คอลัมน์ “รอบบ้าน รอบเมือง” แห่งบ้านเมืองออนไลน์ ประจำวันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน 2564

 แต่ต้องทน หลากปัญหา ต้องแก้ไข

 ทนอีกนิด วัคซีนฉีด ให้ทั่วไทย

 ต้องดับไฟ แต่ต้นลม ข่มน้ำตา

      วิกฤตโลก อย่ามัวโศรก พลอยเสียขวัญ

 สู้กับมัน ถ้าท้อแท้ ไทยเสียหาย

 ตั้งสติ รู้เท่าทัน จะปลอดภัย

 รอวันใหม่ สู้สุดใจ ชาติธำรงค์

     ฉีดวัคซีน กันให้ทั่ว ป้องกันไว้

 อย่ามัวกลัว อันตราย ขายข่าวชั่ว

 คอยประโคม แต่ข่าวลวง ให้คนกลัว

 ตั้งสติ ตรองให้ทั่ว จะพ้นภัย

 

...............เบญจรงค์.............

 

** สถานการณ์โรคโควิด-19 ยังไม่น่าไว้วางใจเพราะนับวันจะมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นจำนวนมาก มีผู้รักษาหายแล้วเป็นส่วนหนึ่ง และที่เสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก ที่เป็นอย่างนี้ก็มาจากหลายสาเหตุเป็นเพราะคนกลุ่มหนึ่งไม่เชื่อคำแนะนำของ ศบค. แล้วยังกระทำตัวด้วยความประมาทไม่ว่าจะจับกลุ่มก้อนเพื่อสังสรรค์ และจัดปาร์ตี้แล้วยังมีการดื่มสุรายาเมาพอเหล้าเข้าปากแล้วก็จะไม่มีสติคุยกันเสียงดังรดน้ำลายใส่กันจนทำให้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น ส่วนคนอีกกลุ่มหนึ่งก็ยังลักลอบเล่นการพนัน ชนไก่ส่งเสียงดัง โดยไม่ใส่หน้ากากอนามัยก็มี เวลาเชียร์ไก่ชนที่ตนเล่นกันเอาไว้ก็จะตะโกนสุดเสียงจนลืมไปว่า พฤติกรรมเช่นนี้ คือที่มาของการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19

 

**ทุกวันนี้ก็ยังมีต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองไทยมาโดยทางธรรมชาติซึ่งมีเอกชนนำรถไปบรรทุก และแอบเข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมาย ที่น่ากลัวที่สุดถ้าเจ้าหน้าที่ของทางราชการที่ยังเห็นแก่ได้ โดยพาคนต่างด้าวเถื่อนพวกนี้เข้าเมืองมา ถ้าหากพบเจอเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้กระทำผิดโดยการลักลอบเอาคนต่างด้าวเข้าเมืองจะต้องนำไปดำเนินคดีให้ถึงที่สุด!!!

 

 

พระราชพัฒนากร (สมชาย ฉันทสโร) ท่านเจ้าอาวาส วัดปริวาสราชสงคราม ถนนพระราม ๓ เขตยานนาวา กทม.๑๐๑๒๐ ได้เดินทางมาแจกทานที่วัดกระทุ่มทอง ต.ทรัพย์สมบูรณ์ อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ แจกทานข้าวสาร ๒๐๐ ถุง ไข่เป็ด ๒๐๐ ถาด เงินคนละ ๑๐๐ บาท โมทนาบุญกับทุกท่านด้วย แบ่งบุญกุศลให้ทุกท่านด้วย ทุกรูป ทุกนาม ตลอดทั้งสามภพ และผู้มีพระคุณทุกท่านด้วย มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ ด้วยกันทุกท่านเทอญ

 

** จากการรายงานของผู้สื่อข่าว “คอลัมน์ รอบบ้าน รอบเมือง” ซึ่งนำทีมโดย ลิป ออนนิวส์  ยังพบว่ามีคนที่กระทำการด้วยความประมาทเวลาออกนอกบ้านไม่ใส่หน้ากากอนามัยแล้วยังคุยเสียงดัง โดยไม่เกรงใจผู้อื่น ถ้าหากมีการเข้าไปเตือนก็จะแสดงอาการของกุ๊ยสถุนอันธพาล และขู่จะทำร้ายอีกต่างหาก ซึ่งถือว่าบุคคลเหล่านี้ไร้จิตใต้สำนึกสิ้นดี โดยไม่คำนึงถึงว่าโรคโควิด-19 จะติดต่อกันมากขึ้น ถ้าหากใครพบบุคคลชาติชั่วที่ไม่ยอมรับผิดชอบต่อสังคมเหล่านี้ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ใกล้ที่สุด หรือโทร 191

 

** ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามประชาสัมพันธ์ให้ผู้คนไปฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วยังประชาสัมพันธ์ว่าวัคซีนมีเพียงพอที่จะฉีดให้กับประชาชนทุกสาขาอาชีพ แต่อย่างไรก็ตามแต่ยังมีประชาชนอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่มั่นใจของวัคซีนโควิด-19 เพราะเกรงว่าจะมีผลข้างเคียงรุนแรง และเสียชีวิตในที่สุด!!!

 

** แต่มีบุคคลอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นบุคคลกลุ่มใหญ่พอสมควรออกมาบอกว่า อยากจะเลือกวัคซีนโควิด-19 เช่น ไฟเชอร์ โมโดน่า จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และล่าสุดอนุญาติให้เอกชนซื้อวัคซีนชิโนฟาร์มซึ่งเป็นของรัฐบาลจากประเทศจีน ที่มีคุณภาพเป็นที่น่าเชื่อถือว่าจะไม่เกิดผลข้างเคียง ฉะนั้นแล้วรัฐบาลควรมีทางเลือกให้กับประชาชนที่จะฉีดวัคซีนโควิด-19  ราคาของวัคซีนชิโนฟาร์มที่ที่กำหนดมาคือเข็มล่ะ 888  บาท ถ้าฉีด 2 เข็มก็ไม่เกิน 2,000 บาท

 

** ก็เป็นอันว่า มติของสภาผู้แทนราษฎร์ 270:197 ผ่านฉลุย พรก. กู้ 5 แสนล้าน หวังว่ารัฐบาลที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว. กลาโหม คงจะใช้งบก้อนโตมหึมาก้อนนี้อย่างมีเหตุมีผล ส่วนทางกลุ่มพิทักษ์ธรรม ก็จะทำการตรวจสอบการใช้งบประมาณของรัฐบาลจะมีการส่งผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกาะติดในการใช้งบประมาณ 5 แสนล้าน

 

** ที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งมีแรงงานต่างด้าวเถื่อนเป็นจำนวนมากก่อให้เกิดโรคโควิด-19 จนเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ เรื่องนี้คงต้องฝากให้ สาธารณสุขของจังหวัดชลบุรี และนายอำเภอ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ หากพบผู้ติดโรคโควิด-19 ต้องรีบนำไปกักตัวที่เตียงสนาม และไม่ให้เคลื่อนที่เป็นอันขาด ตอนนี้ชาวศรีราชา และนักธุรกิจต่างอยู่กันอย่างหวาดผวาจากแรงงานต่างด้าวพวกนี้

 

** ไม่ต้องสงสัย ? คอข่าว “คอลัมน์หมายเลข 7”. . ถามหาคุณสมโภชน์ โตรักษา หมู่นี้ไม่เห็นลงลุยพื้นที่ร่วมกับคุณพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการ สตง. ในคอลัมน์หมายเลข 7 ช่วงข่าวค่ำทุกคืนวันจันทร์ถึงวันศุกร์เหมือนก่อน จะเห็นหน้าค่าตาก็แต่ช่วงเช้าทุกวันจันทร์ในสนามข่าว 7 สี เชียร์เชิญชวนชม “คอลัมน์หมายเลข 7” ที่แท้คุณสมโภชน์ฯ ยังคงอยู่เบื้องหลังกำกับดูแลรับผิดชอบทีมในฐานะผู้จัดการฝ่ายข่าว และทีมงานคอลัมน์หมายเลข 7 ก็ยังเดินหน้าเชิงรุกป้องปรามต้านโกงอย่างไม่ลดละ ล่าสุดไปเกาะติดตามตรวจข้อข้องใจ “ชาวบึงบาปไม่ทนทุจริต” กับโครงการก่อสร้างทางหลวงท้องถิ่นคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดกว้าง 3 เมตร 50 เซนติเมตร ระยะทาง 2,565 เมตร หนา 15 เซนติเมตร หรือพื้นที่ไม่น้อยกว่า 8,977 ตารางเมตร ของ อบต.บึงบา อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี ใช้งบประมาณก่อสร้าง 4.46 ล้านบาท เริ่มสัญญา 21 มกราคม 2564 สิ้นสุดสัญญา 20 เมษายน 2564 สร้างเสร็จก่อนกำหนด แต่ยังไม่ทันรับมอบงาน กลับมีรอยแตกร้าวเสียหายหลายจุด ผู้รับเหมาซ่อมแซมด้วยการนำยางมะตอยมาหยอดตามรอยแตกร้าว โดยผู้อำนวยการกองช่าง อบต.บึงบา อ้างว่าซ่อมตามมาตรฐานของกรมทางหลวงชนบท อ้างได้ไงช่างไม่กระดากปาก กินเงินเดือนจากภาษีอาการ งบประมาณค่าก่อสร้างก็เงินจากภาษีของประชาชน จ้างผู้รับเหมามาสร้าง สร้างชุ่ยแตกร้าวเสียหายไม่มั่นคงแข็งแรงก็ต้องรื้อสร้างใหม่ตามเจตนาสัญญาว่าจ้างให้มาสร้าง ท่านลองคิดดูง่ายๆ ถ้าเป็นเงินส่วนตัวสร้างที่บ้านช่างก็ช่างชุ่ยก็ไม่ว่าได้ เรื่องนี้อดีตผู้ว่า สตง. แสดงความคิดเห็นว่า มาตรฐานงานสร้างกับงานซ่อมแตกต่างกัน จะเอามาตรฐานงานซ่อมมาใช้กับงานสร้างได้อย่างไร เพราะฉะน้ันผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ ทางแก้คืองานชิ้นไหนส่วนใดสร้างเสร็จชำรุด ก็ยังตรวจรับไม่ได้ ก็ต้องสร้างงานชิ้นนั้นส่วนนั้นให้ใหม่ ไม่ใช่ซ่อมเหมือนเก่าหยอดปะยาง หรือฉานปูไปตามรอยแตกร้าวเพียงผิวๆ จากความเห็นของอดีตผู้ว่าการ สตง. เรื่องนี้ หากมีการตรวจรับและมีการจ่ายเงินไปแล้ว จะถือว่าทุจริต นี่ยังไม่สายเกินแก้ให้ถูกต้อง อย่าแก้ตัวหรือแก้ต่างแทนผู้รับเหมา หลังจากนี้หากพ้นสถานการณ์โควิด-19 ไปแล้ว คอลัมน์หมายเลข 7 คงจะลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้ามานำเสนออีกครั้ง ช่วงนี้ต้องฝากท่านท้องถิ่นอำเภอหนองเสือ ท่านนายอำเภอหนอง และท่าน สตง. ปทุมธานี ช่วยระวังติดตามตรวจสอบด้วย ร่วมทั้งกรณีที่มีการปล่อยปะละเลยให้ผู้รับเหมาจัดหนักลำเรียงวัสดุผ่านจนถนนข้างเคียงพลอยชำรุดทรุดหนักไปด้วย แต่ไม่ได้ให้ผู้รับเหมารับผิดชอบ ได้ข่าวว่ากำลังฉวยโอกาสว่างเว้นนายก อบต. ดันเข้าสภา อบต. ของบมาซ่อมเอง อย่างนี้ทำได้หรือครับนายๆ ทั้งหลาย หรือ สตง. ว่าไงว่าอย่างไร !? สงสัย สงสัย (มั๊ย)

 

 

** เป็นที่รู้กันว่าคลัสเตอร์ใหญ่ที่ทำให้เกิดที่เป็นแหล่งแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ก็คือแคมป์คนงานซึ่งมีอยู่ทั่วกรุงเทพ อันที่จริงฝ่ายโยธาของแต่ละเขตควรจะมีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรให้ระงับการก่อสร้างเอาไว้ก่อน

 

**คงอีกไม่นานฝนฟ้าจะตกหนักตามฤดูกาล สำหรับความลำบากลำบนของคนกรุงว่าทุกครั้งที่ฝนตกมาแล้วน้ำจะท่วมถนนหนทางทำให้รถติดการจราจรเข้าขั้นวิกฤต ส่วนบ้านของผู้พักอาศัยน้ำก็จะท่วมเข้าบ้านทำให้ข้าวของที่มีค่าเกิดความเสียหายมากมาย เรื่องนี้ ถ้าหาก พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. จะสร้างผลงานฝากไว้ให้ชาวกรุงก็คงจะต้องมีคำสั่งไปยังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย และทุ่มงบประมาณในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมให้ได้เผื่องวดหน้า พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง จะลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานครอีกวาระหนึ่ง จะได้รับการเลือกตั้งจากผู้คนที่อาศัยในกรุงเทพ และปริมณฑล อย่างแน่นอน

 

** ต้องขอชมไปถึง พล.ต.ต. จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก.ที่ได้สั่งการให้ พล.ต.ต. สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก. ก.พร้อมทั้ง พ.ต.อ. พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก. ป.พ.ต.อ. พงษ์ปณต ชูแก้ว ผกก. 6 บก.ป.ที่นำกำลังเข้าจับกุมนายสิปวุฒิ พรมประสิทธิ์ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาข้อหามีไว้ และครอบครองอาวุธปืนเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาติ โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าร้านมานิต การช่าง ซึ่งประกอบกิจการรับซ่อมอาวุธปืน เลขที่ 09 ถนนลงท่า แขวงวัดราชบริพิตร เขตพระนคร จึงเข้าตรวจสอบภายในร้านพบอาวุธปืนจำนวนมากจึงไว้ทำการตรวจสอบถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงอีกชิ้นหนึ่ง ต้องยอมรับว่าปัจจุบันอาวุธปืนหาซื้อง่ายยิ่งกว่าขนม จะซื้อทางออนไลน์ก็ได้ซึ่งล้วนแล้วแต่อาวุธปืนเถื่อนทั้งนั้น มีการนำมาพกพาในรถยนต์พอมีปัญหากับใครก็จะนำอาวุธปืนเถื่อนมายิงสังหารคู่กรณีทันที ถือว่าเป็นภัยต่อสังคมอย่างยิ่ง ที่ทาง สตช. น่าจะมีคำสั่งไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อสืบและตรวจสอบแหล่งค้าขายอาวุธปืนเถื่อนเหล่านี้ ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศไทย

 

**  จากกรณีกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก “อุเทนถวาย” ได้จัดกิจกรรมรับน้องใหม่ และทำร้ายร่างกาย นายวีรพัฒน์ หรือปลื้ม ตามกลาง อายุ 22 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้วเสียชีวิตในที่สุด ล่าสุด พ.ต.อ. พรรษา อมราพิทักษ์ ผกก. สน. ปทุมวัน ได้ตั้ง 4 ข้อหาหนัก ทำร้ายร่างกายผู้อื่นถึงตาย, บุกรุงสถานที่ยามวิกาล, ฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และผิด พ.ร.บ. ควบคุมโรค ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุดกับรุ่นพี่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด สมควรเลิกประเพณีในการรับน้องใหม่ที่โหดเหี้ยมอย่างนี้ ถือว่าเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน

 

พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง เลขานุการประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นประธานพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมศพในพระอนุเคราะห์ พล.ต.ต.สุรชาติ มณีจักร ผบก.ภ.จว.นครปฐม ณ วัดไร่ขิงพระอารามหลวง ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จว.นครปฐม

 

** ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในย่านสถานีตำรวจภูธร ศรีมหาโพธิ ร้องเรียนมาเป็นประจำว่า นอกเหนือยาเสพติดจะระบาดอย่างหนักแล้วก็ยังมีบรรดาโจรผู้ร้ายที่คอยสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมาตลอด ส่วนผู้ที่ขับขี่ก็ร้องเรียนมาเป็นประจำว่า มีรถบรรทุกขนาดใหญ่ 18 ล้อ ขับรถด้วยความประมาท โดยไม่คำนึ่งถึงความปลอดภัยของผู้อื่น คงต้องฝากให้ พ.ต.อ. วิวัฒน์ พิสิษฐ์ศักดิ์ ผกกง. สภ. ศรีมหาโพธิ มีคำสั่งไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาให้ออกตรวจสอบ และจับกุมทั้งแก๊งค้ายาเสพติด และบรรดาโจรผู้ร้ายรวมถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่ 18 ล้อ แล้วให้จับกุมอย่างจริงจังด้วย

 

** ชาวบ้านย่าน สภ. บางพลี ร้องเรียนมาเป็นจำนวนมากว่า ยาเสพติดจะระบาดอย่างหนักจนทำให้พวกขี้ยากลายเป็นโจรผู้ร้ายที่คอยสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมาตลอด  คงจะต้องฝากให้ พ.ต.อ. วิโรจน์ ตัดโส ผกก. สภ. บางพลี จว. สมุทรปราการ ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อตรวจสอบ และจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดพร้อมด้วยบรรดาโจรผู้ร้ายอย่างจริงจังด้วย

 

** ผู้ใช้รถใช้ถนนร้องเรียนมาเป็นจำนวนมากว่า พื้นที่ของ สน. วัดพระยาไกร ตำรวจจราจรขยันจับกุมผู้ขับขี่เหลือเกิน ถ้าลองได้เรียกตรวจแล้ว อย่างน้อยต้องมี 1 ข้อหา ไม่เว้นแม้กระทั่งคนทำมาหาหากินด้วยความสุจริตธรรม หรือบุรุษไปรษณีย์ที่จะนำจดหมายและเอกสารไปส่งให้ที่ สน. วัดพระยาไกร คงต้องฝากให้  พ.ต.ท. กัลป์ วงศ์มณี รอง ผกก. จร. สน. วัดพระยาไกร สั่งไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาให้พิจารณาในการจับกุมผู้ขับขี่ ถ้าหากเป็นข้อหาที่ไม่หนักควรจะว่ากล่าวตักเตือนไปดีกว่า เพราะยุคนี้เป็นยุคที่เงินทองหายากมากๆใครๆ ก็รู้

 

** “ผู้นำชั้นดีต้องตั้งมั่นอยู่ในความสุจริตธรรม โดยไม่ฉ้อราษฎร์บังหลวง”

 

** บริจาคปัจจัยซื้อโลงศพให้กับผู้ไร้ญาติกับมูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง และมูลนิธิร่วมกตัญญูได้กุศลดี

 

ไมโครโฟน