วันพุธ ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2568 13:00 น.

อาชญากรรม » คอลัมน์

แยกรัชวิภา

บ้านเมืองออนไลน์ : วันพฤหัสบดี ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2566, 14.16 น.

“ความโปร่งใส”บันไดขั้นสุดท้าย“หยุดคนโกง”

“ความโปร่งใส”บันไดขั้นสุดท้าย“หยุดคนโกง”

ยกระดับดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI)

ศุภภัทรวริศรา  เกตุสุนทร  คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันรัชต์ภาคย์

เมื่อ“คนไทยไม่ทนต่อการทุจริตคอร์รัปชั่น”แสดงออกอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้รับรู้ว่าจะไม่ทนต่อการถูกฉกฉวยโอกาสเอาเปรียบตั้งแต่เรื่องเล็กๆน้อยๆนำไปสู่เส้นทาง“การทุจริตคอร์รัปชั่นที่เปรียบเสมือนโรคร้ายที่เกาะกินร่างกายและลุกลามสร้างความเจ็บปวดแสนสาหัสที่ไม่อาจนิ่งทนได้จึงต้องลุกขึ้นมารักษา เยียวยา ทำสิ่งที่ถูกต้องที่เกิดจาก“ความยุติธรรมที่ล่าช้าคือความไม่ยุติธรรม”จากผลการติดตามผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้รับโทษตามกฎหมายต้องดำเนินการด้วยความรวดเร็วไม่มีข้อยกเว้นเพื่อลดการสะสมและกำจัดการทุจริตคอร์รัปชั่น แบบไม่ต้องลดพลังความโปร่งใสในขณะเดียวกันผู้ที่มีอำนาจต้องรักษากฎกติกาตระหนักในภาระหน้าที่รับผิดและรับชอบในสิ่งที่กระทำไปผู้เขียนตั้งข้อสังเกตได้ไว้ว่า“เรามักจะเห็นแต่รับชอบในสิ่งที่ถูกใจแต่ไม่รับผิด..ในสิ่งที่ถูกต้อง ทำให้สังคมไทยถูกปกคลุมด้วยฝุ่นทุจริตสีเทาที่มีอนุภาครุนแรงและโหดร้ายไม่ต่างจากพิษของฝุ่น PM 2.5 ที่กระจายฟุ้งอยู่ในอากาศที่วิ่งไล่จับเท่าไรก็ไม่อาจจับต้องได้”

“การทุจริตคอร์รัปชั่น”ไม่ใช่มรดกตกทอดสู่รุ่นลูก…รุ่นหลาน

จากระบบการคิดที่ก่อให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นถูกปลูกฝังในอดีตเรียกได้ว่าจากกระดานชนวน“ฐานสิบ Analog”ที่ระบบคิดยึดผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้องเป็นหลักและก้าวสู่กระดานดิจิทัล “ฐานสอง Digital”ที่ระบบคิดยึดผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก ทำให้ประชาชนในสังคมหยุดคิดและเริ่มเอะใจ อะไรคือความโปร่งใส อะไรคือความเป็นธรรม และเริ่มไม่ทนต่อสิ่งรอบตัวที่ส่งผลในทางไม่ดีต่อตนเอง ซึ่งตามสัญชาตญาณความเป็นมวลมนุษย์ชาติแล้วจะไม่ทนต่อสภาวะสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีหรือสิ่งที่ส่งผลกระทบเชิงลบกับตนเอง เมื่อได้รับผลกระทบเชิงร้ายจะแสดงปฏิกิริยาต่อต้านออกมาทันทีแต่ด้วยสังคมไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันที่ต้องผูกติดกับการทุจริตคอร์รัปชั่นในชีวิตประจำวันกันมาอย่างยาวนานเกือบจะเป็นเรื่องปกติที่ยอมรับได้มาถึงยุคนี้ต้องเปลี่ยนแปลงวิธีคิด (Paradigm Shift)หยุดให้การทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นมรดกตกทอดสู่รุ่นลูกรุ่นหลานด้วยการหยุดให้สินบนทุกรูปแบบ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมที่เป็นการแสดงเจตนาในการทุจริตคอร์รัปชั่นการให้หรือรับสินบนแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐและเอกชนหรือผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้มาหรือคงไว้ข้อได้เปรียบการแข่งขันหรือเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบจากการแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้ เช่น การเรียก รับ เสนอ หรือให้ทรัพย์สิน รวมถึงประโยชน์อื่นใดกับเจ้าหน้าที่รัฐหรือบุคคลอื่นใดที่ทำให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้องหยุดเพิกเฉยเมื่อพบเห็นการกระทำที่เข้าข่ายการทุจริตคอร์รัปชั่นถือเป็นหน้าที่ที่ต้องแจ้งให้ผู้ที่รับผิดชอบทราบและให้ความร่วมมือในการตรวจสอบข้อเท็จจริงหยุดทุจริตคอร์รัปชั่นตระหนักและให้ความสำคัญกับผลกระทบและปัญหาการทุจริตที่อาจเกิดขึ้นจากกระบวนการตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงการทุจริตคอร์รัปชั่นมองถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลักส่งเสริมระบบการควบคุมภายในองค์กรให้มีความเข้มแข็งด้านการเงิน การบัญชี การเก็บบันทึกข้อมูล การจัดซื้อ จัดจ้าง รวมถึงกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชั่นส่งเสริมการประเมิลผลและการตรวจสอบภายในองค์กรให้เกิดความมั่นใจในระบบการควบคุมภายในและการบริหารความเสี่ยงที่กำหนดไว้มีอย่างมีประสิทธิภาพ ตรวจสอบการปฏิบัติงานของทุกหน่วยงานให้เป็นไปตามข้อกำหนด กฎระเบียบ ช่วยค้นหาข้อบกพร่อง จุดอ่อน รวมถึงให้คำแนะนำในการพัฒนาระบบการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลตามแนวทางการกำกับดูแลกิจการบ้านเมืองที่ดีและตามข้อบังคับคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณส่งเสริมเผยแพร่ความรู้ที่ถูกต้อง สร้างและทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาความเสียหายที่เกิดจากการทุจริตคอร์รัปชั่น

“หยุดคนโกง” สร้างสังคมไทย “โปร่งใส”ทุกภาคส่วน

มุ่งเน้นการตรวจสอบผลการทำงานของภาครัฐตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560จากการออกแบบระบบโครงสร้างอำนาจที่มุ่งเน้นการป้องกันและปราบปรามการทุจริตโดยเฉพาะในกลุ่มทางการเมือง ผู้บริหารระดับสูง ให้มีคุณธรรมจริยธรรมในการบริหารราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้มีภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือในสายตาของประชาชนในชาติและนานาชาติหน้าที่ของประชาชนชาวไทย“มีหน้าที่ไม่ร่วมมือหรือสนับสนุนการทุจริตและประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ”ตระหนักและให้ความสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องไม่ร่วมมือหรือสนับสนุนให้เกิดการทุจริตและประพฤติมิชอบในทุกรูปแบบไม่ว่าการกระทำนั้นจะเป็นการกระทำโดยภาครัฐ ภาคเอกชน หรือภาคประชาสังคมหน้าที่ของรัฐทุกภาคส่วน “ต้องส่งเสริม สนับสนุน และให้ความรู้แก่ประชาชนถึงอันตรายที่เกิดจากการทุจริตและประพฤติมิชอบทั้งในภาครัฐและภาคเอกชนจัดให้มีมาตรการและกลไกที่มีประสิทธิภาพป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาการทุจริตอย่างจริงจังและต่อเนื่องแนวนโยบายแห่งรัฐ“พึงพัฒนาระบบการบริหารราชการแผ่นดินทั้งราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคส่วนท้องถิ่น และงานของรัฐอย่างอื่น ให้เป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีมีมาตรการป้องกันมิให้ผู้ใดใช้อำนาจหรือกระทำการโดยมิชอบที่เป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่หรือกระบวนการแต่งตั้งหรือการพิจารณาความดีความชอบของเจ้าหน้าที่รัฐทางจริยธรรมเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน พัฒนาเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีทัศนคติเป็นผู้ให้บริการประชาชนให้เกิดความสะดวก รวดเร็วไม่เลือกปฏิบัติและปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลและมีคุณธรรมจริยธรรมเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชน

“ความโปร่งใส” บันไดขั้นสุดท้าย  “คนไทยไม่โกง”

ถึงเวลาแล้วที่จะต้องสร้าง“จิตพอเพียง”เป็นเกราะป้องกันและต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นให้กับตนเองและประเทศชาติให้โปร่งใสสะอาดมากที่สุดตามทัศนะของรองศาสตราจารย์ ดร. มาณี ไชยธีรานุวัฒศิริที่ปรึกษาประธานกรรมการ(สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) กับการสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริตนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและเกิดค่านิยมการต่อต้านทุจริตในสังคมไทยด้วยโมเดล STRONGที่สื่อความหมายถึง “ความแข็งแกร่ง” ร่วมกันพัฒนาให้ก้าวไปข้างหน้ากับ หลักความพอเพียงเชื่อมโยงกับความโปร่งใสจากการแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวมตระหนักรู้ถึงผลการทุจริตคอร์รัปชั่นตลอดจนเกิดเครือข่ายและเป็นแกนนำสร้างวัฒนธรรมไม่ทนต่อการทุจริตที่เริ่มจาก S หรือ Sufficient  หมายถึง พอเพียง คือการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับประยุกต์ใช้ในการทำงานเพื่อให้แยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวกับผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นการป้องกันการทุจริตภายในตนและองค์กรได้อย่างยั่งยืนT หรือ Transparent หมายถึงโปร่งใส คือการปฏิบัติงานบนพื้นฐานความโปร่งใส ตรวจสอบได้ตามข้อบังคับ ระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วยหลักธรรมาภิบาลR หรือ Realize  หมายถึง การตื่นรู้ความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงรากเหง้าของปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นร่วมกันเพื่อช่วยกันป้องกันในเบื้องต้นO หรือ Onward หมายถึง มุ่งไปข้างหน้า คือ การมุ่งพัฒนาปรับเปลี่ยนตนเองให้มีความเจริญก้าวหน้า บนพื้นฐานความโปร่งใส ความพอเพียง และร่วมกันสร้างวัฒนธรรมสุจริตส่งเสริมคนดีให้มีความก้าวหน้าในหน้าที่N หรือ Knowledge หมายถึงความรู้ คือการพัฒนาองค์ความรู้อย่างสม่ำเสมอให้เท่าทันสถานการณ์การทุจริต วิเคราะห์ความเสี่ยงและประเมินสถานการณ์การทุจริต โดยการทบทวนความรู้และเรียนรู้เพิ่มเติมอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการทุจริตในระบบG หรือ Generosity หมายถึง ความเอื้ออาทร คือ ความเมตตา ความมีน้ำใจบนพื้นฐานของจริยธรรมและจิตพอเพียง ไม่เอื้อต่อการรับหรือการให้ประโยชน์ต่อพวกพ้องด้วยหลักธรรมาภิบาล

ท้ายที่สุดเมื่อ“หยุดคนโกง”จากการเสริมสร้าง “จิตพอเพียง ต้านทุจริต”คนไทยไม่ทนต่อการทุจริตคอร์รัปชั่น นำพาประเทศชาติก้าวข้าม “วงจรการทุจริต”อย่างสวยงามมั่นคงและยั่งยืนทำให้ประเทศไทยใสสะอาดและเป็นประเทศที่มีมาตรฐานทางคุณธรรม ความโปร่งใส เป็นสังคมมิติใหม่ที่จะไม่เพิกเฉยต่อการทุจริตคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบอันเกิดจากความร่วมใจของทุกภาคส่วนร่วมมือกันสร้างวัฒนธรรมต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ยกระดับการนำหลักธรรมาภิบาล“ความโปร่งใส”ให้มีมาตรฐานระดับสากล“คนไทยไม่โกง”ยกระดับดัชนีการรับรู้การทุจริต(CPI) ของประเทศไทยให้อยู่ในระดับที่เพิ่มขึ้นตามเจตจำนงเพื่อให้ประชาชนและลูกหลานในอนาคตมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดเทียบเท่าได้กับนานาอารยประเทศ…..