การเริ่มต้น เรียนพิเศษภาษาอังกฤษ นั้นไม่ได้มีความน่ากลัวอย่างที่คุณคิดเลย แต่หากว่าคุณรู้วิธีที่ดีและเหมาะสมก็จะสามารถทำให้เข้าใจกับภาษาอังกฤษได้เร็วมากยิ่งขึ้น

ถ้าหากคุณยังไม่เคยเรียนหรือมีพื้นฐานภาษาอังกฤษมาก่อน และบางคนอาจจะสงสัยว่าและไม่รู้ว่าควรจะเริ่มเรียนจากตรงไหนดี หรือใช้วิธีไหนถึงจะได้ผลลัพธ์ในด้านภาษาอังกฤษ และที่สำคัญคือกลัวว่าตัวเองจะพูดผิดหรือจำผิดจนหมดกำลังใจ ทั้งที่จริงแล้วเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องปกติที่ใครหลายๆ คนเคยผ่านมาก่อน

หากคุณนั้นอยากที่จะเก่งภาษาและมีความมั่นใจในด้านภาษาอังกฤษมากขึ้น วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ ในการเรียนภาษาอังกฤษมาฝากทุกคนกันอีกด้วยค่ะ รับรองว่าได้ผลลัพธ์ออกมาดีอย่างคาดไม่ถึงแน่นอน และจะทำให้คุณได้เรียนรู้และเข้าใจภาษาอังกฤษได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

มาดู 5 เคล็ดลับเรียนภาษาอังกฤษสำหรับผู้เริ่มต้น แบบเข้าใจอย่างรวดเร็วกันเลยค่ะ

ทำไมภาษาอังกฤษจึงสำคัญสำหรับผู้เริ่มต้น

แน่นอนว่าภาษาอังกฤษถือเป็นภาษาสากลที่มีบทบาทสำคัญมากๆ ในชีวิตประจำวันและการทำงานเป็นอย่างมากเลยค่ะ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นที่และเริ่มมองหาความก้าวหน้าของอาชีพในอนาคต

การสื่อสารภาษาอังกฤษจะทำให้คุณได้เปิดโอกาสทางด้านความรู้และประสบการณ์ในอนาคตอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการอ่านบทความ หนังสือออนไลน์ คอร์สเรียน หรือแม้แต่การอัพสกิลใหม่ๆ ที่ส่วนใหญ่จะมีเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ยังเป็นประตูสำคัญสู่โอกาสด้านการศึกษา แน่นอนว่าผู้คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักมองหา ติวเตอร์ ภาษาอังกฤษ เพื่อต่อยอดความรู้และความสามารถในทำงานกับบริษัทต่างชาติ รวมถึงการท่องเที่ยวและการสร้างเครือข่ายกับผู้คนจากทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเรียนมักเจออุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็น กลัวว่าจะพูดผิดหรือออกเสียงไม่ชัด การขาดพื้นฐานไวยากรณ์ที่ทำให้ไม่มั่นใจ รวมถึงการท่องจำคำศัพท์แบบไม่เข้าใจการใช้งานจริง ปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนต้องเจอ แต่คุณสามารถข้ามผ่านไปได้ถ้าหากคุณมีการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ เริ่มจากการใช้ภาษาในชีวิตประจำวัน ฝึกฟังและพูดกับตัวเองในกระจก หรือหากลุ่มเพื่อนที่ช่วยกันฝึกสนทนา

เมื่อเข้าใจว่าความผิดพลาดคือส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ ผู้เริ่มต้นก็จะสามารถพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจและต่อยอดไปสู่โอกาสใหม่ๆ ในอนาคตอีกด้วย

1. ฝึกฟังภาษาอังกฤษจากสื่อรอบตัว 

หากคุณต้องการฝึกฟังภาษาอังกฤษจากสื่อรอบตัวอย่างเพลง หนัง ซีรีส์ และพอดแคสต์ แน่นอนว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ช่วยให้การจดจำในด้านภาษาของคุณเป็นไปอย่างธรรมชาติไม่ดูฟื้นจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการใช้คำศัพท์ สำนวน และน้ำเสียงจริงที่เจ้าของภาษาพูดกันในชีวิตประจำวัน

การเลือกฟังสำเนียงที่หลากหลายอย่างเช่น อเมริกัน อังกฤษ ออสเตรเลีย หรือสำเนียงอื่นๆ จะช่วยให้เราเข้าใจภาษาได้กว้างมากขึ้น ไม่ติดขัดเมื่อเจอสถานการณ์จริง

การตั้งใจฟังการออกเสียง คำเน้น และจังหวะของประโยคยังช่วยให้คุณพูดได้ชัดเจนขึ้นอีกด้วย และหากอยากพัฒนาทักษะทางด้านภาษาให้เร็วยิ่งขึ้น คุณควรผสมผสานการ เรียนภาษาอังกฤษ ตัวต่อตัว ควบคู่ไปกับการฝึกฟัง เพราะจะได้มี ครูสอนภาษาอังกฤษ คอยแก้จุดบกพร่อง และชี้แนะแนวทางที่เหมาะกับเรา ทำให้การฟังและการพูดพัฒนาไปพร้อมกันอีกด้วย

2. เริ่มต้นจากคำศัพท์พื้นฐานที่ใช้บ่อย

สำหรับการเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดคือการสะสมคำศัพท์พื้นฐานที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน เพราะจะช่วยให้เราฟังและสื่อสารได้เร็วมากขึ้น เช่น คำทักทาย (Hello, Hi, Goodbye), คำเกี่ยวกับเวลา (today, tomorrow, morning, night), คำแสดงความต้องการ (want, need, like, go, come) รวมถึงคำศัพท์รอบตัวที่เจอในทุกๆ วันอย่างอาหาร เครื่องดื่ม สถานที่ และสิ่งของทั่วไป

เมื่อเราคุ้นเคยกับคำเหล่านี้แล้ว การฟังเพลง หนัง ซีรีส์ หรือพอดแคสต์ก็จะทำให้เราเข้าใจภาษาอังกฤษได้ง่ายขึ้น

และยิ่งถ้ามีการ เรียนพิเศษภาษาอังกฤษ ควบคู่ไปด้วย จะช่วยให้เรารู้วิธีใช้คำศัพท์ได้ถูกต้องและมั่นใจมากขึ้น พร้อมทั้งยังมีคนคอยแนะนำและแก้ไขได้ทันที ทำให้การพัฒนาคำศัพท์ การฟัง และการพูดของคุณพัฒนาได้อย่างเป็นธรรมชาติ

3. ฝึกพูดประโยคง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน 

วิธีการฝึกพูดประโยคง่ายๆ ในชีวิตประจำวันคือจุดเริ่มต้นที่ดีเลยค่ะ เพราะจะช่วยให้เรากล้าใช้ภาษาและนำไปใช้ได้จริงทันที มาดูประโยคสั้นๆ ที่นำไปฝึกและใช้ในชีวิตประจำวันกันค่ะ

• การทักทาย: Hello, How are you? / Good morning.
• การขอความช่วยเหลือ: Can you help me, please? / Thank you.
• การซื้อของ: How much is this? / I would like this one.
• ในชีวิตประจำวัน: I am hungry. / I am going to work. / Let’s go!

เมื่อเราได้มีการฝึกฝนบ่อยๆ จะทำให้เราพูดได้คล่องขึ้น และไม่ติดขัดเวลาสื่อสารจริง หากเราต้องการพัฒนาทักษะด้านภาษาให้เร็วขึ้น การเรียนภาษาอังกฤษ ตัวต่อตัว สามารถช่วยพัฒนาทักษะของคุณได้เป็นอย่างมาก เพราะมี ครูสอนภาษาอังกฤษ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาคอยให้คำแนะนำการออกเสียงและแก้ไขประโยคให้ถูกต้องตั้งแต่แรก ทำให้มั่นใจและกล้าใช้ภาษาในทุกสถานการณ์ในชีวิตประจำวันอีกด้วยค่ะ

4. ฝึกอ่านและเขียนควบคู่ไปด้วย

อีกหนึ่งเคล็ดลับในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษก็คือ การฝึกอ่านและเขียนควบคู่ไปกับการฟังและพูด ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยพัฒนาภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การอ่านทำให้เราได้เจอคำศัพท์และโครงสร้างประโยคที่หลากหลาย ทั้งจากหนังสือ บทความ ข่าว หรือแม้แต่โพสต์สั้นๆ บนโซเชียล ส่วนการเขียนช่วยให้เราได้ฝึกใช้คำและไวยากรณ์ด้วยตัวเอง เช่น การเขียนบันทึกประจำวัน เขียนข้อความสั้นๆ หรือแต่งประโยคจากคำศัพท์ที่เพิ่งเรียนรู้

ยิ่งเราอ่านมาก เขียนบ่อย ก็ยิ่งเข้าใจภาษาได้ลึกขึ้น และจำคำศัพท์ได้แม่นยำมากขึ้น

หากคุณอยากพัฒนาภาษาได้เร็วและถูกต้อง การหาที่ สอนพิเศษภาษาอังกฤษ จะช่วยเสริมได้ดี เพราะผู้สอนสามารถแนะนำวิธีอ่านออกเสียง แก้ไขการเขียนให้ถูกหลัก และให้เทคนิคเพิ่มเติมที่เหมาะกับระดับภาษา ทำให้การฝึกอ่านและเขียนไปพร้อมกันมีประสิทธิภาพและเห็นผลชัดเจนกว่าเรียนด้วยตัวเอง

5. เรียนกับติวเตอร์หรือครูผู้สอนภาษาอังกฤษ 

เคล็ดไม่ลับสุดท้ายคือการเรียนภาษาอังกฤษกับติวเตอร์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา เพราะเป็นวิธีที่ช่วยให้พัฒนาภาษาได้รวดเร็วและตรงจุด

ผู้เชี่ยวชาญสามารถวางแผนการเรียนตามระดับความรู้ ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐาน ฟัง–พูด–อ่าน–เขียน หรือการใช้ภาษาในสถานการณ์จริง อีกทั้งยังแก้ไขจุดอ่อนทันที เช่น การออกเสียงไม่ชัด การใช้คำศัพท์ผิด หรือโครงสร้างประโยคที่ไม่ถูกต้อง

การเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับติวเตอร์ ยังช่วยให้เรากล้าพูด กล้าถาม และโฟกัสเฉพาะสิ่งที่ต้องการ เช่น ภาษาอังกฤษเพื่อการทำงาน การสอบ หรือการสื่อสารในชีวิตประจำวัน ทำให้การเรียนมีเป้าหมายชัดเจน และเห็นผลลัพธ์ได้จริงในเวลาไม่นาน

เรียนภาษาอังกฤษ ง่ายขึ้นด้วยติวเตอร์มืออาชีพจาก Fastwork 

การเรียนภาษาอังกฤษจะง่ายและสนุกขึ้นเมื่อมีติวเตอร์มืออาชีพจาก Fastwork ดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะคุณสามารถเลือกเรียนแบบตัวต่อตัวที่ปรับตามเป้าหมายได้ ไม่ว่าจะเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน การทำงาน การเตรียมสอบ หรือเพิ่มความมั่นใจในการสนทนากับชาวต่างชาติ

ติวเตอร์จาก Fastwork จะช่วยแนะนำและแก้ไขจุดบกพร่องให้ทันที ทำให้เข้าใจง่ายและพัฒนาได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังสามารถเลือกผู้สอนตามงบประมาณ สไตล์การสอน และเวลาที่สะดวก

ดังนั้น การเรียนพิเศษภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป และยังพร้อมเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับคุณในอนาคต