วันพฤหัสบดี ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2568 13:30 น.

เลขเด็ด ข่าวดัง

ฮือฮา! ผีโครงกระดูก 2 พันปี สิงเด็ก

วันอังคาร ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2560, 08.12 น.

ฮือฮา! ผีโครงกระดูก 2 พันปี สิงเด็ก

 


  

ผลตรวจมาแล้วโครงกระดูกในไหโบราณผู้ว่าฯพร้อมนายอำเภอเจ้าหน้าที่สำนักศิลปากรที่ 12 ตรวจสอบพบอายุ 1,500-2,000 ปี นำไปตรวจสอบ พร้อมนำกลับมาเก็บรักษษไว้ที่พิพิธภัณฑ์จังหวัดสุรินทร์ ฮือฮา! วิญญาณเข้าสิงร่างเด็กและเข้าฝันคนที่มานอนเฝ้า

 

 

 

จากกรณีที่มีการขุดพบโครงกระดูกคนโบราณอายุนับพันปี ในแปลงนาบนพื้นที่ 5 ไร่ ของนางทวีศักดิ์ นึกดี อายุ 80 ปี เลขที่ 68 บ้านยาง ม.1 ต.ยาง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ซึ่งโครงกระดูกอยู่ในไห ลึกลงไปในพื้นดินประมาณ 3 เมตร และพบฟันกรามยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ใกล้กันพบไหใบเล็กและใบใหญ่อีก 2 ใบ ซึ่งไม่มีกระดูกแต่อย่างใดตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

 

 

 

 

ความคืบหน้าเรืิ่องนี้วันที่ 8 มี.ค.นี้ นายอนุรักษ์ นึกดี อายุ 49 ปี อยู่บ้าน 68 ม.1 บ้านยาง ต.ยาง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ลูกชายของนางทวีศักดิ์ นึกดี เป็นผู้ดูแลที่นา ปิดเผยว่า ตนเองฝันเห็นยายแก่ นุ่งโจงกระเบน มาสั่งให้ขุดหาทองคำ ในที่นา หลังจากนั้นก็ขุดพบโครงกระดูกโบราณ สภาพสมบูรณ์ อายุกว่า 500 ปี ตนเองได้จ้างให้รถแบ็คโฮ มาขุดลอกพื้นที่ แปลงนาเพื่อทำการเกษตร ตามแนวทางปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง ในวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา ขุดกันจนมืดค่ำ ลักษณะเป็นการขุดดิน ยกแปลงร่องน้ำสามร่อง ลึกสามเมตร เพื่อจะปลูกมะพร้าว กล้วย มะนาว ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9  ตอนที่ขุดเจอกระดูกนั้น เป็นตอนช่วงเช้าตรู่ คนที่เจอคนแรกนั้น คือ นาง เจนจิรา คนึงดี อายุ 35 ปี ภรรยาของตนเอง ซึ่งบอกกับตนว่า ตอนแรกที่เจอนั้น ได้เหลือบอะไรบางอย่างฝังอยู่ในดินลึกกว่า 3 เมตร หลังจากแบ็คโฮขุดเป็นร่องแล้ว ด้วยความสงสัย จึงไปเอาเสียมมาแซะดู จึงรู้ว่าเป็นไหแน่นอน ด้วยความอยาก จึงเอาเสียมกระแทกไหให้แตก พอไหแตกออกมาครึ่งหนึ่งเท่านั้น ต้องตกใจ เพราะที่เจอคือโครงกระดูก หลังจากตั้งสติได้ นางเจนจิรา คนึงดี จึงไปเรียกตนให้มาดูพอรู้ว่าเป็นอะไรแล้ว จึงได้แจ้งไปยัง ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และ นายก อบต.ยาง ให้มาตรวจสอบดังกล่าว ว่าเป็นกระดูกของคนในยุคปัจจุบันหรือยุคโบราณ พอชาวบ้านทราบข่าว ก็พากันแห่มาดูกันเยอะ และบอกว่าน่าจะเป็นโครงกระดูก คนโบราณ

 

 

 

ตลอด 4 วันของการขุดพบโครงกระดูกโบราณบรรจุอยู่ในไห ลึกใต้ดิน 3 เมตร และสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวออกไป ทำให้ประชาชน ในพื้นที่ต่างๆ รับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ได้เดินทางมาดูกันเป็นจำนวนมาก ในแต่ละวัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ อบต.ยาง ได้เขียนป้าย และนำเชือกมากั้นไว้ ไม่ให้ประชาชนลงไปจับ ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหาย ยากต่อการตรวจสอบ ของเจ้าหน้าที่สำนักศิลปากร ที่จะเดินทางเข้ามาตรวจสอบและเก็บไปตรวจสอบ และจากความเชื่อของประชาชนในพื้นที่บ้านยาง และเจ้าของที่ดิน ในเรื่องวิญญาณของผู้ตาย ยังไม่ได้ไปเกิดในสรวงสวรรค์ จึงได้จัดงานบรรจุอัฐิ ด้วยการนำวงมโหรี มาบรรเลง ในช่วงกลางวัน และกลางคืนนิมนต์พระสงฆ์มาสวดมนต์ มติกาบังสุกุล ช่วงเช้าก็มีการทำบุญตักบาตร อุทิศส่วนกุศลให้แก่วิญญาณบรรพบุรุษ ผู้ล่วงลับไปแล้ว ชาวบ้านยังจัดเลี้ยงอาหารแก่ประชาชนทั่วไป ที่มาร่วมงานและมาดูอีกด้วย 

 

โดยเมื่อวานนี้(7 มี.ค.60) ก็ได้เกิดเหตุการณ์ แปลกประหลาดเกิดขึ้น เมื่อมีเด็กหญิงอายุ 15 ปี มาดูโครงกระดูกโบราณ ก็ได้มีวิญญาณเข้าสิง ร่างของเด็ก ชาวบ้านที่อยู่ใกล้พากันแตกตื่นตกใจเด็กมีอาการ ชักกระตุก พูดขึ้นมาลอยๆ ว่าเป็นวิญญาณของคนโบราณ อยู่ในที่แห่งนี้มานาน พูดหลายครั้ง ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ตั้งสติได้ ได้ถาม ถามว่าวิญญาณสิงร่างเด็ก ว่าเป็นใครมาจากไหนแล้วเด็กก็พูดออกมาว่า ตนชื่อ สุวรรมาลัย เป็นลูก ได้มาตามหาพ่อกับแม่พ่อนั้นชื่อ ท้าวเทพมหาชัย แม่นั้นชื่อ ท้าวสุวรรณมาลา พอตามหาก็รู้ว่าพ่อกับแม่ถูกฆ่าตายแล้ว และตนก็ถูกโจรฆ่าตายเช่นกัน นี่คือคำบอกเล่าจากปากเด็กที่พูดออกมาโดยที่ตัวเองไม่รู้สึกตัว

 

ขณะเดียวกันมีอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน สังกัด อบต.ยาง(อปพร.)ที่มานอนเฝ้าเข้าเวรยามก็ฝันเห็นเช่นกัน เล่าในความฝันว่ามีคนมาหา และมายืนถาม อปพร.ว่ามานอนอยู่ที่นี่ทำไมรึจะมาขอหวยรึ แต่ก็ยังไม่ทันได้รู้อะไรก็มีเพื่อนที่นอนอยู่ด้วยกันมาปลุกซะก่อน พอตื่นขึ้นมานั้นตนก็รู้สึกกลัวๆ เช่นกันจนต้องย้ายที่ไปนอนที่ใหม่

 

ในวันนี้ (8 มี.ค.60) นายอรรถพร สิงหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ต่อมา ร.ต.อ.นครินทร์ เกตุสิริ นายอำเภอศีขรภูมิ นาย สมเดช ลีลามโนธรรม เจ้าหน้าที่สำนักศิลปากรที่ 12 นครราชสีมา นาย ศักดิ์นันท์ สุภวรางกูร นายก อบต.ยาง  ได้เดินทางมาตรวจสอบสภาพโครงกระดูกที่บรรจุในไหโบราณ ซึ่งมีโครงกระดูกที่สมบูรณ์ อยู่หลายชิ้น โดยเจ้าหน้าที่ของสำนักศิลปากรที่ 12 ได้ใช้เครื่องมือ ขุดและเก็บโครงกระดูก และไหโบราณ ออกจากใต้ดินออกไปจนครบ เพื่อนำไปตรวจสอบที่สำนักศิลปากรที่ 12 นครราชสีมา

 

นาย สมเดช เปิดเผยว่าโครงกระดูกโบราณที่ทางสำนักศิลปากรที่12 นครราชสีมาได้เดินทางมาตรวจสอบแล้ว ลงความเห็นว่ามีอายุในยุคเหล็กราว 1,500 -2,000 ปี สมัยยังไม่มีตัวอักษร การเก็บศพเป็นการฝังครั้งที่ 2 ครั้งแรกจะเป็นการฝังไว้หลายปีจนเปื่อยเหลือแต่กระดูกค่อยเก็บชิ้นสำคัญมาบรรจุไหแล้วฝังอีกทีเคยพบที่อำเภอท่าตูมและอำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ ปัจจุบันกระดูกโบราณยุคนั่นเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสุรินทร์ ครั้งนี้พบที่อำเภอศีขรภูมิ ซึ่งเจ้าที่กรมศิลปากรจะนำไปศึกษาแล้วนำมาเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จังหวัดสุรินทร์ต่อไป