** คอลัมน์ รอบบ้าน รอบเมือง โดย “ไมโครโฟน” และทีมงานผู้สื่อข่าว นำโดย ลิปออนนิวส์ ขอต้อนรับ ดร. กฎชนก สุขสถิตย์  นักวิชการอิสระ ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง ที่มาเป็นที่ปรึกษาของ คอลัมน์ “รอบบ้าน รอบเมือง” อีกท่านหนึ่ง

 

** มีคำถามจากคนในสังคมไทยว่า ทุกวันนี้เป็นยุคของกาลียุค หรือเปล่า ทำไมเกิดเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้อย่างกับ กรณีของ ลูกฆ่าพ่อแม่ ลูกติดยาบ้า จนเกิดอาการเพี้ยนสุดขีดถึงกับข่มขืนแม่ของตนเอง บางรายก็จะข่มขืนยายของตนเองด้วย ยังไม่เชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ในสังคมได้ กรณีพ่อแม่ฆ่าลูกของตนเอง บางรายไม่ได้ฆ่าแต่นำลูกของตนเองไปทิ้งตามสถานที่ต่างๆ จนมีข้อสงสัยว่า สัตว์มันยังรักลูกของมันนี่คนแท้ซึ่งเป็นสัตว์ประเสริฐทำไมถึงทำอย่างนี้ได้ แล้วยังมีเหตุการณ์ที่ครูผู้ชาย โดยเฉพาะครูพละ และที่ผ่านมามีถึงผู้อำนวยการของโรงเรียนที่มีเพศสัมพันธ์กันกับลูกศิษย์ของตนเองซึ่งอายุยังไม่ถึง 18 ปีก็มีมาแล้ว “ไมโครโฟน” คิดไปคิดมาว่าหน่วยงานที่จะรับผิดชอบในเรื่องนี้  ก็คือกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ ที่จะมาทำการแก้ไขกับเรื่องเลวร้ายในสังคมของคนไทยได้

 

 

 

** ยังมีคนไทยกลุ่มใหญ่ยกเว้นคนที่เสียสติคือพูดง่ายๆ ว่าเป็นบ้าไปแล้วเท่านั้นเองที่ไม่กลัวเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งถือว่าเป็นมหันตภัยที่ร้ายแรงที่สุดของโลก คนไทยส่วนใหญ่ยังมีความกลัวอย่างยิ่งกับไวรัสโควิด-19 และหาทางป้องกัน และยกการ์ดให้สูง ต้องท่องให้ขึ้นใจไว้ว่าทุกครั้งที่จะออกนอกบ้านต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐาน 2 ชั้น เวลาสัมผัสสิ่งของต้องใช้เจลล้างมือ ล้างถูให้สะอาดว่ามั่นใจว่าปลอดเชื้อไวรัสโควิด-19 และข้อสำคัญต้องเป็นคนยึดคดีประจำใจไว้ว่า ใครจะเฮฮาที่ไหนก็ปล่อยเขาไปตามยถากรรม ตัวเราจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวโดยเด็ดขาดเพราะบอกกันตรงๆ ว่า เป็นคนรักตัวกลัวตาย ยังอยากจะอยู่ในโลกมนุษย์อีกนานแสนนาน

 

** ในขณะที่รัฐบาลซึ่งมี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว. กลาโหม พร้อมด้วยทีมงานรัฐมนตรี ได้ทำการเปิดประเทศมาสักระยะหนึ่ง แต่กลุ่มคนที่รักสุขภาพ และกลัวตายไม่ได้ยินดียินร้ายกับการเปิดประเทศของรัฐบาลชุดนี้ ขอยืนยันว่า จะไม่ร่วมกิจกรรมใดๆ ในการเปิดประเทศเป็นอันขาด !!!

 

 

** นึกแล้วก็ให้ขำว่า ทำไมเมืองไทยต้องมาเจอกับข้าวของที่ราคาแพง แต่ข้าวเปลือกกลับมีราคาถูกแบบไม่น่าเชื่อ ที่ผ่านมาผักชีโลละ 400 บาท น้ำมันปาล์ม และเนื้อหมูพากันขึ้นราคาอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดยั้ง แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นเรื่องจำเป็นในการบริโภคของคนไทยคือข้าวสารจากน้ำมือการปลูกของชาวนาไทยซึ่งถือว่าเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ทำไมถึงราคาถูกแบบชนิดที่เรียกว่าน้ำตาของชาวนาไทยต้องพากันหลั่งไหลก็ไม่รู้ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. กระทรวงพาณิชย์ จะทำการแก้ไขกับสินค้าที่แพงมหาโหด และสินค้าที่ถูกอย่างข้าวสารได้หรือไม่ คนไทยไม่ค่อยมั่นใจว่าสามารถแก้ไขปัญหาได้

 

**  ระยะก่อนมีบรรดาผู้ประกอบการขนส่งได้นำรถบรรทุกจำนวนหลายคัน พร้อมทั้งข้อความเรียกร้องให้รัฐบาลตรึงราคาน้ำมันดีเซลลิตรละ 25 บาท ในวันนั้นก็ยังมีผู้นำของบรรดารถขนส่งทั้งหลายเปิดไฮปาร์คพูดได้อย่างดุเด็ดเผ็ดมันว่า จะให้เวลารัฐบาลถึง 1 ธันวาคม ถ้าหากว่ารัฐบาลไม่สามารถทำได้ก็ต้องจำเป็นขึ้นค่าราคาขนส่งอีก 10 เปอร์เซ็นต์ ลองคิดดูว่าถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งหลายก็คงพากันขึ้นราคาอีกมโหฬาร ภาระก็ตกอยู่ที่คนไทยตาดำๆ แน่นอน

 

 

พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง เลขานุการประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน พร้อมด้วยคณะขออนุโมทนาบุญแด่พี่  เพื่อน น้องและผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านที่ร่วมทำบุญทอดกฐิน ๙ วัด  ประจำปี ๒๕๖๔  ณ วัดบ้านดง ต.สาริกา อ.เมืองนครนายก  ( วัดที่ ๘)  มียอดเงินทำบุญ ๓๓,๙๙๙ บาท และมียอดทำบุญรวมทั้งสิ้น จำนวน ๕๗๓,๙๙๙.-บาท จึงขออนุโมทนาบุญในครั้งนี้โดยทั่วกัน

 

** ผู้คนที่ได้ยินนายกรัฐมนตรีพูดว่า บรรดารถขนส่งทั้งหลายอย่ามากดดันถ้าหากยังดื้อกดดันอยู่ ก็จะนำรถขนส่งของทหารมารับจ้างขนส่งแทนพอคนได้ยินการพูดลักษณะเช่นนี้ของนายกรัฐมนตรีถึงกับงง และตกตะลึงว่า จะนำรถของทางราชการมารับจ้างได้อย่างไร จะมีความชำนาญในการขนส่ง และเช่นทางเหมือนกับรถบรรทุกที่รับจ้างขนส่งอยู่ทุกวันนี้ได้หรือเปล่า!!!

 

** ทั่วโลกกำลังตื่นตัวกับภาวะของโลกร้อนมีการประชุมนานาชาติถึงการแก้ไขปัญหาภาวะร้อนว่าจะแก้ไขอย่างไร แต่สำหรับเมืองไทยแล้ว “ไมโครโฟน” ก็ขอแนะนำว่า ต้องมีบทลงโทษให้รุนแรงถึงขั้นจำคุกอย่างน้อย 10 ปี และปรับไปถึง 3 แสนบาท กับผู้คนที่ตัดไม้ทำลายป่า หรือพวกเผาป่าเพื่อหาอาหารป่ามากิน คิดได้อย่างไรกับการสูญเสียของระบบนิเวศวิทยาที่จะก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนขึ้นทุกปี จนเกิดภาวะน้ำท่วมสร้างความเสียหายให้กับผู้คนอย่างมโหฬาร

 

 

** ช่วงนี้เป็นช่วงของฤดูหนาว ก็อยากจะเตือนสติให้ทุกคนระมัดระวังเรื่องของฟืนๆไฟๆ อย่าได้กระทำด้วยความประมาท เช่น จุดธูป จุเทียน บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วลืมทิ้งเอาไว้จนทำให้เกิดเพลิงไหม้ อีกพวกหนึ่งน่าจะมีบทลงโทษให้ถึงกับประหารชีวิตคือพวกที่รอบวางเพลิงเพื่อเผาบ้านเรือน และทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหายอย่างแสนสาหัส.....ให้นึกถึงอดีตนายกรัฐมนตรีที่มียศถึงจอมพล ถ้าหากมีการวางเพลิงเกิดขึ้นที่ไหนท่านจอมพลผู้นี้จะไปยิงทิ้งด้วยตนเอง ทำให้บ้านเมืองในยุคนั้นเกิดความสงบสุขจนประทับใจคนไทยทั้งประเทศ

 

** นับเป็นข่าวดีอย่างมหาศาลที่ประเทศจีนได้ค้นพบวัคซีนในการแก้ปัญหาไวรัสโควิด-19 โดยวิธีให้สูดดมเข้าทางจมูกซึ่งทางประเทศจีนได้บอกมาว่า ได้ผลเกินคาดอย่างแน่นอน ส่วนทางประเทศอังกฤษทีมแพทย์ และนักวิทยาศาสตร์ก็ได้ค้นพบวัคซีนตัวใหม่ โดยใช้แผ่นที่แปะตามร่างกายแล้วให้ดูดซึมจากใต้ผิวหนังซึ่งประเทศอังกฤษก็ได้รับรองว่า ได้ผลอย่างแน่นอน ส่วนประเทศไทยเวลานี้วัคซีนของจุฬาคอฟจากทีมแพทย์ และนักวิทยาศาสตร์ของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ได้ผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ทั้งสิ้น และมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ข้ามสายพันธุ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งในตอนนี้ได้ขออนุญาต อย. ให้เร่งออกใบอนุญาติออกมาคาดว่าจะใช้ได้ต้นปีหน้า

 

** นี่ก็ใกล้วันเลือกตั้งนายก อบต. และสมาชิกสภา อบต. คงไม่ต้องบอกว่า อบต. ย่อมาจากอะไร คิดบวกไว้ ช่วยกันไปเลือกคนดี มีความรู้ สู้งานท้องถิ่น ไม่โกงกิน ตำบลจะได้เจริญก้าวหน้า ชาวบ้านจะได้อยู่เย็นเป็นสุข วันนี้จึงมาชวนคอข่าว ”คอลัมน์หมายเลข 7” ตามทีมงานคุณสมโภชน์ โตรักษา ไปตรวจสอบการกำหนดคุณสมบัติผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ว่ามีช่องว่าง ช่องโหว่อะไร เหตุใดคนหนีคดีทุจริต จึงมีสิทธิลงสมัคร ใครจะเชื่อว่าบุคคลที่หนีหมายจับคดีทุจริตที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดทั้งอาญา และวินัย หนีจนหมดอายุความ ยังมีย้อนกลับมาลงรับสมัครเลือกตั้งชิงเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไทยสามัคคี อำเภอหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ และลงสมัครได้ด้วย ! จนมีผู้ไปร้องเรียนเพื่อให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมกระทำผิดของบุคคลดังกล่าว เป็นการเบิกจ่ายเงินงบประมาณตามข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2547 ขององค์การบริหารส่วนตำบลไทยสามัคคี ให้แก่ผู้รับจ้างในโครงการก่อสร้างถนนดินภายในหมู่บ้านของตำบลไทยสามัคคี จำนวน 4 โครงการโดยมิชอบ มีการเบิกจ่ายเงินให้แก่ผู้รับจ้าง โดยยังไม่ทำเอกสาร ซึ่ง ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดทั้งวินัยและอาญา และส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดฟ้องคดีอาญา ตั้งแต่ 14 พฤศจิกายน 2562 แต่มีการหลบหนี จนกระทั่งคดีหมดอายุความ นี่เป็นอีกหนึ่งช่องโหว่ของกฎหมาย เมื่อคดีขาดอายุความก่อนถึงมือศาล คนมีมลทินที่ยังไม่ผ่านการพิสูจน์ว่าบริสุทธิ์จากคำตัดสินของศาล กลับมีโอกาสลงรับสมัครเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่ากรณีลักษณะเดียวกันอาจเกิดกับการเมืองระดับชาติได้ด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องที่ต้องหันมาดูข้อกฎหมายเพื่ออุดรูรั่วเท่านั้น แต่ในส่วนของประชาชนเองก็ต้องเก็บข้อมูลและไตร่ตรองให้ดี ก่อนหย่อนบัตรลงคะแนน ในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ ยังมีอีกเรื่องเกี่ยวกับ อบต. ที่ “คอลัมน์หมายเลข 7” ชี้ให้ดูกฎเหล็ก ห้ามข้าราชการการเมือง ช่วยผู้สมัคร อบต. หาเสียง ! กำหนดในพระราชบัญญัติสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 ที่ห้ามไม่ให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไปช่วยหาเสียง แต่ก็ยังมีคนแหกกฎ เป็นใครหรือ จากคลิปเหตุการณ์เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่เริ่มมีการเผยแพร่ผ่านโลกโซเชียล ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ กลายเป็นปมร้อน ที่นายวีระกร คำประกอบ สส. นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ไม่เพียงต้องออกมาชี้แจงเท่านั้น แต่ยังถูกนายศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นเรื่องร้องเรียน ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ตรวจสอบ เนื่องจากอาจเข้าข่ายความผิด ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 มาตรา 34 ที่กำหนดห้ามข้าราชการการเมือง สส./ สว./ ผู้บริหารท้องถิ่น/ สมาชิกสภาท้องถิ่น ดำเนินการใด ๆ ในทางที่เป็นคุณแก่ผู้สมัครใด ซึ่งเจ้าตัวยืนยัน ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย “ไม่ได้ช่วยหาเสียง เพียงแค่ทดสอบไมค์เท่านั้น” หากผิดจริงบทลงโทษของการฝ่าฝืนมาตรานี้ มีทั้งโทษของบุคคลที่ฝ่าฝืน จำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 บาท - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งของผู้นั้น มีกำหนด 20 ปี ส่วนบทลงโทษของพรรคการเมือง หากเข้าไปเกี่ยวข้อง มีโทษสูงสุดถึงยุบพรรค กฎเหล็กดังกล่าวถูกวิจารณ์จากฝ่ายการเมืองมาโดยตลอดว่า ไม่สอดรับกับสภาพความเป็นจริง และย้อนแย้งกับระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียง และลักษณะต้องห้ามในการหาเสียง พ.ศ.2563 ข้อ 7, ข้อ 9 และ ข้อ 10 ที่กำหนดให้พรรคการเมืองสามารถช่วยผู้สมัครรับเลือกตั้งหาเสียงได้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นตัวแทนพรรค ยื่นเรื่องแก้ไขกฎหมายมาตรานี้ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร อ้างเหตุผลว่า เป็นการขัดขวางความเข้มแข็งของพรรคการเมือง ขณะที่มุมมองของนักวิชาการด้านกฎหมาย เห็นว่าจากสภาพการเมืองปัจจุบัน ไม่ควรแก้กฎหมายมาตรานี้ “คอลัมน์หมายเลข 7” ให้ข้อขคิดว่า หากการแก้ไขกฎหมายมาตรานี้ ให้ สส. และ สว. ช่วยหาเสียงได้แล้วเสร็จก่อนที่ กกต. จะมีมติอย่างใดอย่างหนึ่ง ย่อมมีผลต่อคดีของ นายวีระกร ด้วย จึงมีข้อเสนอให้ กกต.เร่งรัดชี้มูลเรื่องนี้ การแก้ไขพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562  มาตรา 34 จะสำเร็จหรือไม่ ยังไม่มีใครรู้ แต่ในขณะที่กฎหมายยังมีผลบังคับใช้ ต้องดำเนินการภายใต้กฎหมายนี้ ขณะที่ประชาชนควรติดตามข่าวสาร หากพบผู้สมัครหรือผู้สนับสนุนผู้สมัครนายก อบต. หรือผู้สมัครสมาชิกสภา อบต. รายใด มีพฤติกรรมละเมิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นฉบับใดก็ตาม ควรไตร่ตรองให้ดีก่อนหย่อนบัตรลงคะแนน ในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ด้วย จะอย่างไรก็ตามต้องร่วมด้วยช่วยกัน “หยุดขายเสียง จุดเปลี่ยนประเทศ” ส่วนตัวคุณพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ให้สำนึกถึงพระบรมราโชวาทที่ว่า “...ทำอย่างไรไม่ให้คนไม่ดีมีอำนาจ...” คำตอบอยู่ที่ประชาชน

 

** ต่อประเด็น”เห็นด้วย”หรือ”ไม่เห็นด้วย” กับการจะยกเลิก ม.112 หรือไม่ เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องพิจารณาด้วยความละเอียดรอบคอบ คำตอบสั้นๆ ส่วนใหญ่ว่า”ไม่ยกเลิก” “ไม่แก้” “ไม่แตะ” แต่สำหรับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย มีคำตอบชัดเจนด้วยจุดยืนและประสบการณ์ที่จริงแท้และจริงใจว่า ท่านได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี ได้ดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยา ถวายสัตย์ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระบรมราชินีนาถ และพระราชวงศ์ทุกพระองค์ รวมถึงในหลวงรัชกาลที่ 10 ซึ่งสมัยนั้นเป็นพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ต้องซื่อสัตย์สุจริตและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยชีวิต ฉะนั้น การแสดงความคิดเห็นจึงออกมาในรูปแบบของการปกป้องสถาบันฯ หากย้อนไปในประวัติศาสตร์ ทำคุณงามความดีให้กับประเทศชาติมากมาย ปกป้องแผ่นดินประเทศไทย รวมทั้งนำทรัพย์สินส่วนพระองค์มาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ฉะนั้น สถาบันพระมหากษัตริย์จะต้องคงอยู่ เพื่อเป็นที่เคารพสักการะและยึดเหนี่ยวของพี่น้องประชาชน ความคิดเห็นคือ “...ย้ำเป็นกลางๆ โดยจะมีการแก้มาตรา 112 แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ แยกดูหมิ่น หมิ่นประมาท ออกมาจากการอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ มาเป็นมาตรา 112/1 คือ ผู้ใดดูหมิ่น หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ต้องระวางโทษจำคุก แต่ต้องลดโทษจำคุกจากคดีอาฆาตมาดร้าย 3-15 ปี ลงมา เช่น 2-5 ปี ทั้งนี้ มาตรา 112 ไม่ใช่ความผิดของตัวบทกฎหมาย แต่ผิดที่คนนำไปใช้ อ้างว่าจงรักภักดี แต่ความจริงต้องการก้าวหน้าในอาชีพข้าราชการ" นี่คือคำพูดที่กล้าหาญชัดเจนของวีรบุรุษนาแก

 

** ขอให้ผู้ที่กำลังจะซื้อรถยนต์ใหม่ได้ชั่งใจไว้ก่อนเพราะโลกแห่งรถยนต์ในตอนนี้จะเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าไปแล้ว หลายๆ ประเทศกำลังแข่งขันออกมา แต่ว่าราคาในตอนนี้จะแพงไปขอให้รัฐบาลลดภาษีในการนำเข้าเพื่อเป็นการสนับสนุนรถไฟฟ้าที่จะลดมลภาวะทางอากาศได้ดีเยี่ยม

 

 

​ ** ลอยกระทงปีนี้ที่ผ่านมา ทาง พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่า ฯ กทม. และทีมงาน ให้เปิดสวนสาธารณะในกรุงเทพหลายแห่งเพื่อให้ทำการลอยกระทง หวังใจอย่างยิ่งว่าผู้ที่ไปลอยกระทงต้องทำตามระเบียบที่ทาง กทม. วางไว้

 

** ชาวบ้าน และบรรดาผู้ค้าขายในจังหวัดระยอง ร้องเรียนกันมาเป็นจำนวนมากว่านอกเหนือจากยาเสพติดจะระบาดอย่างหนักแล้วยังมีวัยรุ่นที่ทำตัวเป็นอันธพาลเที่ยวข่มขู่ผู้ค้าขายในห้างของระยองแต่ละแห่ง สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านและผู้ค้าขายทั้งหลายคงจะต้องฝากให้ พล.ต.ต. วรา เวชชาภินันท์ ผบก. ภ. จังหวัดระยอง มีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทุก สภ. ให้ขยันเข้มงวดในการตรวจสอบและจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดพร้อมด้วยวัยรุ่นที่ทำตัวเป็นอันธพาล และมาเฟียให้เด็ดขาดไปเลย

 

** เตือนไปยังบรรดานักศึกษาที่เป็นวัยรุ่นทั้งชาย และหญิงเวลาจะเดินเหินไปไหนให้หลีกเลี่ยงพวกวัยรุ่นที่ทำตัวเป็นอันธพาลฆ่าคนเป็นว่าเล่น อย่างกับเมื่อไม่นานนี้มีวัยรุ่นที่เป็นนักศึกษาปี 1 คณะวิศวะของสถาบันมีชื่อแห่งหนึ่งเดินมาเฉยๆ โดยไม่สนใจใครกับโดนพวกวัยรุ่นที่ทำตัวเป็นอันธพาลชาติชั่วหาเรื่องว่ามองหน้าทำไมทั้งๆ นักศึกษปี 1 คนนี้เดินหนีก็เดินตามมาแทงจนเสียชีวิต ทำให้ผู้ปกครองทั้งพ่อและแม่ของผู้เสียชีวิตตั้งคำถามว่า ทำไมต้องฆ่าลูกชายเขา ทั้งๆ ที่ลูกชายเขาเป็นเด็กเรียนดี และมีความประพฤติเรียบร้อย ขอถามตรงๆ ว่า ครอบครัวของผู้ที่เป็นฆาตกรจะชดใช้ค่าเสียหายเท่าไหร่ถึงกับจะสมกับที่เขาเสียลูกชายสุดที่รักของเขาไป เรื่องนี้คงต้องฝากให้ พ.ต.อ. พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก. สภ. ปากเกร็ด ช่วยดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

 

** พื้นที่ของ สน. ธรรมศาลา ร้องเรียนมาเป็นจำนวนมากว่า นอกเหนือจากยาเสพติดจะระบาดอย่างหนักแล้วก็ยังมีโจรผู้ร้ายที่คอยสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมาตลอด แถมซ้ำพื้นที่นี้ก็มีพวกที่ทำตัวเป็นอันธพาลคอยรังแกชาวบ้านมาตลอด ฝาก พ.ต.อ. ชาญฤทธิ์ ทรัพย์สมบัติ ผกก. สน. ธรรมศาลา ลงพื้นที่พร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาไปตรวจสอบ และจับกุมแก๊งค้ายาเสพติด พร้อมด้วยโจรผู้ค้ร้าย และพวกที่ทำตัวเป็นอันธพาลให้จริงจังด้วย

 

** “ขอให้คนดีเจอกับคนดี และคนชั่วเจอกับคนชั่ว”

 

**บริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้กับสภากาชาดไทย ได้กุศลแรง