คอลัมน์ “รอบบ้าน รอบเมือง” แห่งบ้านเมืองออนไลน์ ประจำวันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม 2564

 ตามจำเป็น แต่ละคน แต่ละฝ่าย

สวมหน้ากาก ร้อยเปอร์เซ็นต์ ป้องกันภัย

 แอลกอฮอล์ ต้องมีไว้ พกติดตัว

      ก่อนจะรอ ฉีดวัคซีน อีกไม่นาน

 ไทยต้องผ่าน วิกฤตการณ์ นี้ให้ได้

 ทั้งภาครัฐ เอกชน ต้องรวมใจ

 มาตราการณ์ ต้องใส่ใจ คนส่วนรวม

      อย่าฉกฉวย หาโอกาส ชาติยามนี้

 จิตสำนึก ทำสิ่งดี เพื่อแก้ไข

 อย่ามัวหา แต่ประโยชน์ ชาติมลาย

 สร้างสำนึก สร้างวินัย

 ปลอดภัยเอย

 

...............เบญจรงค์.............

 

** การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกที่ 3 เป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นมาแล้ว เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ศ.นพ. ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณะบดีคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล พร้อมด้วย ศ.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา คณะบดีคณะแพทย์ศาสตร์รามาธิบดี และ ศ.นพ. สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ คณะบดีคณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วยคณะผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ได้เผยว่า โควิด-19 เที่ยวนี้มีความแรงกว่าครั้งที่ผ่านมาถึง 15 เท่า ทำให้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ง่ายและจะมีการเสียชีวิตในกลุ่มที่ประมาทไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย พร้อมยังคุยเสียงดัง จับตัวเป็นกลุ่มก้อน

 

** ข้อมูลของนายแพทย์ผู้ชำนาญการทางด้านของโรคติดต่อทั้ง 3 ท่านเป็นที่เชื่อถือของวงการแพทย์ ถ้าหากออกมาเตือนในลักษณะนี้แล้วใครที่ยังกระทำตนอยู่ในความประมาทโดยไม่สนใจในคำแนะนำของแพทย์และ ศบค. ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้

 

** เรื่องราวของการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 นพ. ประสิทธิ วัฒนาภา คณะบดีคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล ยังออกมาขอวิงวอนให้ประชาชนทุกสาขาอาชีพไปฉีดวัคซีนป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 มีประชาชนบางกลุ่มยังสองจิตสองใจไม่มั่นใจในวัคซีนไวรัสโควิด-19 ว่าจะมีคุณภาพเพียงพอ และมีผลข้างเคียงต่อร่างกายถึงขนาดทำให้ผู้ฉีดได้รับอันตรายหรือเปล่า

 

** สาเหตุส่วนใหญ่ในการทำให้ไวรัสโควิด-19 ระบาดอย่างรุนแรงก็ยังคงเป็นเรื่องของผู้ที่เป็นข้าราชการ และเอกชนก็ตามแต่เปิดประตูบ้านชักศึกพวกคนต่างด้าวไม่ว่าจะเป็นชาวเมียนมาร์ เขมร และแรงงานผู้ที่ลักลอบ ไม่ว่าจะเป็นคนสีผิว หรือคนอินเดียก็ตามแต่ล้วนแล้วแต่จะทำให้เกิดโรคระบาดโควิด-19 ได้ง่ายมาก

 

** แรงงานเถื่อนโดยเฉพาะพวกเมียนมาร์ หรือกัมพูชาก็ตามแต่ส่วนใหญ่ทำตัวเหมือนจะไม่กลัวตาย จากการรายงานข่าวพบว่า มีแรงงานเถื่อนไม่น้อยที่ไม่ยอมสวมใส่หน้ากากอนามัยแล้วยังพูดจาส่งเสียงดัง ทำให้น้ำลายกระเซ็นไปโดนผู้อื่นด้วย พร้อมกันนั้นแรงงานเถื่อนบางกลุ่มก็ยังจับกลุ่มกินเหล้าเมายา พร้อมด้วยเล่นการพนัน ถ้าหากเจ้าหน้าที่ซึ่งมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้ปล่อยปะละเลย หรือเห็นแก่สินบนซึ่งถือว่าเป็นเรื่องน่าละอายใจอย่างยิ่งสมควรที่จะได้รับโทษให้ถึงที่สุด ถ้าจำคุกอย่างน้อย 15 ปีก็จะเป็นเรื่องตัดต้นตอของแรงงานเถื่อนที่นำโรคโควิด-19 มาสู่ประเทศไทย!!!

 

 

พระราชพัฒนากร (สมชาย ฉันทสโร) ท่านเจ้าอาวาสวัดปริวาสราชสงคราม ถนนพระราม ๓ เขตยานนาวา กทม.๑๐๑๒๐ ได้มอบข้าวสาร ปลากระป๋อง มาม่า ขนมเวเฟอร์ จำนวน ๖๐๐ ชุด ให้เขตยานนาวา รับแทนผู้ว่าฯกทม. นำไปแจกทานให้ผู้ที่ประสพภัยภาวะโรคระบาด โควิค-๑๙ บุญสำเร็จด้วยการแจกทานครั้งนี้ ขอให้ทุกท่านมีส่วนได้ในกุศลนี้ด้วย ทุกรูป ทุกนาม ตลอดทั้งสามภพ และผู้มีพระคุณทุกท่านด้วย มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ ด้วยการทุกท่านเทอญ

 

 

** หมอ และผู้ชำนาญการเตือนผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ทั่วไปจะติดโรคโควิด-19 ได้ง่ายกว่าคนที่ไม่สูบ 14 เท่า รู้ผลของพิษภัยจากบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ทั่วไป ถ้าใครยังไม่เลิก และสูบต่อไปก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ เพราะไม่รักตัวเองยอมตายเพื่อบุหรี่ไฟฟ้า และบุหรี่ทั่วไป ** ต้องขอแสดงความยินดีกับคนอเมริกัน และคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเวลานี้ออกไปนอกบ้านไม่ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยแล้ว และยังสามารถที่จะรวมตัวเป็นกลุ่มก้อน เพื่อจัดงานเลี้ยง หรือปาร์ตี้ใดๆ ก็ได้ เหตุเนื่องจากการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพของ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งได้ประชุมวงการแพทย์ และนักวิทยาศาสตร์เพื่อเร่งผลิตวัคซีนที่มีคุณภาพสูงแล้วนำมาฉีดให้ประชาชนคนละ 2 โดส จึงทำให้ในเวลานี้ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ปลอดจากไวรัสโควิด-19 ซึ่งเทียบกับในอดีตเหมือนฟ้ากับดิน สหรัฐอเมริกาเคยเป็นประเทศที่มีผู้ป่วยโควิด-19 และตายมากที่สุดในโลก!!!

 

** รู้คืบหน้าไปแล้วกับการตามติดกลโกง กรณีการล้วงเงินจากกองทุนสวัสดิการและสวัสดิภาพ และบุคลาการกรทางการศึกษา 2,500 ล้านบาท ไปปล่อยกู้แบบทุจริต จนนำไปสู่การชี้มูลความผิดผู้บริหาร และพวกรวม 20 คน และ ป.ป.ง.อายัดทรัพย์สินผู้เกี่ยวข้องแล้ว นี้เป็นแค่ซีรีย์แรกของการปัดฝุ่นคดีเรื่องดังที่ยังปิดไม่ลง ที่ “คอลัมน์หมายเลข 7”นำทีมโดยคุณสมโภชน์ โตรักษา และแน่นอนพร้อมด้วยผู้ตรวจสอบจิตอาสา คุณพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการ สตง. ร่วมตรวจสอบ และให้ความรู้วิจารณ์ชี้ทางแก้ไขเยียวยา และนี่อีกคดีดังโกงยาปราบศัตรูพืช ย้อนไปปี 2555 คอลัมน์หมายเลข 7 และ สตง. ในขณะนั้น ได้รับเรื่องร้องเรียนจากเกษตรกร พบพิรุธการใช้งบฉุกเฉินหลายจังหวัดในภาคอีสาน ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ จัดซื้อยาปราบศัตรูพืช วงเงินกว่า 7,200 ล้านบาท จึงเข้าไปตรวจสอบพบการทุจริตบนความเดือดร้อนของชาวบ้านอย่างกว้างขวาง ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช. การตรวจสอบของ “คอลัมน์หมายเลข 7”. ในครั้งนั้น พบข้อพิรุธหลายอย่าง เช่นโรคพืชที่เกิดขึ้นตามฤดูกาลถูกประกาศเป็นภัยพิบัติ และยาปราบศัตรูพืชที่ซื้อจำนวนมากจากผู้ขายเดียว ในราคาแพงหลายเท่าเช่น เบโนมีล (benomyl) ใช้ปราบโรคไหม้ใบข้าว ราคา 1,920 บาท แต่ร้านค้าในตลาดขายแค่ 350 บาท ซึ่งขณะนี้ข้อมูลทั้งหมดอยู่ในมือ ป.ป.ช. รอการลงดาบฟันคนโกง โดยมีการไต่สวนเสร็จแล้ว 19 เรื่อง มีผู้ถูกกล่าวหา 40-50 ราย จังหวัดที่พบทุจริตมากที่สุดในเรื่องนี้ คือ อุบลราชธานี ใช้งบประมาณไปมากกว่า 1,200 ล้านบาท หลังเกิดปัญหาในครั้งนั้นกระทรวงการคลัง ประกาศลดวงเงินงบฉุกเฉินของ ผู้ว่าราชการจังหวัด จากที่ใช้ได้ครั้งละไม่เกิน 50 ล้านบาท ลดเหลือ 20 ล้านบาท หากต้องซื้อสารเคมีให้กรมวิชาการเกษตรเป็นผู้ดำเนินการ สุดท้าย ป.ป.ช.จะสามารถนำคนทำผิดมาลงโทษได้มากน้อยแค่ไหน เพราะคนทำผิดเป็นข้าราชการระดับพ่อเมือง และนายอำเภอ ซึ่งมีทั้งออกจากราชการไปแล้ว และยังอยู่ในราชการ เมื่อถึงเวลาที่ ป.ป.ช. ลงดาบ ย่อมสะเทือนแวดวงปกครองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และกับนี่อีกเรื่องดังไม่แพ้กัน คดีนี้ถูกเปิดโปงในช่วงปี 2557 ถือเป็นรอยด่างของแวดวงการศึกษาไทย ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ใช้งบประมาณปี 2555 จำนวน 4,400 ล้านบาท สร้างสนามฟุตซอล 356 โรงเรียน 17 จังหวัด วงเงินจัดสรรให้โรงเรียนแต่ละแห่ง 2.5 - 5 ล้านบาท ทุจริตแบบสามประสาน สพฐ. ตั้งงบประมาณโดยมีนักการเมืองผลักดันอยู่เบื้องหลัง ผ่านไปยัง ผอ.โรงเรียน จนเกิดปัญหาทั้งวัสดุไม่ได้มาตรฐาน สร้างมาแล้วใช้งานไม่ได้ มีการฮั้วประมูล เกิดการทุจริตในวงกว้าง เฉพาะจังหวัดนครราชสีมา มีการทุจริตมากถึง 6 สำนวน ล่าสุดเมื่อ 6 สิงหาคม 2562 ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ ชี้มูลความผิด ประธานวิปรัฐบาลแบบยกครัว เพราะทั้งเมียและน้องเมีย มีส่วนร่วมก๊วนในการทำผิดครั้งนี้ด้วย แต่ผ่านไป 2 ปีแล้ว อัยการก็ยังไม่สรุปสำนวนส่งฟ้องศาล อ้างรอรวมสำนวนทั้ง 6 สำนวน แล้วค่อยส่งฟ้องในคราวเดียว คดีทุจริตสนามฟุตซอล นอกจากมีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องแล้ว ยังมีบุคลากรทางการศึกษาเข้าไปมีเอี่ยวด้วย ซึ่งถูกชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง เฉพาะกรณีทุจริตในนครราชสีมาไปแล้วมากกว่า 60 คน เป็นอุทาหรณ์เตือนใจข้าราชการ อย่าหน้ามืดทำตามคำสั่งผู้ใหญ่ จนลืมจรรยาข้าราชการ เพราะที่มีกิน มีอยู่ ล้วนมาจากภาษีของประชาชน ทุกคดีทุจริตที่คอลัมน์หมายเลข 7 ตรวจสอบ ไม่ได้หวังผลเพียงแค่นำเสนอข่าว แต่มีเจตนาตีแผ่กลโกง เพื่อให้เกิดการเอาคนผิดมาลงโทษ นำเงินภาษีประชาชนกลับมาคืนแผ่นดิน และการที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาเงินของชาติ นี่เป็นคำตอบว่างานตรวจสอบของ “คอลัมน์หมายเลข 7” มีคุณค่าควรแก่การเกาะติดติดตามมาเล่าสู่การฟังให้รู้ทันกลโกงต่อไป** ปรากฏว่าใน กทม. มีผู้คนที่ติดไวรัสโควิด-19 เป็นจำนวนมากอันดับ 1 ฉะนั้นแล้วทางกระทรวงสาธารณะสุขและ พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ต้องจัดหาสถานที่ในการให้ผู้คนที่รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้มากที่สุดเพื่อที่จะระงับการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของไวรัสโควิด-19

 

** เตือนไปถึงบรรดาพวกมือบอนชอบส่งข่าวปลอม หรือข่าวที่ไม่เป็นความจริงระวังนะจะบอกให้ ส่งไปส่งมาอาจจะต้องย้ายบ้านเข้าไปอยู่ในคุกได้ ให้จำคำนี้ไว้ว่าให้ชัวร์ก่อนแชร์ ถ้าไม่ชัวร์อย่าไปแชร์ดีที่สุด

 

** เพื่อเป็นการป้องกันโรคโควิด-19 ระบาดไปมากกว่านี้ขอให้ทุกคนโปรดให้ความร่วมมือในการซื้ออาหารกลับไปกินที่บ้านจะดีกว่าส่วนร้านค้าที่ขายอาหารเกินเวลา หรือปล่อยให้ลูกค้าเข้าไปกินในร้าน หากมีการพบเจอขอให้แจ้ง 191 ทันที

 

 

 

** ทุกวันนี้ยังมีคนต่างชาติที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือใส่หน้ากากอนามัย โดยไม่สนใจความปลอดภัยของผู้อื่นที่จะได้รับเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้แจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบ หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ที่หมายเลข 191

 

** ชาวบ้านที่อยู่ในจังหวัดชัยภูมิก็ยังมีการร้องเรียนมาเป็นจำนวนมากกว่า นอกเหนือจากยาเสพติดจะระบาดอย่างหนักแล้ว ยังมีโจรผู้ร้ายที่คอยสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการฉกชิงวิ่งราว และงัดแงะร้านค้า รวมถึงบ้านช่องของชาวบ้านด้วย ฝาก พล.ต.ต. ฉลอง สุจันทร์ ผบก.ภ.จว. ชัยภูมิ สั่งเป็นลายลักษณ์อักษรไปให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทุก สภ. ให้ขยันเอาจริงในการจับกุมแก๊งค้ายาเสพติด และบรรดาโจรผู้ร้ายให้ราบคาบไปเลย

 

** ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพัทยา จังหวัดชลบุรี ยังมีการร้องเรียนมาตลอดว่า นอกเหนือจากยาเสพติดทุกชนิดจะระบาดอย่างหนักแล้ว ก็ยังมีพวกโจรผู้ร้ายที่คอยสร้างความเดือดร้อนให้คนไทย และคนต่างชาติมาตลอด โดยการวิ่งราวทรัพย์ หรือกระเป๋าถือ โดยไม่เกรงกลัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ คงต้องฝากให้ พ.ต.อ. พิศิษฐ์ พูลทรัพย์ ผกก. สภ. เมืองพัทยา ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อตรวจสอบและจับกุมแก๊งค้ายาเสพติด และบรรดาโจรผู้ร้ายให้จริงจังและเด็ดขาดไปเลย  

 

 

พ.ต.อ.อิทธิพล พงษ์ธร ผกก.สน.บางโพงพาง ได้สั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ลงพื้นที่พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคตามตรอกซอยและสถานที่ต่างๆพร้อมด้วยที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิค-19 ได้รับคำชมจากชาวบ้าน นักธุระกิจ และสื่อมวลชนว่า พ.ต.อ.อิทธิพล พงษ์ธร เป็นนายตำรวจน้ำดีที่ขยันทำงานเพื่อประชาชน และยังเป็นผู้ที่มีมนุษยสัมพันธ์อันยอดเยี่ยมด้วย

 

** ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ของ สภ. ศรีมหาโพธิ ร้องเรียนมาเป็นจำนวนมากว่า พื้นที่นี้นอกเหนือจากจะมียาเสพติดระบาดอย่างหนักแล้ว ก็ยังมีโจรผู้ร้ายที่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน แถมซ้ำยังมีพวกที่ทำตัวเป็นจอมอิทธิพลเที่ยวรังแกผู้หญิง โดยมีการข่มขู่และแสดงอำนาจบาตรใหญ่ คงต้องฝากให้ พ.ต.อ. วิวัฒน์ พิสิษฐ์ศักดิ์ ผกก. สภ. ศรีมหาโพธิ ให้ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อทำการตรวจสอบ และจับกุมให้จริงจังกับแก๊งค้ายาเสพติดและโจรผู้ร้ายรวมถึงพวกอันธพาลจอมเกเรให้หมดสิ้นไปเลย เพื่อความสงบสุขของชาวบ้านและนักธุรกิจ

 

 ** มีชาวบ้านหลายท่านชมเชย พ.ต.ท.สมภพ ทองพันชั่ง รอง ผกก.สอบสวน สภ.บ้านปรางค์ อ.คง จ.นครราชสีมา ชุดทำงานศูนย์ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ตำรวจภูธร ภาค 3 รับผิดชอบพื้นที่ 4 จังหวัด ศรีสะเกษ อุบล อำนาจเจริญ ยโสธร ขยันตรวจตราไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ใครมาทำลายป่า จะจับดำเนินคดีไม่ไว้หน้าใคร แม้จะเป็นผู้มีอิทธิพลก็ตาม จะดำเนินการตามกฎหมายทุกราย แถมซ้ำยังเป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดีเยี่ยม ดูแลเอาใจใส่ประชาชนทุกคน ถือว่าเป็นตำรวจน้ำดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติคนหนึ่ง

 

 

ขอชื่นชมไม่ขมคอ ทำดีชาวบ้านก็รักแถมนายไม่เหนื่อย จากแนวคิดดี ๆ ของ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผบช.ภ.6 และ พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ พร้อม พ.ต.ท. สัมพันธ์ เย็นอยู่ สวป.สภ.พยุหะคีรี และตำรวจศูนย์จราจร สภ.พยุหะคีรี ก่อให้เกิดโครงการตามหาคนสูงวัยใช้รถเก่า

โดยได้นำกำลังเคลื่อนที่ไปตามเขตเมือง ชุมชน จ.นครสวรรค์ เพื่อนำสติกเกอร์สะท้อนแสงไปติดรถจักรยานยนต์ของชาวบ้าน เพื่อให้ขับขี่ปลอดภัย และ คณะของ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ พร้อม พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ ไปตรวจเยี่ยม สภ. จันเสน พบ พ.ต.อ.ภัทรพล พลศิลา ผกก.สภ.จันเสน พ.ต.ท.ยศวัจน์ บงบุตร รองผกก.ป.สภ.จันเสน, พ.ต.ต.มณีสาระวัน สวป.สภ.จันเสน และข้าราชการตำรวจ รอต้อนรับเจ้านายอย่างเป็นระเบียบ
สิ่งที่เกิดความประทับใจที่กล่าวถึงคือตำรวจ สภ.จันเสน พานายไปชมเศรษฐกิจพอเพียง เลี้ยงไก่ ตั้งชื่อเล้าไก่ไว้ว่า ไตรรงค์ ผิวพรรณ ทำเอา รองผบช.ภ.6 เขินไปเลย 

ตำรวจ สภ.จันเสน เล่าว่า ตามที่ท่านรองฯ บอกว่า พื้นที่โรงพักได้รับบริจาคจากชาวบ้าน 4 ไร่ สร้างอาคารไป 2 ไร่ เหลือ 2 ไร่ จะทำอะไรให้เกิดประโยชน์จึงดำเนินตามแนวทางหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้ ตำรวจภูธร จึงได้ทำการเลี้ยงไก่ ปลาดุก ให้แก่ครอบครังตำรวจ กินแล้วแบ่งปันชาวบ้านด้วย ต้องขอชมเชย พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ และ พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ และตำรวจนครสวรรค์อย่างยิ่ง

 

** เรื่องราวของนายเด่นภูมิ วัฒนโชติภิญโญ โมเดลลิ่งเก๊หลอกลวงผู้หญิงไปข่มขืน 30 กว่าราย แล้วยังพบประวัติโชกโชนอีกมากมาย ถือเป็นบุคคลที่อันตรายมากเป็นภัยกับผู้หญิง มีหลายคนแสดงความคิดเห็นว่า ถ้านำไปติดคุกอีกไม่นานก็คงออกมาสร้างเวรสร้างกรรมให้กับสุขภาพสตรีอีก เพื่อยุติในการทำชั่วของนายเด่นภูมิ ต่อผู้หญิง ให้ตัดอวัยวะเพศออกไปเลย

 

** ชาวบ้านในย่าน สน. ตลาดพลู ร้องเรียนมาเป็นประจำว่า นอกเหนือจากยาเสพติดจะระบาดอย่างหนักแล้ว ก็ยังมีพวกขี้ยาที่คอยสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ไม่ว่าจะรีดไถ่เงินบ้างฉกชิงวิ่งราวทรัพย์ของชาวบ้านมาตลอด คงต้องฝากให้ พ.ต.อ. พิสิฐชัย ถิ่นขนอม ผกก.สน. ตลาดพลู สั่งเป็นลายลักษณ์อักษรให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาลงพื้นที่ตรวจสอบ และจับกุมให้จริงจังกับแก๊งค้ายาเสพติดและบรรดาพวกขี้ยาที่กลายเป็นโจรผู้ร้ายให้ราบคาบไปเลย

 

คุณสมปอง จิระประวัติตระกูล (เฮียปอ) เจ้าของร้านกรอบรูป ง้วนฮะ และกต.ตร.สน.สมเด็จเจ้าพระยา มอบหน้ากากอนามัยที่มีคุณภาพจำนวน 3000 ชิ้น ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อออกปฏิบัติหน้าที่ด้วยความั่นใจ เมื่อเร็วๆนี้

 

** ตามที่มีผู้ใช้รถใช้ถนนร้องเรียนมาว่าถนนเจริญกรุงใกล้วัดยานนาวา มีรถมินิบัสสาย 1 และสาย75 นอกจากขับรถด้วยความเร็วเป็นที่น่าหวาดเสียวของผู้โดยสารแล้วก็มักจะแซงข้ามเลนและบีบแตรเสียงดัง เพื่อให้รถที่วิ่งอยู่เลนตรงกันข้ามหยุดเพื่อให้รถตัวเองไปก่อน ถือว่าเป็นอันธพาลบนท้องถนนพอความทราบไปถึง พ.ต.ต. ชวโรจน์ กล้าหาญ สว.จร.สน.ยานนาวา ลงพื้นที่ไปกับผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อตรวจสอบและจับกุมรถมินิบัสเหล่านี้แล้วนำไปดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ถือเป็นนายตำรวจหนุ่มน้ำดีที่ขยันทำงาน เพื่อทำให้การจราจรเกิดความคล่องตัว ถ้าหากมีเรื่องร้องเรียนก็จะสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาให้ลงไปตรวจสอบ และดำเนินการเพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย

 

** “ผู้นำชั้นดีจะต้องเป็นนักการสื่อสารที่ดีด้วย”

 

**โลหิตยังขาดแคลนอย่างหนัก โปรดร่วมใจกันไปบริจาคโลหิตที่สภากาชาดไทยได้กุศลแรง

 

ไมโครโฟน