คนสีกากีกับโควิต-19

 

♦♦♦ รายงานตัววันนี้... สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในแวดวง "สีกากี" น่าสะพรึงไม่แพ้หน่วยงานอื่น เพราะยอดข้าราชการตำรวจติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามข้อมูลศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ล่าสุด 21 คน แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) 14 นาย, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) 1 นาย ,กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บช.ตชด.) 1 นาย ,โรงพยาบาลตำรวจ (รพ.ตำรวจ) 1 นาย , กองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) 1 นาย, กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) 1 นาย, กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค1 อีก 2 นาย  รวมทั้งมีข้าราชการตำรวจที่ต้องกักตัวเฝ้าระวัง 14 วัน อีกจำนวน 431 นาย งานนี้คณะกรรมการรองรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)  ที่ "ผบ.แป๊ะ" พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี แต่งตั้งให้ "บิ๊กนู" พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. ประธานกรรมการ  "บิ๊กเบิ้ม" พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. และพล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นรองประธาน  คงต้องทำงานหนักเพิ่มมากขึ้น ๐

 

 

♦♦♦ ยืนยันเสียงดังฟังชัดจาก "เดอะแจ๊ค" พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ตำรวจสายตรวจ 191 ยศ "ส.ต.อ." ที่โลกโซเชียลโพสต์บอก "ติดโควิด-19 หนีกักตัว ขึ้นรถทัวร์กลับอุดร" นั้น จริงๆ "ส.ต.ต.คนดังกล่าว" ไม่ได้หนีกักตัว เพราะตามไทม์ไลน์ ในวันที่ 6-13 มี.ค. 63 ได้เข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ตามที่หน่วยได้มอบหมาย ต่อมาวันที่ 14 มี.ค. 63 ได้เดินทางกลับบ้านที่จังหวัดอุดรธานี และรู้สึกไม่สบายจึงได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลกุดจับ โดยแพทย์แจ้งว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา ต่อมา 16 มี.ค. 63 ไปหาหมอโรงพยาบาลกุดจับ( รอบที่2 ) หมอแจ้งว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ จึงให้ยาและกลับไปพักผ่อนต่อมาวันที่ 19 มี.ค. 63 มีอาการตัวร้อนปวดหัวปวดเมื่อย จึงมาหาหมอที่โรงพยาบาลกุดจับ (ครั้งที่3) จึงขอหมอทำการตรวจหาโควิด ต่อมาเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 63 ผลตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ที่สำคัญ "ส.ต.ต.คนดังกล่าว" ไม่ได้อยู่ในชุดปฏิบัติสนามมวยลุมพินี จึงไม่ได้ถูกกักตัวในวันที่เดินทางกลับภูมิลำเนา เนื่องจากยังไม่มีรายงานของหน่วยพบข้าราชการตำรวจในสังกัด บก.สปพ. มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด19 ๐

 

 

 

♦♦♦ แม้รายนี้ตามไทม์ไลน์จะไม่ได้หนี "กักตัว" แต่ในส่วน "ผบ.แป๊ะ" พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี ก็มีคำสั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายถือปฎิบัติตามคำสั่งและมาตรการที่เกี่ยวข้องในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 หากพบมีการฝ่าฝืนให้ผู้บังคับบัญชาในหน่วยที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการลงโทษทั้งวินัย อาญา อย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม ตอนนี้สิ่งหนึ่งที่ทำให้เหล่า "สีกากี" กำลังเป็นกังวล คือ "ทรงผม" เพราะตามคำสั่ง "ผบ.แป๊ะ" ช่วงปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา กำชับให้ตรวจสอบข้าราชการตำรวจให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องปรากฏภาพในสื่อมวลชนจะต้องตัดทรงผมให้เรียบร้อยให้เห็นหนังศีรษะทั้ง 3 ด้าน และด้านบนสั้นที่สุด รวมทั้งเครื่องแต่งกายจะต้องแต่งเครื่องแบบตำรวจให้เรียบร้อย ส่วนตำรวจชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบก็ให้แต่งกายได้ตามความเหมาะสม ซึ่งจะมีการตรวจสอบตามวงรอบทุกสัปดาห์ หากตรวจพบก็จะมีการพิจารณาดำเนินการทางวินัย ซึ่งตามคำสั่งหากมีผู้ฝ่าฝืนก็จะมีบทลงโทษตั้งแต่มาตรการเสริมสร้างและพัฒนาให้ข้าราชการตำรวจมีวินัย ไปจนถึงการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนด้วย ทว่าตอนนี้โดยเฉพาะ "กทม." และ "ปริมณฑล"  มีคำสั่งปิดร้านตัดผม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้หลายคนเริ่มไม่ขาวสามด้านแล้ว ก็เลยกังวลจะผิดระเบียบ ผิดคำสั่งผบ.แป๊ะ ...หนทางแก้ไขจะทำอย่างไร เหล่า "สีกากี" ฝากถาม ผบ.แป๊ะ ช่วยแจกแจงที ๐

 

 

♦♦♦ สนองนโยบายรัฐบาลป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ชัดเจน พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.สกพ. ส่งหนังสือแจ้งหน่วยงานภายในรั้วสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดช่วงเวลาเพื่อลดความแออัดในการใช้บริการอาคารโภชนาคาร ตร. โดยเวลา 09.30 น. เป็นเวลาของตำรวจที่อยู่ อาคาร 1 เวลา 10.00 น.เป็นเวลาของตำรวจที่อยู่ อาคาร 3, อาคาร 4 ,อาคาร 13, อาคาร 19 เวลา 10.30 น. เป็นเวลาของตำรวจที่อยู่ อาคาร 2, อาคาร 6, อาคาร 10, อาคาร 11 เวลา 11.00 น.เป็นเวลาของตำรวจที่อยู่ อาคาร 5 เวลา 11.30 น.เป็นเวลาของตำรวจที่อยู่ อาคาร7 เวลา12.00 น.เป็นเวลาของตำรวจที่อยู่ อาคาร 8,อาคาร 12 เวลา 12.30 น. เป็นเวลาของตำรวจที่อยู่  อาคาร 14,อาคาร 15,อาคาร 16 พร้อมกำชับให้ผู้บังคับบัญชาแต่ละหน่วยกวดชัน กำชับ ให้ข้าราชการตำรวจให้ความร่วมมือ ในการปฏิบัติตามมาตรการลดความแออัดในอาคารโภชนาคาร ตร. โดยเคร่งครัด และหากพบว่าช่วงเวลาใด มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ขอให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปเพิ่มความแออัด ในสถานที่ดังกล่าว ๐ สวัสดี

 

รอง ป.