** โรคปอดอักเสบจาก “ไวรัสโควิด-19” ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อในหลายประเทศทั่วโลก โดยจีนมีผู้ติดเชื้อมากที่สุดกว่า 7 หมื่นคน เสียชีวิตเกิน 2 พันคน และมีผู้ติดเชื้อนอกจีนกว่า 5 ร้อยคน ซึ่งส่วนใหญ่เคยเดินทางไปจีน สำหรับรายงานผู้ติดเชื้อในไทยมียอดคงที่ 35 คน รักษาหายแล้ว 20 คน ส่วนกรณีคนไทย 137 คนที่เดินทางมาจากอู่ฮั่น และถูกกักตัวไว้สังเกตอาการ 14 วันนั้น แพทย์อนุญาตให้กลับภูมิลำเนา แล้ว

** แม้ “ไวรัสโควิด-19” กำลังระบาดหนักแต่องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงว่ายังอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ และวัคซีนป้องกันโรคนี้อาจต้องใช้เวลาพัฒนาและทดสอบอีกประมาณ 12-18 เดือน ล่าสุดทางการจีนอนุมัติให้ใช้ยาตัวแรกรักษาโรคติดเชื้อจากไวรัสโควิด-19 อย่างเป็นทางการแล้ว

** ในการรับมือการแพร่ระบาดของโรคนั้น หลายประเทศได้ยกระดับมาตรการเข้มงวดมากขึ้น เช่นจีน ไม่อนุญาตให้ประชาชนเดินทางออกนอกประเทศอิสราเอล เกาหลีใต้และไต้หวันเตือนประชาชนไม่ให้เดินทางมาประเทศไทย หากเดินทางมาแล้วเมื่อกลับไปจะถูกห้ามไม่ให้เข้าประเทศ 14 วัน ในขณะที่กระทรวงสาธารณสุขไทยเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปจีนมาเก๊า ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ เป็นเวลา 3 เดือน นอกจากนี้รัฐบาลยังมีการเตรียมมาตรการขั้นสูงสุดไว้แล้วหากจำกัดการระบาดของโรคระยะที่สองไม่ได้

**  สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และหากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายและยุติลงได้โดยเร็วอาจรุนแรงถึงสภาพคล่องของภาคธุรกิจท่องเที่ยวของไทยที่เป็นรายได้หลักของประเทศ ดังนั้นรัฐบาลควรมีนโยบายส่งเสริมคนไทยเที่ยวไทยให้มากขึ้น

** จากกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทำให้ปัญหาในโลกและในประเทศมีความสลับซับซ้อนมากขึ้นไปด้วย การแก้ปัญหาหรือการตัดสินใจกำหนดนโยบายของผู้บริหารประเทศจึงจำเป็นต้องใช้ความรู้และความเชี่ยวชาญจากหลายสาขาวิชาร่วมกัน การบูรณาการข้อมูลและการทำงานร่วมกันจะช่วยให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานเพื่อให้เกิดความแม่นยำ รวดเร็ว มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลโดยยึดประโยชน์สุขของประชาชนเป็นหลักในการแก้ปัญหาเร่งด่วนให้เกิดความสำเร็จได้

** ในขณะที่ไวรัสโควิด-19 กำลังระบาดไปทั่วโลกทำให้เศรษฐกิจพากันเงียบเหงาเศร้าทรวงไปทั่วโลก แต่เมืองไทยนั้นนอกเศรษฐกิจจะตกต่ำเข้าขั้นวิกฤตมานานแล้วก็ยังจะเจอปัญหาไวรัสโควิด-19 และยังมีเรื่องฝุ่นละอองขนาดจิ๋ว PM 2.5 ที่เป็นมลภาวะไปทั่ว ถ้าจะพูดถึงเรื่องของเศรษฐกิจแล้วคงเป็นที่รู้กันว่าจะตกต่ำขนาดไหน อยากจะให้หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้ พร้อมด้วยคณะทำงานออกไปสำรวจนักธุรกิจตั้งแต่ระดับใหญ่จนถึงระดับเล็ก ตลอดจนถึงผู้ค้าขายว่าเวลานี้มีความรู้สึกเป็นอย่างไร ถ้าบุคคลเหล่านี้จะพากันพูดตรงๆ ว่าแย่มานานแล้วเกินกว่าที่จะเยียวยาได้!!!

พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบช.ทท. และ คณะตรวจราชการ ของ บช.ทท. เดินทางมาตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญกำลังใจ ส่งมอบอุปกรณ์ ในการทำร้านสวัสดิการตัดผม KK barber สำหรับข้าราชการ และการตรวจตามแบบตรวจราชการ ประจำปีงบประมาณ 2563 ณ กก.1 บก.ทท.2 ,และ ส.ทท.1 กก.1 บก.ทท.2  จ.ขอนแก่น         

โดยมี พ.ต.อ.กฤษณะพงศ์  กัญจน์ชัยกิจ ผกก.1 บก.ทท.2, พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ ธนกิจไพโรจน์ รอง ผกก.1 บก.ทท 2 ,พ.ต.ท.เชณ ภูโอบ  รอง ผกก.1 บก.ทท.2 , พ.ต.ต.สมชาย เจริญสุข สว.ส.ทท.1 บก.ทท.2 และข้าราชการตำรวจ กก.1บก.ทท.2 รวมทั้ง ส.ทท.1 กก.1 บก.มท.2 ให้การต้อนรับ           

หลังจากเสร็จสิ้นการส่งมอบอุปกรณ์ร้าน KK barber และในเวลาประมาณ 17.00 น. พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบช.ทท. และคณะทำงานการตรวจราชการ ของ บช.ทท ได้ประชุมมอบนโยบายราชการให้กับ ข้าราชการตำรวจ กก.1 ฯ ส.ทท.1 กก.1 บก.ทท.2 เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ และปรับปรุงหน่วยงาน

** “ไมโครโฟน” เคยเขียนเมื่อวันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาว่า คนที่สิ้นคิดและเห็นแก่ได้ทำการเผาป่าเพื่อเข้าไปหาของป่า และอาหารป่าเท่านั้นเอง  “ไมโครโฟน” ยังได้เขียนไว้ว่าน่าจะมีโทษถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต และถ้าประหารชีวิตได้ก็จะดี แต่ที่ผ่านมาก็ยังมีบุคคลที่สิ้นคิดเหล่านี้ทำการเผาป่าเป็นว่าเล่น โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายของบ้านเมือง เห็นได้ชัดๆ ก็มีที่ภูกระดึง จ. เลย พื้นที่ความเสียหายของไฟไหม้ฟางทำให้วอดไป 3,400 ไร่ อีกที่หนึ่งก็คือที่จังหวัดเชียงใหม่ ถ้าตราบใดที่รัฐบาลชุดนี้ยังไม่ยอมออกกฎหมายรุนแรงมาลงโทษผู้ทำการตัดไม้ทำลายป่าก็ยังจะมีพวกคนเถื่อนสิ้นคิดพวกนี้กระทำความชั่วโดยการตัดไม้ทำลายป่าไม่รู้จักจบสิ้น

** เมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ประมูลรับรองผลการประมูลคลื่นความถี่สำหรับให้บริการ 5G มีหลายคลื่นของเครือข่ายของมือถือที่เข้าประมูลในครั้งนี้แทบทุกเครือข่ายผลปรากฎว่า เครือข่ายของ AIS ได้ไปมากที่สุด นับเป็นความยินดีที่เมืองไทยจะได้มีระบบคลื่นความถี่ 5G ซึ่งสามารถใช้งานได้หลายรูปแบบและสร้างประสิทธิภาพในการส่งข้อความหรือสื่อหากันได้อย่างรวดเร็วทัดเทียมอารยประเทศ แต่สิ่งที่ประชาชนกังวลมากที่สุดคือเรื่องของค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมว่าจะรับไหวไหมในช่วงเศรษฐกิจขาลงอย่างนี้ แต่ตามประสา “ไมโครโฟน” ก็อยากจะให้เครือข่ายของโทรศัพท์มือถือค่ายต่างๆ ถ้อยที่ถ้อยอาศัยกับผู้ใช้บริการอย่าได้คิดค่าใช้จ่ายโหดจนทุกคนรับไม่ได้!!!

** “ไมโครโฟน” ขอแสดงความยินดีกับ วินัย พันธุรักษ์ ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นศิลปินแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2562 จากกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่ง วินัย พันธุรักษ์ ชื่อเล่นว่า ต๋อย เป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งของคณะดิอิมพอสซิเบิล โดยส่วนตัวกับ “ไมโครโฟน” เป็นเพื่อนรักกันเคยร่วมงานกันมา นอกจากเป็นนักร้องเสียงคุณภาพแล้วยังเป็นผู้ที่มีน้ำใจต่อคนในวงการ และมีความประพฤติสุภาพเรียบร้อย พูดจาให้เกียรติผู้คนทั้งในวงการ และนอกวงการด้วย

** มีชาวกรุงสอบถามมาเป็นจำนวนมากว่า เมื่อไหร่จะจัดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) ทั้งๆที่มีข่าวมานานแล้ว เรื่องนี้คงต้องฝากให้ไปถามทางฝ่ายรัฐบาล พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว. กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นผู้ดูแลงานของกรุงเทพมหานคร จะให้คำตอบกับชาวกรุงพร้อมด้วยสื่อมวลชนด้วย

** แวดวงของตำรวจจะเริ่มจากคำถามของประชาชนในทุกสาขาอาชีพที่สุจริตธรรมเกือบทั้งประเทศก็ว่าได้ ตั้งคำถามมาว่า จะมีพื้นที่ของโรงพักใด หรือ สน. ใด ที่ไม่มียาเสพติดระบาด และยังถามไปถึงผู้บังคับระดับสูง เริ่มตั้งแต่ “บิ๊กตู่” พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว. กลาโหม พร้อมทั้งเป็นผู้ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้นำกองทัพสีกากี “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และสั่งการไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาทุกโรงพักทุกสน. ให้ลงพื้นที่สืบจับ และปราบปรามอย่างจริงจังเพื่อให้ยาเสพติดหมดสิ้นไป หรือน้อยลงไปก็ยังดี

** กรณี  ดร.  วิชญ์ วณิชพัทธ์ ซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฎชื่อดังแห่งหนึ่งเมาอย่างหนักได้ขับรถชนชาวบ้าน แล้วยังขับรถพุ่งชนสายตรวจของ สภ. พระประแดง และยังไม่ยอมให้ตำรวจจับโดยดี แถมซ้ำยังโทรไปหาน้องสาวมาช่วย พอมาถึงก็โวยวายใส่ตำรวจอย่างไร้เหตุผล มีกาถ่ายคลิปร้องลั่นว่าตำรวจทำร้ายร่างกาย งานนี้ได้รับการติเตียนจากชาวเนต พร้อมทั้งสื่อออนไลน์ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม การเป็นถึงอาจารย์ระดับมหาวิทยาลัยจะต้องไม่มีกริยามารยาทที่ทำให้ตัวเองเสื่อมเสีย “ไมโครโฟน” ต้องขอชมไปถึง พล.ต.ต. ชุมพล พุ่มพวง ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดสมุทรปราการออกมาพูดว่า จะเรียกทั้งตำรวจและอาจารย์ พร้อมด้วยน้องสาวมาสอบสวนข้อเท็จจริง ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย นายตำรวจท่านนี้ถือว่าเป็นนายตำรวจน้ำดีท่านหนึ่งของ สตช. ที่ขยันทำงานเอาใจใส่กับทุกข์สุขของชาวบ้านมาตลอด

** มีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ร้องเรียนมาว่า เคยจอดรถตรงหน้าร้านกาแฟแห่งหนึ่งในซอยรางน้ำ ซึ่งบริเวณตรงนั้นเคยจอดแต่ไม่เห็นมีตำรวจจราจรมาจับกุมเพราะไม่มีสัญลักษณ์ขาวแดงและขาวเหลือง แต่มาเมื่อไม่นานนี้โดนตำรวจจราจรล็อคล้อรถจะออกมาพูดและชี้แจงอย่างไรก็ไม่สนใจ ขึ้นไปเสียค่าปรับที่ สน. พญาไท โดนปรับไป 500 บาท และขอคำชี้แจงโดยไม่สนใจที่จะพูดกับผู้ขับขี่ แถมซ้ำยังแสดงอาการเย่อหยิ่งด้วย เรื่องนี้คงต้องฝากให้ พล.ต.ต. จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ผู้ดูแลงานจราจรพร้อมด้วยกับ พ.ต.อ. บวรภพ สุนทรเลขา ผกก. สน. พญาไท ช่วยให้ความเป็นธรรมกับผู้ขับขี่ด้วย สมัยนี้เงินหายากยิ่งกว่างมเข็มในทะเล  เงินค่าปรับ 500 บาท มีค่ามากสำหรับผู้ขับขี่ในยุคนี้

** มีชาวบ้านในพื้นที่ สน. ห้วยขวาง ร้องเรียนมาเป็นประจำว่า ยาเสพติดระบาดอย่างหนักทำให้เกิดปัญหาโจรผู้ร้ายที่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นฉกชิงวิ่งราวหรือลักทรัพย์ คงจะต้องฝากให้ตำรวจเจ้าของพื้นที่ สน. ห้วยขวาง ลงพื้นที่ไปตรวจสอบและจับกุมทั้งยาเสพติดและโจรผู้ร้ายด้วย

** อีก 7 เดือน พล.ต.ต. สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก. น. 8 ก็จะเกษียณอายุราชการ แต่ในสายเลือดของนายตำรวจท่านนี้เป็นตำรวจทำงานให้คุ้มกับเงินเดือนของทางราชการ ในช่วงนี้ก็จะตระเวนเดินไปแจกหน้ากากตาม สน. ในสังกัด บก.น.8 เพื่อที่จะใส่ป้องกันปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งเกินค่ากว่ามาตรฐานได้รับคำชมเชยจากผู้ใต้บังคับบัญชาและสื่อมวลชนด้วย

** “นักการเมืองชั้นดีต้องไม่ฉ้อราษฎร์บังหลวงและเป็นสุภาพชน”

** โลหิตยังขาดแคลน โปรดร่วมใจกันไปบริจาคโลหิตที่สภากาชาดไทย ได้กุศลแรง