วันเสาร์ ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 11:19 น.

อาชญากรรม » คอลัมน์

รอบบ้านรอบเมือง

ไมโครโฟน : วันเสาร์ ที่ 01 ตุลาคม พ.ศ. 2565, 00.47 น.

คอลัมน์ รอบบ้าน รอบเมือง ประจำวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2565

 

วันที่.๒๗.-๒๘.ก.ย.๒๕๖๕.ปิดที่พระอุโบสถ.วัดสักใหญ่.ต.วัดชลอ.อ.บางกรวย.จ.นนทบุรี.เสร็จเรียบร้อย.โมทนาบุญกับทุกท่านด้วย.แบ่งบุญกุศลให้ทุกท่านด้วย.ทุกรูป.ทุกนาม.ตลอดทั้งสามภพ.และผู้มีพระคุณทุกท่านด้วย.มรรค๔.ผล๔.นิพพาน๑.ด้วยกันทุกท่านเทอญ.

 

 

 

...โอ้โนรู ถึงจะรู้ ก็ไม่ทัน

มันขยัน ขย่มซ้ำ ย้ำโลกร้อน

อีกกี่ลูก เดาไม่ถูก แค่ถากจร

มันสะท้อน โลกเริ่มคลอน ย้อนคนทำ

...โลกตระหนก ฝนนรก ห่ากระหาย

คนล้มตาย สุดอยากไร้ ไกลที่อยู่

จิตสำนึก ต้องใส่ใจ ไว้เป็นครู

อย่าแค่อยู่ ต้องพลิกสู้ จะพ้นภัย

 

....................เบญจรงค์..................

 

 

** การที่รัฐบาลประกาศให้ยุบ ศบค. ยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ควบคุม โควิด-19  ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป  และให้ประชาชนเปิดหน้ากากได้ และให้ปรับโควิดเป็นโรคเฝ้าระวังที่ไม่อันตราย แต่ยังไม่ได้เป็นโรคประจำท้องถิ่น ข่าวนี้พอออกมาแล้วได้รับการต่อต้านจากนายแพทย์ที่มีชื่อเสียงและมีความชำนาญเกี่ยวกับระบบหายใจ หรือแม้กระทั่ง ดร. ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าผู้ว่า กทม. ก็ออกมาไม่เห็นด้วย ส่วน “ไมโครโฟน ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ใครที่ไม่ใส่หน้ากากอนามัยแล้วออกมาเดินเพ่นพ่านจะได้รับการต่อต้านทันที ยังไม่ทันไรจะให้เปิดหน้ากากเสียแล้ว อีกหน่อยก็เต็มบ้านเต็มเมือง งานนี้ ไมโครโฟน ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลที่ยกเลิก ศบค. แล้วให้เปิดหน้ากากเป็นอย่างยิ่ง

 

 

 

** ระยะนี้ไม่ว่าต่างจังหวัดหรือในกรุงเทพก็ตามถนนมักจะลื่นรถหลายคันต้องลงคูน้ำไปก็หลายคัน และได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก ฉะนั้นแล้ว ไมโครโฟน ก็อยากจะเตือนว่าขับรถให้ช้าลง และควรจะเปลี่ยนยางที่ดอกหมดสภาพแล้ว พร้อมทั้งที่ปัดน้ำฝน แล้วเช็คสภาพรถให้ดีกว่านี้ ว่าพร้อมที่จะใช้งานได้ดีไหม เพราะจะได้เป็นการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ถ้าสภาพรถไม่พร้อมที่จะใช้งาน

 

**  เป็นที่ตื่นตระหนกกันอย่างมากกับพายุโนรู ที่พัดผ่านประเทศเวียดนามทำเอาบ้านเรือนราบเป็นหน้ากอง ส่วนประเทศไทยนั้นมีผลกระทบทางภาคอีสานค่อนข้างหนัก รวมถึงจังหวัดต่างๆ ด้วย ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑลนั้นไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม “ไมโครโฟน ขอเอาใจช่วยให้มันผ่านพ้นไปด้วยดี.......เพี้ยง

 

 

 

 

** ทั่วโลกก็โดนน้ำท่วมเกือบทุกประเทศ เมืองไทยปีนี้ ถึงแม้จะไม่หนักเท่าปี 2554 แต่ก็โดนน้ำป่าไหลหลากท่วมเกิดความเสียหายอย่างหนักเช่นกัน บางบ้านที่ไม่แข็งแรงพายุเข้าก็ทำเอาหลังคาถึงกับเปิดก็มี ส่วนทางรัฐบาลก็ได้ส่งทหารช่างไปช่วยเหลือ พร้อมทั้งเยียวยาช่วยเหลือเป็นตัวเงินให้ด้วย สำหรับชาวบ้านก็ควรที่จะช่วยเหลือตนเองไปก่อนเวลามีน้ำท่วมก็ให้ขนของมีค่า เช่นเครื่องไฟฟ้าต่างๆ ของมีค่า ขึ้นที่สูงเพื่อความปลอดภัยเวลามีน้ำหลากไหลเข้ามา.......ดีกว่าที่จะหมดเนื้อหมดตัว

 

 

** นี่ก็เป็นการสะท้อนโครงการกัญชงกัญชาเสรีของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. กระทรวงสาธารณสุข เดี่ยวนี้เด็กนักเรียนตัวเล็กๆ ทั้งผู้หญิงและผู้ชายพากันพี้กัญชาแล้ว และยังมีนักท่องเที่ยวพวกขี้ยาก็เข้ามาพี้กัญชาเป็นว่าเล่น ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเสียหายหมด เป็นประเทศที่ยาเสพติดเสรี อย่างเช่น กัญชา และทั่วโลกไม่มีใครเข้ายอมรับกัน อย่าให้เสียชื่อเสียงมากไปกว่านี้เลย!!!

 

 

 

คนผิดคนชั่วต้องถูกลงโทษ

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 สั่งพ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพง์ รองผู้การจังหวัดนนทบุรี และ ตำรวจ สภ.บางบัวทอง เร่งขยายผล  นายโอม นายศุภชัย ยิ่งนิยมผู้ต้องหา นายท่าปล่อยรถประจำทาง ถูกจับฐานความผิด กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่ถึง 15 ปี  เหตุเกิด  ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 21 ก.ย.2565 เวลาประมาณ 19.45 น.

ผู้เสียหาย เป็นเด็กหญิงสัญชาติ เมียนมาร์ อายุ 13 ปี เพราะเชื่อว่าพฤติกรรมเป็นภัยสังคมและน่าจะก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง นายโอม สวมบทเป็นพ่อพระ หลอกเหยื่อ เด็ก เยาวชน ต่างด้าว ลงข้อความรับสมัครแม่บ้านต่างด้าว ผ่านเฟซบุ๊ก มารดาของผู้เสียหายหลงเชื่อพาลูกสาวไปพบนายโอม จิ้งจอกสังคม ที่ห้างแมคโคร สาขาบางบัวทอง ถ.บางกรวยไทรน้อย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ก่อนออกอุบาย ขับรถไปส่งแม่เหยื่อ บริเวณสะพานลอย สามแยกบัวทองเคหะ ถ.บางกรวย-ไทรน้อย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี แล้วขับรถพาผู้เสียหายเข้าโรงแรม ออกอุบาย ให้ผู้เสียหายนวดตัวและกระทำอนาจารจนสำเร็จความใคร่ จากนั้นพาผู้เสียหายมาส่ง ริมถนนกาญจนาภิเษกหน้าห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ต้องขอชมเชย พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 และ พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพง์ รองผู้การจังหวัดนนทบุรี
เป็นน้ำดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เวลามีคดีไม่นิ่งนอนใจ เร่งปฏิบัติจับกุมผู้ร้ายอย่างรวดเร็ว ถือเป็นตำรวจฝีมือแท้…ลิป ออนนิวส์

 

 

** ผมเคยเขียนเรื่องมิจฉาชีพในต่างประเทศที่ใช้ AI ปลอมตัวเป็นคนคุ้นเคยมาหลอกโอนเงินแล้วหลายครั้ง ในที่สุดมันก็เกิดขึ้นในประเทศไทย และเป็นประสบการณ์ที่เกิดกับผมโดยตรง!!! . เมื่อวันเสาร์ที่ 24 กันยายน 2565 มีโทรศัพท์เบอร์ที่ไม่คุ้นเคยโทรเข้ามาหา แต่พอรับสายแล้วจำได้แม่นว่าเป็นเสียงของเพื่อนที่รู้จักกันมานานกว่าสามสิบปีชื่อ “ตุ๋ย” . “ตุ๋ย” บอกว่าเปลี่ยนเบอร์มือถือแล้ว ให้เมมเบอร์ใหม่ไว้ แล้วลบเบอร์เก่าออกด้วย . ผมลบเบอร์เก่าของ “ตุ๋ย” ที่บันทึกไว้ และบันทึกเบอร์โทรใหม่ของ “ตุ๋ย” ทันที . วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 10.53 น. “ตุ๋ย” ได้โทรมาหาอีกครั้ง เบอร์ใหม่ของ “ตุ๋ย” ที่โทรเข้ามาบอกว่า ออกมาซื้อของ แต่เงินสดไม่พอ ขอยืมเงิน 15,000 บาท เดี๋ยวเย็นๆจะโอนใช้คืนให้ ผมมั่นใจว่าเป็นเสียงของ “ตุ๋ย” แน่ๆ และตอบรับว่า จะโอนเงินที่ต้องการไปให้ ขอให้แจ้งเบอร์บัญชีมาด้วย . ข้อความตามรูปในโพสต์ คัดลอกมาจาก SMS ที่ได้รับทางมือถือ . “ตุ๋ย” บอกว่าหาไลน์ไม่เจอเลยส่งมาทางนี้ ให้เบอร์บัญชีมาชัดเจน แล้วกำชับให้โทรมาบอกเมื่อโอนแล้ว . ตอนได้ยินเสียงขอยืมเงินจาก “ตุ๋ย” ผมเชื่ออย่างสนิทใจว่าเป็น “ตุ๋ย” ที่ผมรู้จักดีแน่ๆ แต่เมื่อเห็นข้อความนี้เลยเริ่มสงสัย!?! . ทำไมไม่ส่งเลขบัญชีมาทางไลน์? แล้วชื่อบัญชีที่ให้โอนเป็นชื่อใครก็ไม่รู้จัก ไม่ใช่ชื่อจริงของ “ตุ๋ย” . ผมไม่มีเบอร์โทรเก่าของ “ตุ๋ย” เพราะลบออกไปแล้ว . ผมโทรกลับไปหา “ตุ๋ย” ทางไลน์ เพื่อยืนยันว่า ใช่ “ตุ๋ย” จริงหรือไม่? . “ตุ๋ย” ยืนยันว่า ไม่ได้โทรมาขอยืมเงิน!!! และไม่ได้เปลี่ยนเบอร์มือถือ!!! . “ตุ๋ย” ที่โทรมาหาผม คือ Deepfake AI ที่สร้างเสียงสังเคราะห์เหมือนเสียง “ตุ๋ย” ตัวจริง!!! . ผมส่งข้อมูลทั้งหมดให้ “ตุ๋ย” ตัวจริง มีข้อมูลเบอร์โทรและเลขที่บัญชีครบถ้วน เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดไปแจ้งความ ตำรวจจะได้ไปสืบหาตัวคนร้าย และให้ธนาคารอายัดบัญชีดังกล่าว . ตำรวจที่รับแจ้งความบอกว่า ช่วงนี้มีเหตุการณ์ทำนองนี้หลายครั้ง มีเหยื่อในประเทศไทยโดนหลอกโอนเงินไปแล้วหลายราย!!! . ที่เอาเรื่องนี้มาเล่า เพราะอยากให้ทุกคนได้ระวังตัวกันไว้ด้วย . เสียงเหมือนคนคุ้นเคยที่รู้จัก อาจไม่ใช่คนที่คุณรู้จักจริงๆ แต่คุณอาจเป็นเหยื่อของเทคโนโลยี Deepfake AI!!!

 

 

** ต้องบอกว่า น่าภาคภูมิใจ และยินดีกับ 'นพ.ชูชัย ศุภวงศ์' ประธานกรรมการมูลนิธิแพทย์ชนบท คนไทยคนแรก คว้ารางวัล ‘ผู้นำด้านสาธารณสุข’ (Leadership Award in Public Health Practice) จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา (Harvard T.H. Chan School of Public Health ) เป็น รางวัลผู้นำด้านสาธารณสุขอุบัติใหม่ Public Health Innovation Award ซึ่งเป็นรางวัลนวัตกรรมของนักวิชาชีพสาธารณสุข สร้างชื่อวงการแพทย์ไทย ไกลระดับโลก จากผลงานโดดเด่นในการเป็นผู้นำการควบคุมการสูบบุหรี่ ด้านสิทธิมนุษยชน คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิ ระบบสุขภาพชุมชน นับเป็นคนไทยคนแรก และคนเอเชียคนที่ 3 ที่ได้รับรางวัลนี้ ตลอดสี่ทศวรรษที่ผ่านมา นายแพทย์ชูชัย ศุภวงศ์ ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิแพทย์ชนบท คนปัจจุบัน ได้ทำงานเพื่อส่งเสริมสุขภาพ คุณภาพชีวิตที่ดี และการพัฒนาที่ยั่งยืน ในฐานะแพทย์ผู้ดูแลรักษาสุขภาพคนในชนบท ในฐานะผู้สนับสนุนขับเคลื่อน(Advocate) นโยบายสาธารณะที่ดี (Healthy Public Policy) และในฐานะผู้นำด้านสาธารณสุขของไทย ด้วยเหตุนี้เขาจึงเป็นที่รู้จักมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในฐานะเป็นหนึ่งในผู้นำด้านสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพและทรงอิทธิพลที่สุดของประเทศ จึงต้องบอกว่า น่าภาคภูมิใจ และยินดีเป็นอย่างยิ่ง เป็นผู้นำต้องอย่างนี้ เสียสละให้สังคมน่ายกย่อง ไม่ใช่ให้สังคมเสียสละเพื่อตนเอง

 

 

** 8 ปีแล้ว ! พอกันที ไปได้แล้ว ทำไมยังดื้ออยู่ต่อ หรือจะต้องให้ขับไล่กัน อ้าว…ไปเถอะไป ไปติดคืบหน้าในการรื้อถอนรีสอร์ตชื่อดังในอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ที่บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนกว่า 500 ไร่ ถึงวันนี้ผ่านมา 8 ปี ก็ยังไม่มีการดำเนินการ แม้จะปักป้ายครบ 30 วัน เจ้าของอาคาร 29 หลัง ก็ไม่ปรากฏตัวร้องคัดค้าน แต่เหตุใดยังรื้อถอนไม่ได้ คอข่าวติดตามกับคอลัมน์หมายเลข 7 หลังจากผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 (สระบุรี) ดำเนินการปักป้ายให้รีสอร์ตมวกเหล็ก ฮิลไซด์ ที่ก่อสร้างรุกที่ป่าสงวนตั้งแต่ปี 2557 กินพื้นที่กว่า 500 ไร่ รื้อถอนเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตอนนี้ผ่านมากว่า 1 เดือน การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนอกจากป้ายที่ปักไว้ แทบไม่มีการดำเนินการทุบทำลายตามคำสั่ง ทั้งยังไม่มีใครออกมาแสดงตนคัดค้าน ทั้งที่เรื่องนี้ผ่านมาร่วม 8 ปี ความล่าช้าที่เกิดขึ้นทำให้ ปปท. ถูกทวงถามถึงแนวทางการบังคับใช้กฎหมายว่ามีประสิทธิภาพจริงหรือไม่ เพราะคดีนี้อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องตั้งแต่ปี 2561 เนื่องจากนายทุน และผู้ซื้อที่ดิน ขาดเจตนา แต่นี่ไม่ใช่เงื่อนไข ที่จะอ้างไม่รื้อถอน เพราะก่อนหน้านี้ กรมป่าไม้ มีคำสั่งยึดอายัดแล้ว เนื่องจากบุกรุกผืนป่า ผอ.ปปท. บอกว่านอกจากรีสอร์ตจะไม่มีการรื้อถอนตามคำสั่ง ยังมีความพยายามในการจัดสรรที่ดินออกมาขายเพิ่มเติมให้กับกลุ่มคนดังและไฮโซนามสกุลดังเกือบ 60 แปลง ซึ่งที่ผ่านมามีการติดตามทวงถามเรื่องนี้มาตลอดจนเปลี่ยนผู้อำนวยการสำนักงานป่าไม้ที่ 5 มาแล้วหลายคน ทั้งระบุว่าหากหลังจากนี้ยังไม่เห็นผล เห็นทีจะต้องร้องไปที่ ป.ป.ช. ว่าเจ้าหน้าที่รัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เพราะตามขั้นตอน ตอนนี้ป่าไม้ควรดำเนินการจับกุมผู้บุกรุก ตามมาตรา 33 ทวิ ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของกรมป่าไม้แล้ว แต่จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่มีการดำเนินการเช่นกัน คอลัมน์หมายเลข 7 สอบถามไปยังผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 (สระบุรี) ซึ่งเพิ่งมารับตำแหน่งได้เพียง 5 เดือน ยืนยันว่า กระบวนการในการบังคับใช้กฎหมายเริ่มต้นขึ้นแล้ว ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ซึ่งหลังจากปักป้ายไป มีผู้แสดงตน 2 ราย ประสงค์ที่จะรื้อถอนเอง ส่วนอีก 26 อาคาร ซึ่งอยู่ในโซนของพื้นที่รีสอร์ทที่มีมากกว่า 100 ไร่ กำลังยื่นของบประมาณจากกรมป่าไม้มาเป็นค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน โดยใช้งบประมาณเฉลี่ยอาคารละ 200,000 บาท ทั้งนี้ยืนยันว่าหากได้รับการจัดสรรงบประมาณก็จะบูรณาการกับท้องถิ่น เพื่อระดมเจ้าหน้าที่และเครื่องมือหนัก เข้าไปทำการรื้อถอน และจะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน กับผู้ที่ถือครองกรรมสิทธิ์ตามรายชื่อก่อนหน้านี้ ผ่านกระบวนการทางศาล โดยยืนยันว่าคงใช้เวลาอีกไม่นานนัก ก็จะสามารถคืนสภาพพื้นป่า ให้กลับมาเป็นพื้นที่ร่องลมโลก ซึ่งเป็นปอดฟอกอากาศชั้นดี ให้กลับคืนสู่ธรรมชาติ ยังต้องติดตามกันต่อไปว่า เรื่องราวที่ยืดเยื้อมานานกว่า 8 ปี หรือจะดื้อด้านอยู่ต่อ จะได้บทสรุปอย่างไร จะเรียกคืนปอดกลับสู่ธรรมชาติได้จริงหรือไม่ จะมีใครอยู่เบื้องหลังการครอบครองผืนป่าที่มีอำนาจเหนือการบังคับใช้กฎหมายหรือเปล่า เหล่านี้ล้วนเป็นบทพิสูจน์ความเอาจริงเอาจังของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง …ต่อเรื่องนี้ไปถามคุณพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินให้ความเห็นว่า อย่าให้เดือดร้อนถึงผู้หลักผู้ใหญ่เลย ท่านก็ปัญหาเยอะงานเข้าอยู่ 8 ปีก็นานเกินพอแล้ว ไปได้แล้ว ผิดกฎหมายนะ สำนึกหน่อย รีบ…รื้อ!

 

 

 

** ปัจจุบันนี้มีเฟคนิวส์รู้ทันในยุคข้อมูลข่าวสาร และข่าวสารนั้นแล้วมีการส่งต่อไปเรื่อยๆ ส่งผลให้เกิดการกระจายข่าวสู่ผู้อื่นอย่างรวดเร็ว เฟคนิวส์ คือ ข่าวปลอมที่แชร์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นเฟชบุ๊ก หรือทางไลน์ พร้อมถึงช่องทางอื่นๆ และเมื่อเร็วๆ นี้ก็มี เฟคนิวส์ ว่า โรงพยาบาลมเหสักข์ ถนนมเหสักข์ แขวงสุริวงศ์ เขตบางรัก กทม. จะไม่รับบัตรประกันสังคม และบัตรทอง ดังนั้น น.ส. สุรัตน์วดี รุจิวุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของโรงพยาบาลมเหสักข์ ได้ออกมาชี้แจงและยืนยันวว่า ตอนนี้ทางโรงพยาบาลรับแต่บัตรประกันสังคม และไม่ได้รับบัตรทองมานานแล้ว ทางโรงพยาบาลยังคงให้บริการทางการแพทย์แต่ละแผนกที่ได้มาตรฐานให้กับผู้รักสุขภาพที่มาใช้บริการของโรงพยาบาลให้ได้รับความสะดวกและรวดเร็วทุกวัน

 

 

** สำนักงานเขตปทุมวัน และกรุงเทพมหานคร น่าจะไม่ให้ราคากับข่าวอื้อฉาว เรื่องการจัดซื้อที่ดินสร้างเขตปทุมวัน ที่มีทั้งการฉ้อฉลตัดแบ่งที่ดินส่วนที่สร้างประโยชน์ได้ในอนาคตออกแล้วนำมาขาย การซื้อที่ดินในราคาที่สูงผิดปกติ การเลี่ยงบาลีล็อคสเปคเพื่อจัดซื้อแบบเฉพาะเจาะจง การซื้อที่ดินบวกราคาผ่านนายหน้า ตลอดจนการจัดค่าตอบแทนจากปลายแถวยันหัวแถว ที่ ไมโครโฟน ขอให้ผู้เกี่ยวข้องช่วยไขข้อข้องใจ แปลกใจตรงที่ไม่เหมือนยุคก่อนๆ ที่ผู้บริหารจะให้ความสำคัญตรวจสอบชี้แจงสื่อมวลชน ที่ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความไม่ชอบธรรมที่เกิดขึ้นในองค์กร และไม่ใช่ครั้งแรกด้วยที่กระตุกเตือน ซึ่งหากตรวจสอบแล้วโปร่งใส สมเหตุผลก็ยินดีที่จะเป็นกระบอกเสียงชี้แจงต่อประชาชนเจ้าของเงินที่จ่ายภาษีเป็นงบประมาณในการจัดซื้อที่ดินแปลงนี้ ดังนั้น หากเสียงของ ไมโครโฟน ไม่ดังพอระคายหูของคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ภายใต้การนำของ อาจารย์ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เยี่ยงนี้แล้ว อาจจำเป็นต้องขออนุญาตต่อสายลำโพงขยายเสียงไปยังหน่วยงานตรวจสอบการใช้เงินของแผ่นดิน และหน่วยงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งหากปล่อยให้ไปถึงจุดนั้นแล้ว ไมโครโฟนของประกาศได้คำเดียวว่า “ตัวใครตัวท่าน” นะครับคุณผู้ฟัง  

 

 

 

**  ถึงแม้ตอนนี้ แม่น้ำเจ้าพระยาจะล้นอย่างไรก็ตามแต่ แต่ว่า ดร. ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. บอกว่า เรื่องปัญหาน้ำท่วมไม่น่ากังวลสามารถเตรียมความพร้อมรับมือได้ เพียงแต่ขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชน และอาสาสมัครร่วมมือร่วมใจกันช่วยเปิดทางระบายน้ำก็จะสามารถช่วยให้น้ำไม่ท่วมและลดลงได้อย่างรวดเร็ว จะได้ไม่มีน้ำท่วมขังอยู่เป็นเวลานานๆ และประชาชนจะได้ไม่ได้รับความเดือดร้อน

 

 

**  พื้นที่ของ สภ. ด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี มีนักธุรกิจ และชาวบ้านร้องเรียนมาเป็นจำนวนมากว่า ยาเสพติดทุกชนิดระบาด โดยเฉพาะยาบ้าขายดิบขายดี  โดยผู้ค้ายาจะให้ลูกน้องเดินขายตั้งแต่เช้าจรดเย็น ทำให้พวกขี้ยาเวลาจะหาเงินซื้อยามาเสพก็จะไปฉกชิงวิ่งราวทรัพย์ หรืองัดแงะบ้านของชาวบ้าน คงจะต้องฝากให้ พ.ต.อ. ยิ่งยศ เขินอำนวย ผกก. สภ. ด่านช้าง ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อตรวจสอบและจับกุมแก๊งค้ายาบ้าทุกแก๊งโดยไม่เห็นแก่หน้าใคร พร้อมทั้งพวกขี้ยาที่คอยสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมาตลอดด้วย

 

 

 

** พื้นที่ สภ. ศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี ก็มีชาวบ้านร้องเรียนมาเป็นประจำว่า ยาเสพติดระบาดทั่วพื้นที่ โดยเฉพาะยาบ้า ขายดิบขายดีจนก่อให้เกิดพวกขี้ยากลายเป็นโจรผู้ร้ายเวลาหิวยาบ้าก็หาเงินโดยวิธีงัดแงะทรัพย์ของชาวบ้านเขาหรือฉกชิงวิ่งราว คงจะต้องฝากให้ พ.ต.อ. เกริกศิษฐ์ เนียมนัตฐ์ ผกก. สภ. ศรีมโหสถ ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาไปตรวจสอบและจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดทุกแก๊งให้ราบคาบไปเลย และพวกขี้ยาที่คอยสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมาตลอดด้วย

 

 

** พื้นที่ สน. บางชัน ก็มีชาวบ้านและนักธุรกิจที่ร้องเรียนกันมาเป็นประจำว่ายาเสพติดทุกชนิดระบาดไปทั่วพื้นที่ โดยเฉพาะยาบ้า ทำให้บรรดาผู้ปกครองของเด็กเกรงว่าลูกหลานจะติดยาบ้าไปด้วย คงจะต้องฝากให้ พ.ต.อ. วสุ เชื่อพุทธ ผกก. สน. บางชัน ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อการตรวจสอบและจับกุมแก๊งค้ายาบ้าทุกแก๊งให้หมดสิ้นไปเลยก็ดี และบรรดาพวกขี้ยาที่คอยฉกชิงวิ่งราวทรัพย์ของชาวบ้านมาตลอด จะได้สร้างขวัญและกำลังใจให้บรรดาผู้ปกครองของเด็กนักเรียนด้วย

 

 

 

 

**  พื้นที่ของ สน. ลาดพร้าว ก็มีชาวบ้าน และผู้คนที่อาศัยร้องเรียนกันมาเป็นจำนวนมากว่า ยาเสพติดระบาดไปทั่วทุกพื้นที่ โดยเฉพาะยาบ้าขายดิบขายดีอย่างกับขายขนมอย่างนั้น โดยผู้ค้ารายใหญ่สั่งลูกน้องเดินขายตั้งแต่เช้าจรดเย็น ก่อให้เกิดพวกขี้ยาเวลาไม่มีเงินจะซื้อยาเสพติดมาเสพก็เที่ยวฉกชิงวิ่งราว งัดแงะบ้านของชาวบ้าน สร้างความหวาดผวามาตลอด ฝาก พ.ต.อ. รุ่งสกุล บุญกระพือ ผกก. สน. ลาดพร้าว ลงพื้นที่ไปกับผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อการตรวจสอบและจับกุมให้จริงจังกับพวกแก๊งค้ายาเสพติดทุกแก๊ง ให้จริงจังด้วย

 

** พื้นที่ สน. สุวินทวงศ์ ก็มีชาวบ้านร้องเรียนมาตลอดว่า พื้นที่นี้เต็มไปด้วยยาเสพติดทุกชนิดระบาด โดยเฉพาะยาบ้าก่อให้เกิดพวกขี้ยากลายเป็นโจรผู้ร้ายที่คอยฉกชิงวิ่งราวทรัพย์ชาวบ้าน และงัดแงะบ้านของชาวบ้านมาตลอด คงจะต้องฝากให้ พ.ต.อ. นันทภูมิ เรืองรุ่ง ผกก. สน. สุวินทวงศ์ ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อการตรวจสอบและจับกุมแก๊งค้ายาบ้าทุกแก๊งให้จริงจังด้วย

 

 

** พื้นที่ของ สน. ลำหิน ก็เช่นเดียวกัน ชาวบ้านอยู่กันอย่างหวาดผวา เพราะพื้นที่นี้ยาเสพติดระบาด โดยเฉพาะยาบ้าก่อให้เกิดพวกขี้ยาที่กลายเป็นโจรผู้ร้ายคอยฉกชิงวิ่งราวทรัพย์ของชาวบ้านและงัดแงะตามออฟฟิศ และบ้านช่องของชาวบ้านเขา ฝาก พ.ต.อ. ธนวรรธน์ ตาระกา ผกก. สน. ลำหิน ให้ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชากวาดล้างแก๊งค้ายาบ้าทุกแก๊งโดยไม่เห็นแก่หน้าใคร พร้อมทั้งพวกขี้ยาที่กลายเป็นโจรผู้ร้ายคอยสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมาตลอดด้วย

 

** การชนะใจตนเองเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่

 

** บริจาคปัจจัยและโลงศพให้กับศพผู้ไร้ญาติได้ที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และมูลนิธิปอเต็กตึ๊ง ได้กุศลดี  

 

ไมโครโฟน