คอลัมน์ รอบบ้าน รอบเมือง ประจำวันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม 2567

.....ธนาคาร ร่ำรวย ช่วยใครกัน

เร่งขยัน หากิน สินมากล้น

ปล่อยคนรวย มิอยากช่วย ซวยคนจน

จำฝืนทน กู้นอกกรอบ ระบอบมาร

.....ทำเรื่องกู้ ทั้งที่รู้ ไม่ให้ผ่าน

ทรมาน เสียเวลา ข้าไม่สน

เก็บดอกเบี้ย ไม่เฉลี่ย เกลี่ยคนจน

คงต้องทน ประเทศข้า ล้าหลังเอย

....................เบญจรงค์.....................

 ** เรียกได้ว่าเป็นกระแสฟีเวอร์ไปทั่วบ้านทั่วเมืองลามไปยันเมืองนอกกับ “หมีเนย” หรือ “บัตเตอร์แบร์” มาสคอตสุดฮิตที่ ณ วินาทีนี้แทบไม่มีใครไม่รู้จักกับความน่ารักแสนซนที่ทำให้คนหลากหลายช่วงวัยติดตามกันเป็นแถว กระทั่งล่าสุด ททท ได้ดึงหมีเนยขึ้นแท่นเป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่ ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวเศรษฐกิจของประเทศไทยและดึงดูดนักท่องเที่ยวใหม่ๆเข้ามาเที่ยวในประเทศของเราด้วย เพราะที่ผ่านมาได้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากไม่ว่าจะเป็น ชาวจีน ชาวฟิลิปปินส์ ชาวอินโดนีเซีย และอีกหลายประเทศ ได้บินลัดฟ้าเพื่อมาชมการแสดงของหมีเนยกันเลยทีเดียว “ไมค์โครโฟน” เห็นด้วยและสนับสนุนอย่างยิ่งที่จะทำให้บ้านเมืองของเราเศรษฐกิจกลับมาเฟื้องฟูอีกครั้ง

 

มาทอดผ้าป่าที่วัดสุทธิวราราม กับชมรมครูเก่าสุทธิวราราม...อิ่มบุญอิ่มสุข  นำบุญมาฝากทุกคน

 

** มีการร้องเรียนเข้ามาเกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่นภายในหน่วยงานมูลนิธิ โดยการใช้เด็กบังหน้าเพื่อหาผลประโยชน์เข้าตัวเอง รวมไปถึงการทุจริตกับบุคคลากรภายในองค์กร ไมค์โครโฟน ขอฝากให้หน่วยงานภาครัฐ ป.ป.ช. ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบมูลนิธิต่างๆเพื่อความโปร่งใส และความยุติธรรมแก่เด็กๆทุกคน และขอไม่สนับบสนุนการโกงกินทุกรูปแบบของพวกที่คอรัปชั่น!

 

 

**  ช่วงนี้ให้ระวังไข้เลือดออก ซึ่งเป็นโรคประจำฤดูกาล ฝากประชาชนหมั่นดูแลรักษาตรวจตราตัวเองและลูกหลานคนใกล้ชิดด้วย หากพบอาการมีไข้สูง อาการคล้ายหวัด คลื่นไส้อาเจียน และมีประวัติไปในที่ที่มียุงชุกชุม ควรพบแพทย์อย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตามกันไว้ดีกว่าแก้เสมอก็คงจะต้องฉีดวัคซีนที่สาธารณะสุข เพื่อความปลอดภัย และป้องกันบริเวณรอบๆบ้านไม่ให้มีแหล่งน้ำและน้ำขังเพื่อไม่ให้มียุงลายมาเพาะพันธุ์ได้  

 

** วันนี้จะพาผู้อ่านมาเยี่ยมเยือน บ่อเลี้ยงปลาสลิด อำเภอกระทุ่มแบบ จ. สมุทรสาคร ที่นับว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำกันภายในครอบรัว มีพ่อแม่และลูก 2 คนช่วยกัน จนเป็นปลาสลิดที่สมบูรณ์แบบที่สุด มีคนมารับไปขายในตลาดกันมากมาย แล้วก็ยังส่งออกนอกไปถึงสหรัฐอเมริกาเชียวน่ะ สร้างชื่อเสียงและเศรษฐกิจให้ไทยอย่างดี งานนี้ “ไมค์โครโฟน” ขอปรบมือดังๆให้กับธุรกิจในครัวเรือนของคนในประเทศด้วย

 

 

 

 ** กุ้งอบวุ้นเส้น 20 บาท ชาวบ้านสงสัยขายจริงหรือทรงสืบ! ร้านกุ้งอบวุ้นเส้นนี้ตั้งอยู่บริเวณถนนคนเดินซีฟู้ดริมชายหาดพยูน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง จากการฟังสัมภาษณ์ของพ่อค้าแล้วนั้นมาจากอดีตของเขาที่เคยยากจนมาก่อนและอยากทานเมนูนี้แต่ไม่มีเงินเลยอยากให้ชาวบ้านได้รับประทานของอร่อย และราคาถูก เรียกได้ว่า เป็นพ่อค้าที่มีน้ำจิตน้ำใจที่งดงามอย่างมากจริงๆ “ไมค์โครโฟน” ขอยกย่องชื่นชมที่ขายอาหารราคาถูกทำให้เข้าถึงคนทุกชนชั้น และเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี

 

** ขอชื่นชมคนดี บุคลากรตัวอย่างของสังคม ครูเฟรด ธนภัทร เลิศไกร คุณครูรุ่นใหม่หัวใจไฟแรง ผู้ที่ทุ่มเท และอุทิศตนให้กับการสอน ครูเฟรดเป็นครูสอนศิลปะให้กับเด็กๆรุ่นใหม่ และรวมไปถึงเด็กออทิสติกผู้ที่ยังขาดโอกาสเล่าเรียนเหมือนเด็กปกติทั่วไป ครูเฟรดเป็นครูที่ดีและมีจิตใจงดงามเป็นอย่างยิ่ง “ไมค์โครโฟน” ขอปรบมือรัวๆให้กับคนดีศรีสังคมเช่นนี้ด้วย หากใครต้องการสนับสนุนผลงานของครูเฟรดโดยตรงสามารถติดต่อได้ที่ 096-264-4346 รับสอนศิลปะเด็กทุกแขนงรับทั้งเด็กปกติและเด็กพิเศษ

 

**ศูนย์การเเพทย์ ขาดแพทย์ ! ของเทศบาลเมืองลาดสวาย จังหวัดปทุมธานี งบประมาณกว่า 46 ล้านบาท ถูกร้องเรียนว่าสร้างเสร็จเเต่ไม่เปิดใช้งาน เพราะขาดบุคลากรเเพทย์ เเละอาคารยังไม่สมบูรณ์ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ติดตามกับคอลัมน์หมายเลข 7 ไปลงพื้นที่พร้อมกับนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้อำนวยการโครงการนวัตกรรมการตรวจสอบภาครัฐและเอกชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ - อดีตผู้ว่าการตรวจเงินเเผ่นดิน ตรวจสอบโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์การเเพทย์ของเทศบาลเมืองลาดสวาย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี มูลค่า 46,025,985.32 บาท บนที่ดินบริจาค หลังถูกร้องเรียนว่า ก่อสร้างเเล้วเสร็จเเต่ไม่เปิดใช้งาน เพราะอาคารไม่สมบูรณ์เเละขาดบุคลากรแพทย์ วันที่ไปถึง ฝนตกอย่างหนัก ทำให้เห็นความไม่สมบูรณ์ของอาคาร อย่างน้อย 3 จุด ที่มีน้ำรั่วไหล อาคารศูนย์การเเพทย์ ก่อสร้างโดย ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธ.ธัญญะ (การช่าง) 2004 โดยทำสัญญาเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 เเละก่อสร้างเเล้วเสร็จ เมื่อปลายปี 2566 ซึ่งเป็นสัญญาก่อสร้างเฉพาะตัวอาคาร เเละปัจจุบันตรวจรับงานเเล้ว มีนายหิรัญ ภู่สกุล เป็นประธานกรรมการตรวจการจ้าง เเต่ปรากฎว่า อาคารชำรุด ! ส่วนเรื่องขาดเเพทย์ เทศบาลเมืองลาดสวายชี้เเจงกับสำนักงานการตรวจเงินเเผ่นดิน จังหวัดปทุมธานี ว่ามีการกำหนดอัตรารองรับไว้เเล้ว ตามเเผนอัตรากำลัง 3 ปี ประจำปีงบประมาณ 2567-2569 หรือหากไม่มี ก็จะใช้วิธีเหมาบริการ ตามเเผนโครงการจะเปิดทำการศูนย์การเเพทย์ ภายในธันวาคม 2567 เเต่นาทีนี้หากประเมินกับเวลาที่เหลืออีก 6 เดือน ยังดูห่างไกลนัก เวลาที่เหลือหลังจากนี้ต้องจับตาว่าจะทำได้หรือปล่อยให้อาคารร้างรอวันเสื่อมโทรม เช่นเดียวกับราคาก่อสร้างกว่า 46 ล้านบาท เเพงเกินจริงหรือไม่ คงต้องฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเช่นกัน นี่ขนาดชี้แจงว่ามีแผนแล้ว ยังต้องก่อสร้างถนนรอบอาคาร ออกแบบ ปรับปรุงพื้นที่ใช้สอยในอาคาร จัดหาเครื่องมือทางการแพทย์ อุปกรณ์ครุภัณฑ์การรักษาพยาบาล และที่สำคัญจัดหาแพทย์ประจำแต่ละสาขา พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล เภสัชกร อีกเยอะหลายเรื่องหลายด้าน ฝาก สตง. ช่วยดูต่อด้วย การดำเนินการออกแบบและก่อสร้างถูกถ้วนมั้ย มีแผนรองรับอย่างไรบ้าง อีกเยอะเลย

 

 

**ชะราปิ ทุกขา โคตะระ ประปา แปดปี มิใช้งาน เศร้าสังเวช  ประปาหมู่บ้าน บ้านคีรีวงกต จังหวัดอุดรธานี ถูกร้องเรียนว่าสร้างเสร็จ 8 ปี ไม่เปิดใช้งาน แม้ล่าสุด จะมีการปรับปรุงและเปิดใช้แล้ว แต่น้ำส่งไปไม่ถึงทุกหลังคาเรือน  คอข่าวตามติดคอลัมน์หมายเลข 7 เหตุเพราะค่าไฟแพง นั่นจึงทำให้ประปาหมู่บ้านเเบบบาดาลขนาดกลาง บ้านคีรีวงกต หมู่ที่ 8 ตำบลนาแค อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี ถูกทิ้งร้าง หลังจากสร้างเสร็จเมื่อเดือนกันยายน ปี 2559  ทั้งที่ใช้งบประมาณ 1,745,800 บาท ก่อสร้างโดย บริษัท ทองมงคลก่อสร้าง จำกัด แต่กลับใช้ประโยชน์ไม่คุ้มค่า มีชาวบ้านได้ใช้น้ำแค่ 15 หลังคาเรือน  คอลัมน์หมายเลข 7 ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบว่า นอกจากปัญหาค่าไฟแพงแล้ว ประปาหมู่บ้าน บ้านคีรีวงกต ยังเกิดปัญหา กระแสไฟฟ้าไม่พอต่อการเปิดใช้อุปกรณ์สูบน้ำ เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ห่างจากระบบสายไฟฟ้าแรงต่ำของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 100 เมตร และเป็นพื้นที่ปลายสาย จึงเปิดระบบอัตโนมัติควบคุมไม่ได้  วิธีการคือ ต้องให้สมาชิก อบต.หมู่ที่ 8 ในขณะนั้น เป็นคนเปิดปิดระบบน้ำเพื่อให้บริการ แต่สุดท้ายต้องปล่อยทิ้งร้างถึง 8 ปี  ความไม่คุ้มค่า นำมาสู่คำถามที่ว่า ก่อนหน้าจะดำเนินโครงการนั้น มีการทำประชาคมหมู่บ้านหรือไม่  เพราะจากการสังเกต พบว่า พื้นที่เป็นชุมชนเกิดใหม่  ตั้งห่างจากชุมชนหลัก ระยะทางนับกิโลเมตร  อบต.นาเเค ยืนยันผู้ใหญ่บ้านในขณะนั้นมีการทำประชาคมหมู่บ้าน เเละปัจจุบันได้ปรับปรุง จนกลับมาใช้ได้เเล้ว  อบต.นาเเค ปรับปรุงโครงการจากงบประมาณเงินสะสม  ปี 2567 จำนวน 150,000 บาท ดำเนินการก่อสร้างระบบสูบน้ำโซล่าเซลล์กับไฟฟ้าเพิ่มเติม  โดยมีห้างหุ้นส่วน จิระ 888 คอนสตรัคชั่น เป็นผู้รับจ้าง เเละส่งมอบงานเรียบร้อย เเต่ก็ยังถูกร้องเรียนว่า ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ไม่ทั่วถึง  ซึ่งนายก อบต.นาเเค มองว่า เป็นเกมการเมือง !!!!  อบต.นาเเค ยืนยันโครงการไม่มีนอกมีใน เเต่เป็นที่น่าสังเกตว่า  ห้างหุ้นส่วน จิระ 888 คอนสตรัคชั่น ซึ่งเป็นผู้รับจ้าง ไม่ได้ทำสัญญาโครงการก่อสร้างบ่อบาดาลระบบสูบน้ำ 2 ระบบ เฉพาะหมู่ที่ 8 เท่านั้น  เเต่พบว่า ยังคว้างานโครงการ เเละวงเงินงบประมาณเดียวกัน ในหมู่ที่ 6 เเละหมู่ที่ 3 ด้วย ทั้งหมดเป็นวิธีเฉพาะเจาะจง วงเงินรวม 450,000 บาท  ขณะที่ ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอุดรธานี เน้นย้ำ ก่อนทำโครงการ จำเป็นต้องศึกษาวิเคราะห์สภาพพื้นที่ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่าสูงสุด  เเม้ประปาหมู่บ้านจะจ่ายน้ำได้อีกครั้ง เเต่ก็กระจุกตัวเเค่ 15 หลังคาเรือน  ที่สำคัญ ชาวบ้านยังต้องเผชิญกับค่าไฟที่เเพง เเละหากขาดการบริหารจัดการที่ดี อนาคตอาจซ้ำรอยกลับมาร้างเหมือนเดิม คงต้องฝาก สตง. ติดตามตรวจสอบต่อไปด้วยอีกทาง

 

 

** ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน เกิดขึ้นได้ทุกยุคทุกสมัย แม้แต่ประเทศที่พัฒนาแล้วก็ตาม ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด แต่ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันก็มิได้ลดน้อยลง ถึงแม้ว่า กฎหมายการปราบปรามการทุจริตจะรุนแรงขึ้น แต่ปัญหานั้นก็ยังคงมีอยู่ แต่ในหลายๆ ประเทศได้มีการสร้างระบบการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันได้สำเร็จแล้ว ประเทศสิงคโปร์ เมื่อสมัยได้สิทธิปกครองตนเองจากจักรวรรดิอังกฤษเมื่อปี ค.ศ.๑๙๖๕ ปัญหาการคอร์รัปชันนับว่ามีมากกลาดเกลื่อน กฎหมายต่อต้านการคอร์รัปชันไม่หนักมากพอ ผู้ที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันก็ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากไม่ได้รับอำนาจเพียงพอ ปัญหาแรกๆ ที่สิงคโปร์ต้องทำการดำเนินการแก้ไข คือ ๑. ความยากจนของคนในสังคม ๒. การว่างงานอยู่ที่ระดับ ๑๔% ๓. ประชากรมากกว่าครึ่งอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ (Illiterate) ๔. บรรทัดฐานทางสังคมและสังคมที่เต็มไปด้วยการยอมรับการให้สินบน ๕. ความล้าสมัยของกฎหมายต่อต้านการทุจริต ๖. ความด้อยการศึกษาของชาวสิงคโปร์ ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในแวดวงตำรวจ และหมู่ข้าราชการ ปัญหาที่พบนั้นนับเป็นปัญหานี่แก้ไขได้ค่อนข้างยาก จึงเกิดคำถามที่ว่า "สิงคโปร์ดำเนินการแนวทางนี้ได้อย่างไร" คำตอบคือ "ปัญหาเริ่มเกิดจากตัวบุคคล จึงต้องเริ่มแก้ที่ตัวบุคคล“ รัฐบาลสิงคโปร์จึงมีนโยบายให้การศึกษาที่ดีแก่ประชาชน มีการกระจายรายได้ที่ค่อนข้างเป็นธรรม มีการสร้างปัจจัยที่ทำให้ประชาชนมุ่งหน้าขยันทำงานที่สุจริต เพื่อให้ประชาชนเห็นว่า ตนมีสถานะความเป็นอยู่ที่เพียงพอแล้ว และมีการพัฒนาเจ้าหน้าที่รัฐให้เก่งเพื่อที่จะช่วยทำให้เศรษฐกิจเจริญเติบโตมากยิ่งขึ้น รัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษี ซึ่งเป็นรายได้หลักของรัฐบาล นำมาเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนของเงินเดือนเจ้าหน้าที่รัฐ และสิงคโปร์ยังก่อตั้งหน่วยงานที่รับผิดชอบในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของสาธารณรัฐสิงคโปร์ คือ สำนักงาน Corruption Practice Investigation Bureau (CPIB) มีหน้าที่หลักในการปฏิรูปสังคมทุจริตคอร์รัปชันไปสู่สังคมที่มีปัญหาคอร์รัปชันน้อยที่สุด และได้รับการจัดอันดับในระดับต้นๆ จากองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International : TI) การควบคุมการทุจริต คือ การดำเนินการแบบบนลงล่าง เป็นการควบคุมจากรัฐบาล นอกจากนี้สิงคโปร์ยังทำให้ประชาชนตระหนักถึงปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมาจากการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นปัญหาร้ายแรงมีผลต่อความเป็นอยู่และการพัฒนาประเทศในระยะยาว ปัจจุบัน สิงคโปร์นับว่าสามารถสร้างระบบต่อต้านคอร์รัปชันได้สำเร็จ โดยมีอีกแนวทางหนึ่ง คือ มุ่งปรับนโยบายและกฎหมายข้อบังคับต่างๆ เพื่อปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน ขณะเดียวกันสิงคโปร์ยังจัดตั้งระบบความโปร่งใสทางการคลัง โดยกำหนดว่า "ข้าราชการต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินของตน" เมื่อเข้ารับตำแหน่งในหน่วยงานของรัฐ และต้องลงนามแสดงเจตจำนงโดยยืนยันว่า ไม่มีปัญหาทางการเงินใดๆ นอกจากนี้ รัฐบาลสิงคโปร์ยังจัดตั้งสำนักงานตรวจสอบการคอร์รัปชัน เพื่อให้ข้าราชการและประชาชนปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเข้มงวดอีกด้วย (นี้คือ กรณีศึกษา : สิงคโปร์กับแนวทางการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน โดยศูนย์ประสานราชการใสสะอาด กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ)

 

 

** มีประชาชาชนทั้งฝากชมมาถึง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่า ฯ กทม. ว่า ตอนนี้ถนนหนทาง และทางม้าลายในพื้นที่ใน กทม.  ทำเส้นปะทางม้าลายสีสันเห็นชัดเจน และเวลามีผู้คนเดินข้ามถนนก็จะมีป้ายธงสีแดงไว้ให้โบกให้รถหยุดเวลาข้ามถนน และตามถนนหนทางก็มีเส้นแบ่งเขตในการเดินสวนทางรถกันได้อย่างชัดเจน ถือว่าเป็นผลงานที่น่าชื่นชม ส่วนอันที่ร้องเรียนมาก็มี อาทิเช่น การนำบ้านพัก หรืออาคารพาณิชย์ที่อยู่ในที่ชุมชนมาทำเป็นอู่ซ่อมรถ และร้านซ่อมมอเตอร์ไชค์ส่งเสียงรบกวนชาวบ้าน แถมมีกลิ่นของน้ำมันรถเหม็นไปทั่วบริเวณทำให้เกิดสภาพแวดล้อมและอากาศเป็นพิษทำลายสุขภาพของคนในชุมชนอีกด้วย ถือว่าเรื่องนี้ จะขอให้ทาง ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ช่วยตรวจสอบและจัดระเบียบด้วย

 

 

 

** พื้นที่ สภ. สมุทรปราการ เวลานี้ก็เต็มไปด้วยยาเสพติดแทบทุกชนิดระบาดในพื้นที่จนทำให้ชาวบ้านผู้อยู่อาศัยเป็นจำนวนมากหวาดผวากับแก๊งค้ายาเสพติดที่ระบาดไปทั่วพื้นที่ ที่มีหลายแก๊งยาเสพติดหลายแก๊งด้วยกัน ที่สั่งให้ลูกน้องเดินขายตามตรอกตามซอย เวลาคนหยากยาไม่มีเงินซื้อยาเสพติดก็จะปล้นจี้ชิงทรัพย์เป็นประจำ คงจะต้องฝากให้ พ.ต.อ.  นพดล ช่างเรือน ผกก. สภ. สมุทรปราการ ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับปราบปรามให้ราบคาบไปเลย ** พื้นที่ สภ. บางเสาธง ก็มียาเสพติดระบาดไปทั่วพื้นที่ โดยผู้ค้ารายใหญ่สั่งให้ลูกน้องเดินขายตามตรอกตามซอย ทำให้เกิดพวกขี้ยากลายเป็นโจรผู้ร้ายขึ้นมาทันที เที่ยวฉกชิงวิ่งราวทรัพย์บ้านไม่เว้นแต่ละวัน จึงขอฝากให้ พ.ต.อ. โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก. สภ. บางเสาธง ลงพื้นที่เพื่อไปตรวจสอบและจับกุมให้เด็ดขาด เพื่อขจัดทุกข์ให้ชาวบ้านในพื้นที่ด้วย 

 

** พื้นที่ สน. ร่มเกล้า เวลานี้เต็มไปด้วยยาเสพติดระบาดไปทั่วพื้นที่ โดยเฉพาะแก๊งค้ายาบ้าสั่งให้ลูกน้องเดินขายตามตรอกตามซอยทั้งกลางวันกลางคืน เวลาไม่มีเงินซื้อยาเสพติดก็จะก่ออาชญากรรมปล้นจี้ ทำร้ายคนในครอบครัว จึงขอฝากให้ พ.ต.อ. สมโภช ทองมูล ผกก. สน. ร่มเกล้า ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชา สืบจับแก๊งค้าให้หมดไปจากพื้นที่ด้วย 

 

** พื้นที่ สน. บุปผาราม มีชาวบ้านร้องเรียนมาเป็นประจำว่า มียาเสพติดแทบทุกชนิดระบาดทั่วพื้นที่ ก่อให้เกิดพวกขี้ยาเที่ยวฉกชิงวิ่งราวทรัพย์เป็นว่าเล่น จึงขอฝากให้ พ.ต.อ.  รัตน์เกล้า อาณานุการ ผกก. สน. บุปผาราม ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชา สืบจับปราบปรามให้หมดไปจากพื้นที่โดยเร็ว

 

 

 

 

** พื้นที่ สน. เทียนทะเล ก็มีผู้อยู่อาศัยและนักธุรกิจร้องเรียนมาเป็นประจำว่า มียาเสพติดระบาดทุกตรอกซอกซอย ก่อให้เกิดพวกขี้ยาที่สร้างความหวาดผวาให้กับคนในพื้นที่ เวลาไม่มีเงินซื้อยาเสพติดก็จะกลายเป็นโจรผู้ร้ายฉกชิงวิ่งราวทรัพย์ไม่เว้นแต่ละวัน จึงขอฝากให้ พ.ต.อ  ปัญญา กุลไทย ผกก. สน.เทียนทะเล  ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อการตรวจสอบว่าจริงอย่างที่ชาวบ้านเขาร้องเรียนมาหรือไม่

 

** พื้นที่ สน. สำเหร่ มีผู้ที่อยู่อาศัยและบรรดานักธุรกิจทั้งหลายร้องเรียนมาเป็นประจำว่า มียาเสพติดทุกชนิดระบาดไปทั่วพื้นที่ และมีพวกขี้ยาเที่ยวฉกชิงวิ่งราวทรัพย์กลางวันแสกๆ จึงขอฝากให้ พ.ต.อ. ธนา มะลิงาม ผกก. สน. สำเหร่ ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชา สืบจับทลายแก๊งค้ายาให้หมดสิ้นไป เพื่อขจัดทุกข์ให้คนในพื้นที่ด้วย

 

 

** โลหิตยังขาดแคลนเป็นจำนวนมาก โปรดบริจาคโลหิตให้กับสภากาชาดไทย เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ได้กุศลแรง

ไมโครโฟน