วันเสาร์ ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567 11:12 น.

อาชญากรรม » คอลัมน์

ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

รอง ป. : วันอาทิตย์ ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2564, 22.02 น.

ล้างหลักเกณฑ์แต่งตั้งตำรวจใหม่

♦♦ รายงานตัววันนี้.....เอาละซิ! พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ฉบับใหม่ ที่เพิ่งผ่านมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่มี "ลุงตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน ไปเมื่อวันอังคารที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ภายหลังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ปรับปรุงแก้ไขแล้วและอยู่ระหว่างเสนอเข้ารัฐสภาดำเนินการขั้นต่อไป หากมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่ งานนี้ เด็กเส้น เด็กนาย มีหนาวสะท้าน เพราะใน พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฉบับนี้ ระบุไว้อย่างชัดเจน "3.6 กำหนดห้ามมิให้สั่งให้ข้าราชการตำรวจที่สังกัดสถานีตำรวจ หรือตำรวจภูธรจังหวัดไปปฏิบัติหน้าที่ในส่วนราชการอื่น เว้นแต่ในคำสั่งนั้นจะสั่งให้ข้าราชการตำรวจ อื่นมาปฏิบัติหน้าที่ในสถานีตำรวจแทน เพื่อให้ความสำคัญแก่หน่วยงานที่มีหน้าที่ในการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนโดยตรง นอกจากนี้  หากผู้บังคับบัญชา ผู้ใดรู้ว่าผู้ใต้บังคับบัญชาไม่มาปฏิบัติราชการติดต่อกันเกิน15วันโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้ดำเนินการทางวินัยแก่ข้าราชการตำรวจผู้นั้น เพื่อให้การบริหารอัตรากำลังที่ มีอยู่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ" เจอกฎหมายบังคับกันขนาดนี้ ไม่รู้สีกากีจะยลช่องโหว่ ช่องว่าง หลีเลี่ยงกันได้เหมือนก่อนๆ อีกหรือไม่...น้อ ๐ 
 
♦♦ ออกมาพร้อมกับความคืบหน้าร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ฉบับใหม่ ที่กำลังใกล้คลอดออกมาใช้งานเต็มทน สำหรับสูตรหลักเกณฑ์การแต่งตั้งตำรวจ ที่จะนำมาใช้ในการกำหนดระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง ตามพ.ร.บ.ตำรวจใหม่ ที่เน้นย้ำกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับกระบวนการแต่งตั้งและการเลื่อนตำแหน่งไว้ให้ชัดเจนในกฎหมายว่าการจะแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งหนึ่งตำแหน่งใดจะต้องเป็นข้า ราชการตำรวจยศใด และเคยดำรงตำแหน่งใดมาแล้วจำนวนกี่ปี และในการแต่งตั้งจะต้องคำนึงถึงความอาวุโสในการดำรงตำแหน่ง ความรู้ความสามารถที่มีผล ต่อการปฏิบัติงาน และความพึงพอใจในบริการที่ประชาชนได้รับ และมีการกำหนดหลักเกณฑ์การประเมินที่ชัดเจน และกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับกระบวนการแต่งตั้งและการเลื่อนตำแหน่งของสายงานสอบสวนไว้เป็นการเฉพาะ เพื่อให้พนักงานสอบสวนสามารถเติบโตก้าวหน้าใน สายงานตามความรู้ความสามารถได้  โดยสูตรใหม่ที่จะออกมาว่ากันว่าแทบจะล้างสูตรเดิมจากเมื่อปี 2561 ที่ใช้การครองตำแหน่ง สูตร 7-6-4-5-5-2-1-1-1 เกือบหมด และเปลี่ยนมาใช้สูตร 7-5-4-4-4-3-2-1-1 กระไดไหนโดนชักกระไดไหนโดนยืด เทียบกันเอาเอง...เด้อล้า!!!!
 
♦♦ สัปดาห์ที่แล้วกลุ่มการ์ดวีโว่ เล่นเอา"ตำรวจ"ภาค 1 หนาวๆร้อนๆ หลังก่อวีรกรรมที่สภ.คลองหลวง จ.ปทุทมธานี ด้วยการเปลี่ยนธงชาติไทยบริเวณด้านหน้าโรงพักคลองหลวง แล้วนำผ้าสีแดงที่มีข้อความว่า 112 สลับขึ้นยอดเสา จน "บิ๊กแซ็ก"พล.ต.ท.อำพล บังรับพร ผบช.ภ.1 ต้องสั่งตั้งกรรมการสอบตำรวจโรงพักคลองหลวง มีการปล่อยปละละเลยให้เกิดการกระทำผิดหรือไม่ โดย "ผบ.ปั๊ด"มอบให้ "บิ๊กเด่น" พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ไปเน้นย้ำกำชับอีกรอบ ทำให้ถัดมาอีกไม่กี่วันที่ "โตโต้"ปิยรัฐ จงเทพ หัวหน้าการ์ดวีโว่ พามวลชนไปที่ สภ.บางแก้ว อ.บางพลี สมุทรปราการ สิ่งแรกที่ตำรวจโรงพักบางแก้ว รีบดำเนินการคือจัดกำลังตำรวจไปดูแลเสาธงชาติ เพื่อไม่ให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ไม่เช่นนั้นแล้ว เก้าอี้ "บิ๊กแซ็ก" อาจจะร้อนในช่วงที่อากาศทั่วไปของเมืองไทยหนาวอยู่ก็เป็นได้ เพราะเท่าที่รู้มีสัญญาณแรงๆ ถ้าเกิดขึ้นอีก ต้องมี"ผู้ใหญ่"รับผิดชอบ
 
♦♦ ปิดท้ายข้อมูลจาก เพจ"กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง-บช.ก." โพสต์ข้อความ "ศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ (ศิลปินแห่งชาติ) และอาจารย์ทรงเดช ทิพย์ทอง มอบแบบพระประจำ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้  พลตำรวจโทต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ไว้แล้ว เพื่อจะได้ดำเนินการจัดสร้างต่อไป #กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง #พระประจำกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง" รวมทั้งภาพประกอบร่างพระประจำกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่สวยงาม หากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จัดสร้างขึ้นเชื่อว่าต้องมีผู้สนใจร่วมบุญกันอย่างเนืองแน่นแน่ๆ ๐ สวัสดี
 
                                                                                       รอง ป.