คอลัมน์ “รอบบ้าน รอบเมือง” แห่งบ้านเมืองออนไลน์ ประจำวันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564

อย่าแบ่งชั้น วรรณะ จะเสียหาย

 เห็นแค่เรา ส่วนรวม ถึงกับตาย

 น่าเสียดาย เกิดมา ร่วมผืนดิน

 แผ่นดินทอง รวมพี่น้อง หลายเผ่าพันธุ์

 อย่าแค่ฝัน ร่วมกัน ถึงจุดหมาย

ชาติแข็งแรง เพราะคนแกร่ง คิดก้าวไกล

 อย่าแค่เพียง อยู่ไป ตามใจตัว

 สร้างสำนึก ฝึกจิต รู้ผิดชั่ว

 อย่าหน้ามืด ตามัว ชาติเสียดาย

 รู้หน้าที่ สามัคคี ทุกส่วนไป

 มิเสียดาย เกิดมาไซ้ ว่าไทยเอย...

 

 ..............เบญจรงค์..............

 

** มาถึงวันนี้เทศกาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปีใหม่ เทศกาลตรุษจีน แล้วก็มาถึงวันแห่งความรัก หรือที่ฝรั่งเขาเรียกกันว่า แฮปปี้วาเลนไทน์เดย์ เทศกาลต่อไปก็ต้องรอถึงเดือนเมษายนคือเทศกาลสงกรานต์ถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทย แต่ในขณะที่โควิด-19 ยังไม่จางหายไปหรือหมดสิ้นไป ทางรัฐบาลก็คงไม่ได้ให้จัดงานเทศกาลสงกรานต์เพราะถือว่าเสี่ยงหลายเรื่อง อันดับแรกคือเรื่องของอันตรายจากการเดินทางซึ่งในแต่ละปีจะเกิดอุบัติเหตุมีผู้คนเสียชีวิต และบาดเจ็บสาหัสเป็นจำนวนมาก และข้อสำคัญที่สุดการให้จัดงานเทศกาลสงกรานต์ก็จะมีผู้คนไปรวมตัวเป็นจำนวนมากก็จะก่อให้เกิดติดเชื้อไวรัสโควิด-19

 

** ตกลง “บิ๊กตู่” พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว. กลาโหม พร้อมด้วย “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว. กระทรวงสาธารณสุข ออกมาเปิดเผยว่า วัคซีนโควิด-19 จากซิโนแวค จากประเทศจีน 2 ล้าน โดส จะเริ่มฉีดภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ถึงแม้จะล้าหลังกว่าอีกหลายประเทศรวมถึงประเทศเพื่อนบ้านของไทย เอาเถอะน่ะยังดีกว่าที่รัฐบาลเลื่อนไปเลื่อนมาถือว่าได้กฤกษ์งามยามดีแล้วที่คนไทยจะได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเดือนนี้ มีนักวิชาการอิสระ และสื่อมวลชนหลายแขนงเชียร์ให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนเป็นคนแรก แล้วก็ให้ “บิ๊กป้อม” พล.อ. ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นคนที่ 2 ตามมาด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นคนที่ 3 จากนั้นก็ขอให้เป็น ครม. ในรัฐบาลชุดนี้แสดงให้เห็นถึงเป็นผู้มีสปิริตที่จะฉีดวัคซีนโควิด-19 ถ้าหากเป็นไปตามที่ว่า คนไทยทั้งประเทศคงจะปรบมือให้ดังกึกก้องไปทั่วแผ่นดินไทย

 

** หลายวันก่อนคอการเมืองหลายกลุ่มรวมถึง “ไมโครโฟน”  ด้วย ติดตามชมการอภิปรายรัฐบาลซึ่งในขณะที่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหลายเรื่องเรียกว่า ได้เสียงปรบมือจากผู้ชมทางบ้านเป็นจำนวนมาก ในขณะที่อภิปรายออกรสออกชาติก็มี 2 ส.ส. เจ้าเก่า รายแรกคือนายสิระ เจนจาคะ ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐ อีกรายหนึ่งก็จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก น.ส. ปรีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐเช่นเดียวกันก็ออกมาเป็นองครักษ์พิทักษ์รัฐบาล โดยใช้คำพูดที่ผู้ฟังแล้วไม่เหมาะสมออกจะก้าวร้าวจน พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช ได้ตระโกนอกมาว่า นั่งลงไอ้นักโทษ เรียกเสียงฮือฮาทั้งในสภาและผู้ชมทางบ้านได้อย่างล้นเหลือ

 

 

พระราชพัฒนากร(สมชาย ฉันทสโร) ท่านเจ้าอาวาสวัดปริวาสราชสงคราม ถนนพระราม ๓ เขตยานนาวา กทม. ๑๐๑๒๐ ได้ถวายทองคำ ๒๔๘ บาท สำเร็จเรียบร้อย โมทนาบุญกับทุกท่านด้วย แบ่งบุญกุศลนี้ให้ทุกท่านด้วย ทุกรูป ทุกนาม ตลอดทั้งสามภพ และผู้มีพระคุณทุกท่านด้วย มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ ด้วยกันทุกทุกท่านเทอญ

 

** สำหรับคอการเมืองในกลุ่มพิทักษ์ธรรมมีแนวคิดว่า ถ้าต่อไปใครจะมาสมัครลง ส.ส. ควรจะมีการเช็คประวัติว่าไม่ต้องคดีอาชญากรรมมาก่อน แล้วควรจะมีใบรับรองแพทย์ว่าสุขภาพแข็งแรงไม่เป็นโรคติดต่อ และข้อสำคัญไม่เป็นโรคจิต สภาผู้แทนราษฎร์อันทรงเกียรติน่าจะจัดหาผู้ชำนาญการโดยเฉพาะในการอบรมกริยามารยาทให้ ส.ส. พูดจาด้วยความสุภาพเรียบร้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วต้องไม่ก้าวร้าวรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ และข้อสำคัญจะต้องควบคุมอารมณ์ให้อยู่ ไม่ใช่บ้าบิ่น ถึงกับทำร้ายร่างกายกัน ถ้าหากสภาผู้แทนราษฎร์ได้ทำตามข้อเสนอแนะของกลุ่มพิทักษ์ธรรมก็จะเป็นสภาผู้แทนราษฎร์เป็นที่ยอมรับของคนไทย และคนต่างชาติด้วย

 

** เรื่องของโรคโควิด-19 เวลานี้วางใจไม่ได้แล้ว เพราะเข้าขั้นติดกันได้ทุกเวลา โดยเฉพาะโควิด-19  สายพันธุ์ใหม่มาจากแอฟริกาใต้ ซึ่งติดได้ง่ายมาก สิ่งเดียวที่จะช่วยได้ในตอนนี้คือการรอวัคซีนโควิด-19 ที่จะมาฉีดระงับการแพร่เชื้อ และข้อสำคัญต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดที่สุด ทุกครั้งที่ออกนอกบ้านให้สวมใส่หน้ากากอนามัยไว้ตลอดเวลา พกพาเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งที่สัมผัสสิ่งของจะได้ใช้ป้องกันเชื้อระบาด อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญอย่าอยู่รวมกลุ่มให้อยู่ห่างกัน ถ้าปฏิบัติได้ก็จะเป็นเรื่องที่สำคัญสุดคือการไม่เข้าไปสถานบริการทุกรูปแบบ ถ้าหากใครยังมาพูดว่า โควิดเป็นเรื่องกระจอกต้องรวมหัวกันรุมตบปากของคนปากพล่อยกันดีกว่า

 

** ว่ากันถึงเรื่องวงการศึกษา “ไมโครโฟน” ตั้งใจจะเขียนเรื่องนี้มานานแล้ว ปัญหาที่ว่านี้จะเกิดจากครูบาอาจารย์ที่ไร้จรรยาบรรณ และไร้จริยธรรมสิ้นดี เริ่มจากการไปมีเพศสัมพันธ์กับนักเรียนจนเป็นเรื่องเป็นข่าวมาหลายครั้งล่าสุดก็ที่สงขลา ผอ. โรงเรียนแห่งหนึ่งมีเพศสัมพันธ์กับนักเรียนจนถูกผู้ปกครองแจ้งความดำเนินคดีหนักแล้วทำให้ ผอ. สิ้นคิดคนนี้เครียดยิงปืนหน้าเสาธงจนทำให้นักเรียนตกใจวิ่งหนีกันพัลวัน ไม่เพียงแต่ ผอ. รายนี้รายเดียวที่ก่อคดีในลักษณะนี้ และก็ยังมีครูบาอาจารย์ที่ใช้ความรุนแรงตีและชกเด็กนักเรียนจนบาดเจ็บสาหัส บรรดาครูเหล่านี้ไม่สมควรจะเรียกว่าครู และไม่สมควรมาทำหน้าที่นี้เป็นไปได้ให้ไปเลี้ยงควายจะดีกว่า เรื่องนี้ต้องเป็นความรับผิดชอบของ นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รมว. กระทรวงศึกษาธิการ

 

พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ มีเพียร ฉลองวันแห่งความรัก Happy Valintine กับครอบครัวที่แสนจะอบอุ่น ที่โรงแรมแชงกรีรีล่า กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564

 

**มีชาวบ้านเป็นจำนวนมากร้องเรียนกันมาว่า มีวัดแห่งหนึ่งในย่านประเวศ มีเจ้าอาวาสรูปหนึ่งแต่งตั้งบุคคลที่มีความประพฤติไม่เหมาะสมในการที่จะดำรงตำแหน่ง ประพฤติผิดศีลหลายข้อโดยเฉพาะข้อ 3 กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี ซึ่งเป็นบุคคลที่สังคมไม่เชื่อถือจะมามีอำนาจหน้าที่ดูแลจัดการทรัพย์สมบัติของวัดตามที่เจ้าอาวาสได้มอบหมายบุคคลที่มีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งสำคัญนี้ต้องมีคุณสมบัติของมหาเถรสมาคมกำหนดไว้ ซึ่งประการสำคัญคือต้องไม่เป็นผู้ที่ไม่บกพร่องในศีลธรรม

 

** ต้องบอกว่าน่ายินดียิ่ง ที่คุณสมโภชนา โตรักษา ได้รับโปรโมทเลื่อนเป็นผู้จัดการฝ่ายข่าวช่อง 7 HD และยังคงนำทีม “คอลัมน์หมายเลข 7” ตะลุยต้านทุจริต ตามติดกลโกงไปทั่ว ร่วมกับคุณพิศิษฐ์ ลีลาวชิโภาส อดีตผู้ว่าการ สตง. ที่ไม่ยอมกับตัวเลขอายุใกล้หลักเจ็ด ยังเดินหน้าร่วมกันตรวจสอบการใช้จ่ายเงินแผ่นดินแทนประชาชนเจ้าของเงินแผ่นดินอย่างไม่หยุดยั้ง ตรงไปตรงมา ไม่ต้องเกรงใจใคร ด้วยจิตวิญญาณของผู้ตรวจสอบภาคประชาชน ตอบแทนคุณแผ่นดิน แบบ ...... “ลุงโง่ย้ายภูเขา” สกัดไปเลื่อยภูเขาก็แหว่งไปเรื่อย ดีกว่ากินเงินเดือนจากภาษีประชาชนวันๆ หนึ่งให้ผ่าน ยิ่งดูจากข่าว “คอลัมน์หมายเลข 7” สัปดาห์นี้ ตามติดความเสียหายทวงคืนเงินแผ่นดิน ปีนี้ก้าวสู่ปีที่ 10 แต่สำหรับรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปีนี้ จะครบ 7 ปี ที่บริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง หลังเข้ายึดอำนาจ และมีการเลือกตั้ง ภายหลังการชูธงปราบโกง คือ อีกภารกิจหลักของรัฐบาล แต่ทำได้แค่ไหน ตัวชี้วัดผลงานได้จากคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต หรือ CPI ของไทย ที่จัดอันดับโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ในปี 2563 ประเทศไทยทรงตัวอยู่ที่ 36 คะแนนก็จริง แต่อันดับร่วงถึง 8 อันดับ ภายในระยะเวลา 4 ปีหลังนับจากปี 2560 ซึ่งไทยอยู่ในอันดับที่ 96 ก่อนจะร่วงมาอยู่อันดับที่ 104 ในปีที่แล้ว ถือเป็นเรื่องท้าทายความเอาจริงเอาจังในการปราบโกงของรัฐบาล ที่ประกาศในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ว่าจะฉุดดัชนี CPI ให้อยู่สูงกว่าร้อยละ 50 ภายในปีนี้ ซึ่งนั่นหมายถึงว่า ต้องทำคะแนนเพิ่มให้ได้ 14 คะแนนขึ้นไป จะทำได้จริงหรือไม่ เพราะตลอดเกือบ 7 ปี ทำได้ดีที่สุดอยู่ที่ 38 คะแนน เท่านั้น หากย้อนดูการบริหารของ พลเอก ประยุทธ์ เกี่ยวกับการปราบปรามทุจริต จะเห็นว่ามีการสร้างกลไกต้านโกงในหลากหลายรูปแบบ รวมถึงออกมาตรการและแก้ไขกฎหมายหลายอย่าง ไปจนถึงการสร้างจุดขายให้รัฐธรรมนูญปี 60 เป็นรัฐธรรมนูญปราบโกง แต่ยังมีคำถาม เหตุใดการทุจริตยังเป็นมะเร็งร้าย ที่ทำให้ร่างกายของประเทศอ่อนล้าลงเรื่อย ๆ ย่างเข้าปีที่ 7 ของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ กับภารกิจปราบโกง ทำได้จริง ยิงได้ตรงปัญหา สร้างศรัทธาว่าไม่มีการเลือกปฏิบัติ จับโกงคนอื่น รวมทั้งคนใกล้ชิดในเครือข่ายรัฐบาลด้วยหรือไม่ ประชาชนคงมีคำตอบในใจอยู่แล้ว ตามดูได้จาก “คอลัมน์หมายเลข 7”

 

พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง เลขานุการประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ร่วมกับ พล.ต.ต.พงษ์ชัย  สุขะหุต ประธานมูลนิธิแทนคุณแผ่นดิน และคุณไชยธร งามเกิดศิริ กรรมการผู้จัดการ ณ สยามแกลอรี่ ร่วมกันทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ และบริจาคทานเป็นข้าวกล่อง     อาหารแห้งและเงินสด แก่ผู้ด้อยโอกาส จำนวน 120 ชุด ณ บริเวรหน้าวัดบรวรนิเวศวิหาร เขตพระนคร กทม.

 

 ** กลายเป็นประเด็นร้อนสืบเนื่องจากมาตรการของภาครัฐ ที่สนับสนุนเงินเยียวยาแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ผ่านทางโครงการ “เราชนะ” ของประชาชนกลุ่มไร้สมาร์ทโฟน โดยให้ธนาคารของรัฐในหลายจังหวัดเป็นสถานที่ลงทะเบียน แต่ด้วยในวันนั้นเป็นวันแรกจึงมีประชาชนเดินทางไปลงทะเบียนในแต่ละแห่งเป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิงสูงอายุท่านหนึ่ง ซึ่งได้เดินทางไปแต่เช้าเพื่อลงทะเบียนที่ธนาคารในจังหวัดนนทบุรี และต้องรอคิวนานมากจนรู้สึกเหนื่อยล้า อีกทั้งยังมีโรคประจำตัว จึงร้องไห้ออกมาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ และในเวลาต่อมาได้ให้สัมภาษณ์สื่อบางสื่อว่าไม่ได้รับความสะดวกในการลงทะเบียน รวมถึงเจ้าหน้าที่ธนาคารของรัฐแห่งนั้นให้บริการไม่ดีด้วยวาจาไม่สุภาพ และไม่ให้เกียรติ แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปพบผู้หญิงคนดังกล่าว พร้อมได้อธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นและปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว

 

 

ขอแสดงความยินดีกับ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการ(ปปง) ซึ่งท่านเป็นตำรวจน้ำดีที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์และยุติธรรมด้วย...ลิป ออนนิวส์

 

** ในทันทีที่มีการนำเสนอข่าวนี้ออกไป ประชาชนทั่วไปที่เสพข่าวก็อาจจะเชื่อคำร้องทุกข์เกี่ยวกับการบริการของเจ้าหน้าที่รัฐในกรณีนี้โดยไม่ได้ตั้งข้อสงสัยแต่ประการใด เพราะมีทัศนคติด้านลบเป็นทุนอยู่แล้ว รวมถึงที่ผ่านมาก็มักจะวิจารณ์เจ้าหน้าที่รัฐว่า “บ้าอำนาจ” หรือ “ทำตัวเป็นเจ้านายประชาชน”ฯลฯ ทั้งนี้เนื่องจากประสบการณ์ที่เคยไปติดต่อกับหน่วยงานภาครัฐแล้วเคยพบอุปนิสัยด้านลบของเจ้าหน้าที่เป็นเช่นนั้น ซึ่งแท้ที่จริงแล้วทุกอาชีพก็มีทั้งคนดี และคนไม่ดี คนบางคนหรือในบางหน่วยงานเท่านั้นที่จะเป็นคนไม่ดี ทำให้ประชาชนเสียความรู้สึก และเกิดความไม่พึงพอใจในบริการ แต่ข้าราชการที่มีอุปนิสัยด้านบวกก็มีอยู่มาก โดยพวกเขาเหล่านั้นมีจิตสำนึกในการพัฒนาประเทศ ซื่อสัตย์สุจริต เสียสละ มีความสุขุมรอบคอบ ตลอดจนปฏิบัติหน้าที่ด้วยหลักธรรมาภิบาล ซึ่งเป็นคุณแก่ตัวทั้งข้าราชการเองและประชาชน

 

 

** เป็นที่ทราบกันดีว่า “หน้าที่หลักของภาครัฐ” คือการมุ่งเน้นรับใช้ประชาชน จึงต้องให้ความสำคัญกับความเป็น “พลเมือง” โดยเจ้าหน้าที่รัฐ หรือ “ข้าราชการ” ต้องเป็นผู้รับใช้พลเมืองด้วยจิตวิญญาณของความเอื้ออาทร และห่วงใย ควบคู่กับการใช้ความรู้ ความสามารถ สติปัญญาอย่างเต็มที่ รวมถึงต้องตระหนักว่า “พลเมือง” คือเจ้าของประเทศ ฉะนั้นข้าราชการจึงต้องคำนึงถึงประโยชน์ของพลเมืองหรือส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน อย่างไรก็ดี “ข้าราชการ” ควรภาคภูมิใจที่เป็นพลัง และกลไกสำคัญของการขับเคลื่อนตามนโยบาย ตลอดจนมาตรการต่างๆของรัฐบาลในการบริหารบ้านเมืองให้สำเร็จลุล่วง และมีประสิทธิภาพเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน โดยสุดท้ายนี้ขออัญเชิญ “พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10” ที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานเนื่องในวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี พ.ศ. 2561 ความว่า “ผู้ปฏิบัติราชการ นอกจากจะต้องรู้งานในหน้าที่อย่างทั่วถึงแล้ว ยังจำเป็นต้องรู้ดีรู้ชั่ว ประโยชน์และไม่ใช่ประโยชน์ อย่างกระจ่างชัดด้วย. งานราชการซึ่งเป็นงานของแผ่นดิน จึงจะดำเนินไปอย่างถูกต้องตรงตามเป้าหมาย และสำเร็จประโยชน์ที่พึงประสงค์ คือยังความดี ความเจริญให้เกิดแก่ประเทศชาติและประชาชนได้แท้จริงและยั่งยืน” .... ดร.ออร่า

 

* มีผู้ที่อาศัยอยู่ในซอยจันทน์ 16 (ศูนย์การค้าวรรัตน์) ร้องเรียนกันมาเป็นจำนวนมากว่าในซอยนี้มีผู้ที่ติดเชื้อโควิดแต่ปกปิดไว้ไม่ยอมไปโรงพยาบาลพบแพทย์ ชาวบ้านอยู่กันอย่างหวาดผวาไม่เป็นอันทำมาหากิน เรื่องนี้คงต้องฝากให้ สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร สั่งการยังเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบตามที่ชาวบ้านได้ร้องเรียนไว้เป็นการด่วน

 

** เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เวลา 18.00 น. พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท. กรไชย คล้ายคลึง ผบช. สอท. ได้จับกุมนายวู๋ เฉียง อายุ 37 ปี สัญชาติจีน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาค้าอาวุธสงคราม ทางออนไลน์ ตรวจค้นพบอาวุธสงครามเป็นจำนวนมาก และวัสดุระเบิดแล้วยังมียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 5 กรัม) ที่ห้องพักเลขที่ 99 /522 ตึกดี อาคารชุดนูเวล 9 ธนาซิตี้ ถนนบางนา-ตราด กม. 14 ต. บางโฉลง อ. บางพลี สมุทรปราการ ถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง โดยเฉพาะ พล.ต.ท. กรองชัย คล้ายคลึง ผบช.สอท. เป็นนายตำรวจหนุ่มน้ำดีที่สร้างผลงานการจับกุมมาตลอด ต้องขอปรบมือให้ดังๆ ด้วย

 

 

 

จิตอาสาดูแลความทุกข์ยาก พ.ต.อ.ดุสิต. วาลีประโคน ผกก.สน.บางยี่เรือ เป็นจิตอาสาที่ยอดเยี่ยมและหมั่นดูแลทุกข์สุขของประชาชนในพื้นที่เสมอ เมื่อเห็นพื้นที่มีสิ่งปฏิกูลก็รีบนำเจ้าหน้าที่จิตอาสาเข้าไปดำเนินการจัดการทันที เพื่อให้พื้นที่สะอาดและน่าอยู่ เป็นจิตอาสาที่น่าชมเชยอย่างยิ่ง...ลิป ออนนิวส์

 

** ชาวบ้านในย่านของ สภ. เมือง ลพบุรี ร้องเรียนมาเป็นประจำว่า นอกเหนือจากยาเสพติดจะระบาดอย่างหนักแล้ว ยังมีบรรดาขี้ยาที่กลายเป็นโจรผู้ร้ายในการชิงทรัพย์ บางรายเสพยาบ้าจนคุ้มคลั่ง ทำร้ายคนในครอบครัว และผู้คนที่ผ่านไปมา เรื่องนี้คงต้องฝากให้ พ.ต.อ. สมชาย ชูแก้ว ผกก. สภ. เมืองลพบุรี ลงพื้นที่ไปกับผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อตรวจสอบ และจับกุมแก๊งค้ายาเสพติด และบรรดาโจรผู้ร้ายเป็นการด่วน

 

** และในพื้นที่ของ สภ. ธัญบุรี ร้องเรียนกันมาเป็นประจำว่า มีบรรดาโจรผู้ร้ายที่คอยฉกชิงจี้ทรัพย์ชาวบ้าน โดยไม่เกรงกลัวต่อเจ้าหน้าที่ตรวจ ถ้าอย่างนั้นแล้วก็ต้องฝากให้ พ.ต.อ. วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก. สภ. ธัญบุรี ซึ่งเป็นนายตำรวจคนเก่งยอดขยันสั่งการไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาออกสืบและตรวจจับบรรดาโจรผู้ร้ายให้ราบคาบไปเลย

 

**มีผู้ขับขี่ร้องเรียนมาว่า บรรดารถบรรทุกชอบวิ่งด้วยความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด และบางคันก็ฝ่าสัญญาณไฟแดง เหตุเกิดในท้องที่ของ สน. ท่าพระ ฝาก พ.ต.อ. อดุลย์ ดอกพวง ผกก.สน. ท่าพระ สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรให้เข้มงวดในการจับกุมบรรดารถบรรทุกที่ทำผิดกฎหมายเหล่านี้ด้วย

 

** “พรรคการเมืองใดที่อุ้มชูคนชั่ว พรรคการเมืองนั้น จะเสื่อมสลายไปในที่สุด”

 

** บริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยอนาถาให้กับมูลนิธิรามาธิบดี หมายเลขโทรศัพท์ 02-201-1111

 

ไมโครโฟน