ำและระบบไหลเวียนโลหิตที่เริ่มผิดปกติ

หากพบอาการไข้เลือดออกในเด็กลักษณะนี้ร่วมกับอาการซึม ตัวเย็น มือเท้าเย็น หรือชีพจรเบา ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน

วิธีดูแลเด็กเมื่อต้องสงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก

  • ห้ามให้ยาจำพวกแอสไพรินหรือยาลดไข้ที่มีฤทธิ์กัดกระเพาะ
  • ให้เด็กดื่มน้ำเกลือแร่หรือน้ำเปล่าบ่อย ๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
  • เช็ดตัวลดไข้ด้วยน้ำธรรมดา ไม่ใช้น้ำเย็นจัด

ติดตามอุณหภูมิของร่างกายอย่างใกล้ชิด และหากมีอาการเข้าเกณฑ์ควรรีบพบแพทย์

อาการไข้เลือดออกในเด็กมักเริ่มจากอาการทั่วไปที่ดูเหมือนไข้ธรรมดา แต่สามารถพัฒนาเป็นอาการรุนแรงได้ในเวลาอันสั้น การรู้เท่าทันและเฝ้าสังเกตสัญญาณอันตรายทั้ง 5 ข้อข้างต้นจะช่วยให้พ่อแม่สามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและทันเวลา ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตลูกน้อยได้

อย่าลืมว่า “ยุงลายตัวเล็ก อันตรายใหญ่” การป้องกันยังเป็นหัวใจสำคัญ ควบคู่ไปกับการสังเกตอาการไข้เลือดออกในเด็กอย่างใกล้ชิดในช่วงที่มีการระบาด