อาชญากรรม » คอลัมน์
รอบบ้านรอบเมือง
ไมโครโฟน : วันศุกร์ ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2567, 18.09 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
คอลัมน์ รอบบ้าน รอบเมือง ประจำวันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม 2567
วันที่๒๖.ส.ค.๒๕๖๗.เช้าปิดทองพระที่วัดกระเจียว.ต.งิ้ราย.อ.เมือง.จ.ลพบุรี.สำเร็จเรียบร้อย.กลางวันเดินทางมาปิดทองต่ออีกที่.วัดแดง.ต.ปากท่า.อ.ท่าเรือ.จ.พระนครศรีอยุธยา.สำเร็จเรียบร้อย.โมทนาบุญกับทุกท่านด้วย.แบ่งบุญกุศลให้ทุกท่านด้วย.ทุกรูป.ทุกนาม.ตลอดทั้งสามภพ.และผู้มีพระคุณทุกท่านด้วย.มรรค๔.ผล๔.นิพพาน๑.ด้วยกันทุกท่านเทอญ.
..........ขาดผู้นำ หรือกรรม ของประเทศ
เกิดอาเพศ หัวหาง วางตรงไหน
แก่จะตาย ไม่วาย โกยต่อไป
สุดเสียดาย อำนาจ ขาดคุณธรรม
..........ร้องกันโอย คนแพ้โวย ไม่ได้ไป
แฉกันใหญ่ ไม่นึกอาย คนเลือกสรรค์
หน้าทนไฟ ไม่สนใคร ตามใจกัน
วอนสวรรค์ ช่วยกลับใจ เพื่อไทยจริง
.....................เบญจรงค์....................
** ได้ใช้เงินดิจิทัลแน่! 10,000 บาท ก.ย.นี้ แต่เฉพาะกลุ่มเปราะบาง แล้วกลุ่มเปราะบางคือใคร? เริ่มแล้วกับโครงการเงินดิจิทัล โดยเริ่มกับกลุ่มเปราะบางก็คือผู้ที่มีรายได้น้อย ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ผู้สูงอายุ ผู้พิการ จำนวนรวมแล้ว 14.5 ล้านคน โดยจะได้รับเงิน 10,000 บาทเป็นกลุ่มแรก และระบุไว้ว่าผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐต้องยืนยันตัวตนเพื่อรับเงินดิจิทัล 10,000 บาทเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป โดยการลงทะเบียนผ่านแอพพิเคชั่นทางรัฐ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ได้มีการพูดถึงเรื่องเงินดิจิทัลนี้ด้วย ส่วนประชาชนที่เหลือจะเริ่มแจกในเดือนตุลาคมนี้ทันทีที่ระบบเสร็จสิ้น
** พบเครื่องสำอางประเภทแฮนด์สเปรย์มีสารเมทานอลเป็นส่วนผสม ล่าสุด อย. ได้ออกมาเปิดเผยว่าพบสารนี้จริงในแฮนด์สเปรย์ แอบลักลอบใช้ซึ่งเป็นสารห้ามใช้ที่สามารถดูดซึมทางผิวหนัง และลมหายใจได้ ก่อให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ จึงเกิดคำสั่งด่วนให้เรียกเก็บคืนทำลายผลิตภัณฑ์ และสั่งปิดโรงงานที่สมุทรสาครเป็นที่เรียบร้อย “ไมโครโฟน” ขอเตือนชาวบ้านหากใช้เครื่องสำอางประเภทดังกล่าวตรวจตราให้ดีก่อนใช้งาน และฝากชม อย.ที่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงทีช่วยให้ไม่เกิดอันตรายต่อประชาชน
** ผู้รอดชีวิตจากยาดองเถื่อนยอมรับ ไม่กลับไปดื่มอีกแล้ว เพราะหวิดตาบอด และยังต้องฟอกไต! เป็นเรื่องเตือนใจได้เป็นอย่างดีกับสิงห์สุราขาเมาทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นสุรายาดองยาอะไรต่างๆ นานๆ ถึงกับต้องผวากันเลยทีเดียวกับกรณีของหนุ่มรายนี้ที่ได้ดื่มยาดองเถื่อนเข้าไปจากซุ้มหทัยราษฎร์ 33 โชคดีที่รักษาทัน ฟอกไต 2 ครั้ง และยังมีผู้ป่วยอีก 42 คน ล่าสุดรักษาหายแล้ว 25 คน ด้านนิติเวชเผยผลชันสูตรผู้เสียชีวิต 5 คน พบเมทานอลในเลือด หนึ่งในผู้ป่วยเปิดใจกับทางสื่อว่าโดยปกติหลังเลิกงานจะทำการซื้อยาดอง 1 ขวด จากซุ้มดังกล่าวกลับไปดื่มที่ห้องพักของตนโดยตลอด 2 ปี ที่ดื่มมาก็ไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใดรสชาติก็เหมือนยาดองทั่วไป กระทั่งช่วงหลังพบว่ายาดองมีกลิ่นแอลกอฮอล์แรงกว่าปกติ กระทั่งเวลาต่อมามีอาการเวียนหัว และตามัว จึงนอนพัก แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล แพทย์สรุปผลว่าตรวจพบสารเมทานอลในเลือด หลังจากการรักษาได้กลับบ้านอาการถึงดีขึ้นตามลำดับ “ไมโครโฟน” ฝากพี่น้องชาวไทยอยู่ห่างไกลสิ่งอันตรายพวกนี้ให้ดีเพราะอาจทำให้ได้รับผลกระทบที่ตามมาอย่างคาดไม่ถึงก็เป็นได้
**คอข่าว คอลัมน์หมายเลข 7 ยังคงเจาะติดประเด็นสำนักงาน ป.ป.ช. ตรวจสอบกรณีมีผู้บุกรุกป่าสงวนเเห่งชาติ ป่าคำใหญ่เเละป่าคำขวาง จังหวัดร้อยเอ็ด โดยน้ำมือของนายทุนเเละชาวบ้านบางคน จึงเร่งสร้างเครือข่ายชาวบ้าน เพื่อป้องกันการบุกรุกป่าเพิ่มขึ้นในอนาคต ใน คอลัมน์หมายเลข 7 สะท้อนซากต้นพยอม อายุ 60-70 ปี เป็นหนึ่งในต้นไม้ใหญ่ กลางป่าสงวนเเห่งชาติป่าคำใหญ่เเละป่าคำขวาง อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด ที่ถูกผู้บุกรุกใช้รถเเทรกเตอร์โค่นล้ม นำไม้ไปขาย เมื่อ 7 เดือนที่ผ่านมา เเละทำให้พื้นที่กลายเป็นป่าเสื่อมโทรม เพื่อจับจองเป็นของตนเอง ป่าผืนนี้ถูกบุกรุกเพิ่มขึ้น 50 ไร่ นอกจากต้นพยอมเเล้ว ยังมีต้นพะยูงที่ถูกตัดโค่นจำนวนมาก เพราะผืนป่าอยู่กลางชุมชน ทำให้เข้าถึงง่าย มีเพียงถนนเป็นเขตกั้น เเละล้อมรอบด้วยทุ่งนา ปัจจุบันเหลือเนื้อที่ไม่ถึง 2,000 ไร่ จากเดิมที่มีเนื้อที่ประมาณ 17,431 ไร่ ในปี 2514 ชาวบ้านบอกว่าพบพฤติกรรมของนายทุน เข้ามาปลูกต้นยูคาลิปตัสเเละไผ่เเซมไว้ รอให้ต้นโต เสมือนมีการทำประโยชน์ในที่ดิน จากนั้นจึงนำรถเเทรกเตอร์ เเละรถแบ็กโฮ เข้าถางป่าจนราบในตอนกลางคืน สภาพพื้นที่ป่าเริ่มลดลง นั่นจึงทำให้ สำนักงาน ป.ป.ช. สนับสนุนการสร้างเครือข่ายชาวบ้านในการอนุรักษ์ป่าชุมชนที่เหลืออยู่ ส่วนพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม ภาครัฐอยู่ระหว่างจัดสรรให้ชาวบ้านทำกิน การป้องกันเป็นภารกิจสำคัญของสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อทำให้ป่าชุมชนไม่ถูกทำลาย โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ส่วนการจัดสรรที่ดินทำกินเขตป่าเสื่อมโทรม ต้องตรวจสอบคุณสมบัติผู้ได้รับสิทธิอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้กลุ่มนายทุนนอกพื้นที่ได้สิทธิทำกิน ในขณะที่ชาวบ้านยากจน อาศัยในเขตป่ามานาน กลับไม่ได้รับสิทธิ …แล้วใครควรจะได้ ?
** ป.ป.ช. ได้เผยแพร่ข้อมูลให้ประชาชนตื่นรู้ “ตระหนัก รับรู้ ร่วมแก้ปัญหาทุจริตประเทศไทย” ในภาพรวมของปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 มีคำกล่าวหาเข้ามายังคณะกรรมการ ป.ป.ช. จำนวน 9,254 เรื่อง โดยวงเงินงบประมาณที่มีการทุจริตตามคำกล่าวหาประจำปีงบประมาณ 2566 พบว่า มีมูลค่ารวมกว่า 26,247 ล้านบาท โดย 3 ลำดับ ประเภทคำกล่าวหาที่มีมูลค่าการทุจริตสูงสุด เรียงตามลำดับ ดังนี้ - การจัดซื้อจัดจ้าง มีตัวเลขมูลค่าการทุจริตกว่า 13,391 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 51.02 % -การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีตัวเลขมูลค่าการทุจริตกว่า 8,786 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 33.48 % -ประเภทยักยอก/เบียดบังเงิน มีตัวเลขมูลค่าการทุจริตกว่า 1,899 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 7.24 % จากข้อมูลสถิติคำกล่าวหาในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 มีแนวโน้มที่ลดลงเมื่อเทียบกับ คำกล่าวหาในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 และหากพิจารณาประเภทคดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดภายใน 5 ปีงบประมาณ พบว่า ส่วนใหญ่เป็นคดีประเภทการจัดซื้อจัดจ้างมากที่สุด ฟังแล้วดูแล้วคงไม่สบายใจกับปัญหาการทุจริตและความเสียหายที่ตามมา ประชาชนจึงต้อง “ตระหนัก รับรู้ ร่วมแก้ปัญหาทุจริตประเทศไทย”
** รู้วิธีที่แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ใช้หลอกผู้คน และการป้องกันตัวไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์เป็นกลุ่มอาชีพที่ใช้เทคนิคการตั้งข้อผูกพันและหลอกลวงผู้อื่นเพื่อได้รับประโยชน์ต่าง ๆ โดยมักจะมีวิธีการหลายรูปแบบเช่น การปลอมตัวเป็นตัวแทนจากบริษัทที่มีชื่อเสียง การใช้แอพพลิเคชั่นที่เป็นแอพสอดแนม แอพที่เป็นไวรัส การใช้เอไอแบบปลอมใบหน้าเหมือนจริงพร้อมเสียงพูด หรือการใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่นเพื่อให้เหมือนเป็นคนรู้จักของเหยื่อ เพื่อล่อให้เหยื่อตอบสนองต่อคำขอหรือข้อมูลที่ไม่เหมาะสม ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ: 1. การโทรออกมาจากหมายเลขที่ปลอมขึ้น แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์บางกลุ่มมักจะใช้เทคนิคการโทรออกมาจากหมายเลขที่ปลอมขึ้น โดยเครื่องมือสร้างเบอร์โทรปลอมแล้วโทรมาจากต่างประเทศ เพื่อหลอกลวงผู้รับโทรศัพท์ให้เชื่อว่าเป็นการโทรจากหน่วยงานหรือบริษัทที่น่าเชื่อถือ ยกตัวอย่าง การโทรจากหมายเลขที่แสดงเป็นหมายเลขทางการ หรือบริษัทชื่อดัง แอพชอปปิ้ง เพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อหรือคล้อยตาม เมื่อทำสำเร็จก็จะเข้าสู่กระบวนการดูดเงินจากโทรศัพท์ของเหยื่อ 2. การปลอมตัวเป็นตัวแทนจากบริษัทที่มีชื่อเสียง แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์อาจปลอมตัวเป็นพนักงานหรือตัวแทนจากบริษัทที่มีชื่อเสียง เช่น บริษัทที่ให้บริการธุรกิจการเงินหรือประกันภัย ผู้รับโทรศัพท์อาจถูกขอข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขบัตรประชาชน หมายเลขบัตรเครดิต หรือข้อมูลการเงินอื่น ๆ ปัจจุบันนี้เราทราบดีว่ามีกลุ่มคนลูกจ้างในองค์กรของรัฐ รัฐวิสาหกิจ บริษัทเอกชนที่ทำงานภายในแอบขายข้อมูลส่วนบุคคลให้กับแก๊งค์คนร้าย เพื่อนำไปก่ออาชญากรรม และที่หนักไปกว่านั้นคือ เมื่อเหยื่อรับโทรศัพท์คนร้ายจะรู้จักรชื่อ นามสกุล จริงของเหยื่อ รู้แม้กระทั่งบ้านเลขที่ เลขที่โฉนด เอกสารราชการ เบอร์บัญชีถูกต้องทุกอย่าง เพราะพวกเขาได้มาจากคนวงในที่ขายข้อมูลให้ทำให้มีความน่าเชื่อถืออย่างมากและแทบจะเชื่อสนิทใจว่า เป็นเจ้าหน้าที่รัฐจริงๆ เพราะรู้ข้อมูลเราทุกอย่าง 3. การใช้ข้อมูลส่วนตัวของบุคคลอื่น แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์อาจใช้ข้อมูลส่วนตัวของบุคคลอื่น เช่น ข้อมูลจากสื่อสังคมออนไลน์หรือฐานข้อมูลอื่น ๆ เพื่อจำลองตัวเป็นคนรู้จักของเหยื่อ และใช้เทคนิคนี้เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับเหยื่อว่าการโทรมานั้นมาจากบุคคลที่เคยรู้จักหรือเชื่อถือได้ เช่น เพื่อนสนิทที่เราคุ้นเคย เพื่อนเก่าที่มหาวิทยาลัย เพื่อนที่ทำงานเก่า หรือญาติใกล้ชิด โดยใช้ฐานข้อมูลจากแอพยอดนิยม เช่น เฟสบุ๊ค อินสตราแกรม ไลน์ และอื่นๆ 4. สร้างผลกระทบให้เหยื่อรูสึกกลัวและหวั่นไหวในจิตใจ คนร้ายจะสร้างความหวาดกลัวกับเหยื่อโดยสร้างเรื่องว่า ตัวผู้เสียหายไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการผิดกฏหมาย อาจได้รับโทษทางอาญา หากไม่ดำเนินการตามที่คนร้ายบอก หากใครรู้ไม่เท่าทันและหลงเชื่อก็จะต้องสูญเสียทรัพย์และบางครั้งก็ไม่สามารถตามเอาคืนกลับมาได้ 5. หลอกล่อด้วยผลประโยชน์เพื่อให้คนที่อยากได้ติดกับดัก คนร้ายมักปลอมตัวมาเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทเอกน หรือรัฐ โดยสร้างเรื่องเชิญชวนเหยื่อให้เข้ามารับรางวัลง่ายๆ หรือหารายได้เสริมด้วยการร่วมเล่น เกมส์ เป็นนายหน้า ชวนลงทุน โดยวิธีคนร้ายคือจะหลอกเหยื่อให้โอนเงินเบื้องต้นไปให้ก่อน และจะสร้างเงื่อนไขให้โอนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ วิธีสังเกตุก็คือพวกเขาจะให้เราแอดไลน์เพื่อเพิ่มเพื่อนเมื่อเข้าไปอยู่ในไลน์ จะพบว่าเป็นไลน์กลุ่มและคนในกลุ่มจะเข้ามาเชียร์ให้ลงทุนและมักสร้างละครว่า ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ผลตอบแทนสูงกันไปหลายคนแล้วทั้งที่จริงๆกลุ่มเพื่อนในกไลน์นั้นเป็นบัญชีปลอมทั้งหมดที่คนร้ายทำเพียงคนเดียว วิธีการป้องกัน เพื่อป้องกันตัวจากการถูกหลอกลวงโดยแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ควรดำเนินการตามขั้นตอนและแนวทางดังนี้: อย่าตอบโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่รู้จักหรือไม่นับถือได้: หากได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่รู้จัก หรือไม่แน่ใจว่าเป็นหมายเลขที่น่าเชื่อถือ ควรปฏิเสธการรับโทรศัพท์หรือปิดการติดต่อเพื่อป้องกันการโดนหลอกลวง อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวผ่านทางโทรศัพท์โดยตรงโดยไม่ได้ตรวจสอบความถูกต้องของเจ้าหน้าที่: หากมีการโทรเข้ามาขอข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อมูลบัญชีธนาคาร หรือข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ ควรทำการตรวจสอบตัวตนของเจ้าหน้าที่ และอย่าให้ข้อมูลส่วนตัวผ่านทางโทรศัพท์โดยตรง ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนที่จะให้ข้อมูลส่วนตัวใดๆ ออกไป: ก่อนที่จะให้ข้อมูลส่วนตัวใด ๆ ให้ดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลให้เรียบร้อย เช่น โทรสอบถามกับหน่วยงานที่เชื่อถือได้หรือตรวจสอบผ่านช่องทางที่มีความปลอดภัย การรายงานหมายเลขที่เสียหาย: หากเป็นเหยื่อของการหลอกลวง ควรรายงานเหตุการณ์นี้ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สถานีตำรวจหรือหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อให้สามารถดำเนินการต่อไปเพื่อป้องกันผู้อื่นจากการโดนหลอกลวงเช่นเดียวกัน ติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ ไวรัสไว้ในโทรศัพท์เพื่อช่วยกรองได้อีกชั้นหนึ่ง โปรแกรมแอนตี้ไวรัสเป็นโปรแกรมที่มีความจำเป็นและในโทรศัพท์มือถือควรต้องมีติดเครื่องไว้ แนะนำให้ซื้อในระบบ play store หรือ app store ซึ่งปลอดภัยและมีความน่าเชื่อถือสูง มันสามารถป้องกันโปรแกรมสอดแนมที่คนร้ายหลอกให้เรากดคลิกลิ้งแล้วโหลดเข้าเครื่องได้ ซึ่งโปรแกรมจะแจ้งเตือนและทำการบล็อคทันที การป้องกันตัวจากการหลอกลวงโดยแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ เป็นสิ่งที่สำคัญและควรทำการศึกษาและเข้าใจเทคนิคต่าง ๆ ที่อาจถูกใช้ในการหลอกลวง เพื่อป้องกันตัวเองและครอบครัวให้ดีที่สุด
** กทม. จัดระบบรับมือน้ำท่วมร่วมกว่า 2 ปี เตรียมพร้อมรับน้ำเหนือเข้ากรุง2 ก.ย.นี้ นำโดย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. นำทีมตรวจแม่น้ำเจ้าพระยาเตรียมรับมวลน้ำเหนือ คาดการณ์ว่าน้ำจะมาถึงกทม.ภายใน 2 ก.ย. นี้ แต่ทางผู้ว่าฯ ได้ทำการจัดเตรียมกระสอบทราย 1.5 ล้าน มากั้นตามจุดและชุมชนที่เสี่ยงถูกน้ำทะลักเข้าเสียหายตามบ้านเรือนแล้ว ย้ำอีกครั้งว่าน้ำน้อยไม่เหมือนตอนปี 54 แน่นอน อย่างไรก็ต้องติดตามดูกันต่อไป ขอให้ประชาชนทุกคนคอยเฝ้าระวังโดยด่วน
** ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ออกมายืนยัน กทม.ไม่น้ำท่วมเหมือนปี 54 ! เป็นเรื่องสะเทือนขวัญพี่น้องชาวกรุงฯกันเลยทีเดียว ที่ต่อจากเหตุการณ์ที่หน้าเห็นใจที่ประชาชนทางภาคเหนือที่มีน้ำท่วมขังเป็นจำนวนมากซึ่งทำให้บ้านเรือนหลายหลังเสียหายไปตามๆกัน คราวนี้ชาวกรุงฯนอนหวั่นๆกันอยู่ทุกคืน เพราะไม่รู้ว่าน้ำจะมาเยือนเมื่อไหร่ กระทั่ง ผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ออกมายืนยันแล้วน้ำไม่ท่วมเหมือนตอนปี 54 แน่นอน เพราะว่าน้ำในเขื่อนยังไม่เต็ม เขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำประมาณ 50% และเขื่อนศิริกิตอีกประมาณ 70% เพราะฉะนั้นแล้วยังสามารถรับน้ำได้อยู่ ในตอนปี 54 ที่เกิดน้ำท่วมหนักนั้นเขื่อนเต็มทั้งสองเขื่อนเลยต้องปล่อยน้ำออกทั้งหมด อีกอย่างหนึ่งก็คือน้ำที่ไหลลงมาจากทางภาคเหนือนั้นไม่ได้มีปริมาณเยอะเกินความจุที่จะรับได้ และสุดท้ายได้นำกระสอบทรายไว้อุดตามจุดต่างๆเรียบร้อย อย่างไรนั้นต้องตามติดกันต่อไปแต่ขอให้น้ำจงอย่าท่วมซ้ำรอยเหตุการณ์ปี 54 อีกเลย
** พื้นที่ สภ. บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ มีชาวบ้านร้องเรียนมาว่า มียาเสพติดระบาดทั่วทุกพื้นที่ ฝากให้ พ.ต.อ. ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก. สภ. บางพลี ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาให้ปราบปรามให้สิ้นซาก เพื่อขจัดทุกข์ให้คนในพื้นที่ด้วย
** พื้นที่ สภ. เมืองสมุทรสงคราม เวลานี้มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก มีคนในพื้นที่ร้องเรียนมาว่า ยาเสพติดระบาดทุกตรอกซอกซอย ก่อให้เกิดพวกขี้ยาเวลาไม่มีเงินซื้อยาเสพก็จะเที่ยวฉกชิงวิ่งราวทรัพย์ชาวบ้านเป็นประจำ ฝากให้ พ.ต.อ. ศยาม อินทร์สุวรรณ ผกก. สภ. เมืองสมุทรสงคราม ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อการตรวจสอบอย่างจริงจัง และปราบปรามให้หมดไปจากพื้นที่ด้วย
** พื้นที่ สภ. หมวกเหล็ก มีชาวบ้านร้องเรียนมาว่า ยาเสพติดแทบทุกชนิดระบาดทั่วพื้นที่ก่อให้เกิดพวกขี้ยา เที่ยวชิงทรัพย์ชาวบ้านในยามค่ำคืน ขอฝากให้ พ.ต.อ. นรินทร์ เรืองศรี ผกก. สภ. หมวกเหล็ก ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อการตรวจสอบ และจับกุมแก๊งค้ายาทุกแก๊งเพื่อขจัดทุกข์ให้กับคนในพื้นที่ด้วย
** พื้นที่ สน. ห้วยขวาง มีชาวบ้านแจ้งเบาะแสมาว่า มียาเสพติดระบาดหลายชนิดทั่วพื้นที่ แก๊งค้ายาบ้าสั่งให้ลูกน้องเดินขายตามตรอกตามซอยกัน เย้ยฟ้าท้ากฎหมาย สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ขอฝากให้ พ.ต.อ. ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก. สน. ห้วยขวาง ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาไปปราบปรามให้สิ้นซากไปจากพื้นที่ด้วย
** พื้นที่ สน. สายไหม พื้นที่นี้มียาเสพติดแทบทุกชนิดระบาดทั่วพื้นที่ ขอฝากให้ พ.ต.อ. รังสรรค์ สอนสงห์ ผกก. สน. สายไหม ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อทำการปราบปรามให้เด็ดขาดไปเลย
** พื้นที่ สน. บางกอกใหญ่ ก็เช่นเดียวกัน มีชาวบ้านร้องเรียนมาตลอดว่า มียาบ้าระบาดทั่วพื้นที่ก่อให้เกิดพวกขี้ยาเที่ยวชิงทรัพย์ทำให้ชาวบ้าน ขอฝากให้ พ.ต.อ. เตชินท์ กาญจนคลอด ผกก. สน. บางกอกใหญ่ ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาปราบปรามให้สิ้นซากให้หมดไปจากพื้นที่ด้วย
** มีสื่อมวลชน และชาวบ้าน ฝากชมมาว่า พ.ต.ท. ไพโรจน์ ทาสีดา รอง ผกก. สน. ราษฎร์บูรณะ เป็นนายตำรวจน้ำดีอีกคนหนึ่งของ บช.น. ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความขยันขันแข็ง จนได้รับรางวัลดีเด่นมามากมาย แถมซ้ำยังเป็นผู้ที่มีมนุษย์สัมพันธ์อันยอดเยี่ยมอีกด้วย
** “ไม่มีมิตรแท้ และศรัตรูถาวรในหมู่นักการเมือง”
** บริจาคปัจจัยและโลงศพให้กับศพผู้ไร้ญาติได้ที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และมูลนิธิปอเต็กตึ๊ง ได้กุศลดี
ไมโครโฟน
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » อาชญากรรม » คอลัมน์
คอลัมน์ล่าสุด
- ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2559
ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2559 07:02 น.
- เกียรติตำรวจ... 05:59 น.