♦♦ รายงานตัววันนี้...ยุทธจักรสีกากีชั่วโมงนี้คำว่า "ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน" ดูจะลืม ดูจะเลือน ดูจะห่างหายไป เมื่อมีเรื่องผลประโยชน์ เรื่องยศ เรื่องตำแหน่งเข้ามาเกี่ยวข้อง เหมือนอย่างที่ "บิ๊กปั๊ด"พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข แม่ทัพใหญ่สีกากี กำลังรับรู้และคงต้องทำใจยอมรับ "สัจธรรม" การก้าวขึ้นสู่เก้าอี้ "ผบ.ตร." ว่ายากแล้ว การรักษาแชมป์ การรักษาตำแหน่งยากยิ่งกว่า เพราะแค่คุมทัพ "กรมปทุมวัน" เพียง 5 เดือน ก็เจอแซะเก้าอี้สารพัดรูปแบบ อย่างคดีจับยาไอซ์ 1,500 กิโลกรัม อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และมีพยานให้การพาดพิงไปถึง 2  นายตำรวจใหญ่ ยศ "พ.ต.อ." และ "พล.ต.ท." เข้ามาเกี่ยวข้อง ที่ "บิ๊กใหม่" พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. มีหนังสือจี้ถาม ผบช.ภ.6 เหตุใดไม่ดำเนินการส่งรายชื่อตั้งกรรมการสืบสวนสอบสวน และเรียกผู้ที่ถูกพาดพิงมาสอบสวน จนเรื่องราวโด่งดังใหญ่โต สังคมเกิดข้อสงสัย สังคมเกิดคำถาม "ผบ.ปั๊ด"มอบหมายให้ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และ "บิ๊กยิ้ม"พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ยังถูกนำไปใส่ไคร้ในทำนอง "ซูเอี๋ย" ตั้งคนกันเองกับตำรวจที่ถูกพาดพิงไปสอบ ทั้งที่ผลตรวจสอบ "บิ๊กนู-บิ๊กยิ้ม" ยังไม่ออกมาให้รู้หมู่หรือจ่า ก็กระแซะกันทุกเม็ด แบบนี้มันเข้าตำรา "เลื่อยขา" กันชัดๆ ๐

 

♦♦ ปมร้อนแรงตลอดช่วงสัปดาห์สองสัปดาห์คงหนีไม่พ้นศึก"พล.ต.อ."ปะทะ"พล.ต.ท." ที่ข่าวลือ ข่าวเขาว่ากระหึ่มออกมายิ่งกว่าสายน้ำ ตั้งแต่จะมีคำสั่ง เด้ง! "พล.ต.อ." เข้ากรุ แต่แล้วก็ไม่มีอะไรในก่อไผ่ จากนั้นก็มีข่าว "พล.ต.ท." จะถูกเด้งเข้ากรุออกมาเช่นกัน สุดท้ายก่อไผ่ก็มีแต่หน่อไม้ หาได้มีอะไรแอบแฝง เพราะเท่าที่จับสัญญาณทุกอย่างน่าจะถูกเคลียร์ ทุกอย่างน่าจะจบกันแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น ทุกคนต่างแยกย้ายทำงานกันตามปกติ เพียงแต่การแต่งตั้งวาระเดือนเมษายน ที่เดิม "พล.ต.ท." จองกฐินจะก้าวพรวดขึ้นไปอีกขั้น เพื่อปูทางเก้าอี้ใหญ่ในอนาคต ก็คงต้องพับโปรเจค รอตามคิว รอตามวาระปกติ ให้ครบเกณฑ์ ให้ครบกติกา ไม่มีรายการแหวกม่านประเพณี ให้พวกรอดรั้วสามพรานตะขิดตะขวงใจ เรียกว่าจบสวย วิน-วิน กันทุกฝ่าย ไม่มีใครได้ใครเสีย เพียงแต่ต่อนี้ไปจะเคลื่อนไหว จะออกตัวอย่างไร ก็อย่าให้หวือหวา อย่าไปขบเหลี่ยมให้อารมร์ขึ้นกันอีกก็แล้วไป ฮ่าๆๆ ๐

 

♦♦ นี่ซิ..น่าจะไม่จบ!!! อีกหนึ่งปมร้อนที่ ผู้การฯเพชรบุรี พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร โพสต์เฟซส่วนตัวกับปัญหาสถานบันเทิงในจ.ภูเก็ตเปิดเพลงดังลั่นถึงตี4 ตี 5 จนต่อมา "บิ๊กต่าย"พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบช.ภ.8 ต้องสั่ง พล.ต.ต.​ภ​ร​ศักดิ์​ นวน​หนู​ ผ​บก.ภ.จว.​ภูเก็ต​ ไปตรวจสอบ นำไปสู่การขยายผลจับกุมกันไปยกใหญ่ ก่อนที่ "ผู้การฯอุทัย" จะโพสต์ขออภัยที่พลั้งมือโพสต์ไปทำให้ "บิ๊กต่าย"และผู้การฯภูเก็ต วุ่นวาย ซึ่งดูเหมือนทุกอย่างจะแฮปปี้เอนดิ้ง แต่แล้วในความเงียบ ในความอึมครึม "ผู้การฯเพชรบุรี" ก็โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "อุทัย กวินเดชาธร" มีข้อความตอนหนึ่งที่อ่านแล้วทะแม่งๆ "...วันนี้ได้รับข้อมูลจากสื่อว่าที่จังหวัดเพชรบุรีก็มีสถานบริการเปิดยันเช้าเช่นเดียวกัน อ้าว เป็นอย่างนี้ได้ไง ต้องจัดเต็ม ก็ได้สั่ง รอง ผบก.กับ ผกก.เมืองเพชรบุรี ให้สืบสวนขยายผล ถ้ามีจริงดำเนินคดีจับให้หมดตั้งแต่ผู้ประกอบการร้านที่เปิดให้บริการ รวมถึงผู้มาใช้บริการด้วย ออกหมายจับได้เมื่อไหร่ จะไปเยี่ยมถึงบ้านทันที ถ้ามาดีก็แล้วไป เล่นสกปรกเอาตายขอบอก #ไม่ได้จะไปโจมตีใครที่โพสต์ไปที่ภูเก็ตเพราะเดือดร้อนจริงๆ ไม่มีเจตนาแอบแฝง #เจริญเติบโตก้าวหน้าทุกวันนี้ไม่เคยต้องมีต้นทุน เจ้านายเมตตาคนทำงาน มีข้อเสียที่อาจเป็นคนปากไม่ค่อยดี เพราะบางทีบางเรื่องก็พูดชัดเจนเกิน ตรงไปตรงมาเกิน  ดีก็ว่าดี ไม่ดีก็ว่าไม่ดี ไปเช็คประวัติได้ ยังไงก็ตามก็จะยึดถือมั่นดำรงตนเป็นแบบนี้ไปยันเกษียณ ถึง 30 ก.ย.2571 เมื่อไหร่ เลิกกัน ขอลาไปเป็นเกษตรกรกับผู้บริหารโรงแรม" ...เอ๊ะยังไง ๐

 

♦♦ ปิดท้ายยึดตามถ้อยแถลง "บิ๊กแรก"พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึงผลการประชุม ก.ตร.และก.ต.ช. ที่ "บิ๊กตู่"พล.ต.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มานั่งหัวโต๊ะประธาน เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเด็นการเปิดเก้าอี้ 8 นายพลป้ายแดง ตำแหน่งผู้บัญชาการ (ผบช.)4 ตำแหน่งและตำแหน่งผู้บังคับการ (ผบก.) 4 ตำแหน่ง เพื่อหวังเป็นโซ่ข้อกลางระหว่างผู้บังคับบัญชาระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับหน่วยงานที่ปฏิบัติในการขับเคลื่อนงานป้องกันปราบปราม สืบสวนสอบสวน และกิจการพิเศษกฎหมายสอบสวน ที่ประชุมมีมติให้ไปเพิ่มเติมเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ให้รัดกุมมากขึ้น ซึ่งจะนำเข้าไปพิจารณาในที่ประชุม ก.ตร.อีกครั้งหนึ่ง "ก.ต.ช.วันนี้จึงยังไม่มีการพูดถึงการกำหนดตำแหน่งหน้าที่ทั้งตำแหน่ง ผบช.และ ผบก. แต่ในหลักการแล้วได้อนุมัติหลักการแต่ให้ไปเพิ่มเติมในเรื่องของเขตอำนาจหน้าที่ให้รัดกุมและขอบเขตอำนาจหน้าที่ที่จะได้รับมอบหมายต่อไป จากนั้นก็จะนำเข้า ก.ตร.อีกครั้งหนึ่ง" ชัดเจนการเปิด 8 เก้าอี้นายพลผ่านตีตราประทันเรียบร้อย แต่ไม่ "ฉลุย" เท่านั้น ต้องนำไปปรับหน้าที่ให้ชัดเจน แล้วเดินหน้าต่อไป ไม่ใช่โดนตีกลับอย่างที่หลายคนเข้าใจ ๐ สวัสดี