คอลัมน์ รอบบ้าน รอบเมือง ประจำวันเสาร์ที่  20 กันยายน  2568

.....นับถอยหลัง ฝั่งมาร พลาญประชา

ถึงเวลา  ชี้ชะตา ตามกรรมหมาย

ทั้งอินโด  และเนปาล  ต้านไม่ไหว

เหตุปัจจัย ไร้ผู้นำ ทำตามจริง             

.....คอยดูเค้า วนวก งกเรื่องบาป

ให้คนกราบ แล้วภูมิใจ ใครฉิบหาย

ออกกฏหมู่  ทำลายล้าง  กลางจิตใจ

คิวต่อไป  ไทยแลนด์  แดนเผาขน

 

...................เบญจรงค์....................

 

** นายกออกมาบอก  4 เดือนเศรษฐกิจจะต้องไปข้างหน้า “ มีรูมีหนู” ผลักดันอย่างเต็มที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีแถลงหลังจากประชุมหารือกับสภาหอการค้าไทย โดยออกมาย้ำว่า ตน และทีมเศรษฐกิจมีความพยายามอย่างยิ่งที่จะไปพบกับภาคเอกชนก่อนที่จะเข้าบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อที่จะได้รับฟังข้อเสนอแนะ และปัญหาที่เกิดขึ้น ที่ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลได้สนับสนุน หรือแก้ไข และจะรวบรวมข้อมูลให้มากที่สุดเพื่อเวลาที่จะเข้าไปทำงานจะได้ดำเนินทุกอย่างขับเคลื่อนไปด้วยความรวดเร็ว นายอนุทิน ยังได้ยืนยันอีกว่า ในช่วงระยะเวลา 4 เดือน เศรษฐกิจก็ยังคงไม่ถอยหลังครับเรามีเวลาไม่นานเป็นสัญญาที่เซ็นไว้คือ 4 เดือนยุบสภา หลังจากการแถลงนโยบายจะเกิดขึ้นเมื่อทางคณะรัฐมนตรีได้ถวายสัตย์ปฏิญาณแล้ว โดยนายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกว่า ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต้องพยายามอย่างเต็มที่ ถ้าผลักดันนโยบายนี้ออกไปจะเป็นนโยบายที่ตนไม่ได้คิดเอง อาจจะเป็นนโยบายของพรรคอื่น คนอื่น ถ้าเกิดประโยชน์กับประเทศประชาชนเวลามีอยู่แค่นี้มัวแต่ไปคิดว่ากลัวใครดีเด่นดัง หรือได้เครดิต ถ้าทุกคนได้เครดิตถ้าสำเร็จคนที่คิดโครงการนั้นก็ได้ตนในฐานะผู้ผลักดันก็ได้ วินวิน สิ่งที่สุดคือทุกคนต้องวินไม่ใช่คนหนึ่งชนะคนหนึ่งแพ้ก็นำไปสู่ความขัดแย้งหนึ่งซึ่งกัน และวินทั้งคู่ไม่ต้องสนใจใครจะได้เครดิตแต่ประชาชนได้ไปหมดมีหนูมีรู นายกอนุทิน กล่าว

 

 

** ไปสมัครตอนนี้ SMS ไม่ได้ทำการกดสมัครแต่กลับถูกหักเงิน กสทช. ดำเนินการอย่างเอาจริงปรับค่ายวันละ 100,000 บาท ผู้บริโภคไทยทนกันไม่ไหวลุกขึ้นร้องเรียน “กสทช.” หลังจากเจอปัญหาเดิมๆ ซ้ำซากมานานหลายปีทั้งสัญญาณไม่เสถียร แพคเกจราคามหาโหดแถมยังถูกตัดเงินค่าบริการ SMS ทั้งที่ไม่ได้กดสมัครเองอีกด้วย โดยล่าสุด “กสทช.” ไม่นิ่งเฉยกับกรณีที่เกิดขึ้นออกกฎควบคุมเข้มบังคับค่ายมือถือคืนเงินลูกค้าทุกกรณีที่มีการตัดเงินโดยไม่สมัครใจหากฝ่าฝืนถูกปรับ 100,000 บาท/วัน งานนี้ความทุกข์ร้อนของคนใช้มือถือไทยจะได้ถูกแก้ไขกันสักที และไม่ต้องทนกับความไม่เป็นธรรมอีกต่อไป ใครที่เจอเหตุการณ์ถูกตัดเงินเช่นนี้รีบตรวจสอบบิล และยื่นร้องเรียนได้ทันที

 

 

** กัมพูชาออกมาโต้ไทย ละเมิดอธิปไตยใช้ก๊าซน้ำตา จากกรณีของการปะทะกันระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงไม่จบสิ้นลงง่ายๆ ลามมาถึงสถานการณ์ล่าสุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ออกมากล่าวอ้างว่า ทหารไทยได้ละเมิดอธิปไทยของกัมพูชา โดยได้มีการบุกเข้าไปยังหมู่บ้านใน จ.บ็อนเตียย์เมียนเจ็ย ของประเทศกัมพูชา และได้ใช้ก๊าซน้ำตารวมไปถึงกระสุนยางเข้าโจมตีชาวบ้านของกัมพูชาทำให้ชาวบ้านเกิดความโกรธแค้น และไม่พอใจเป็นอย่างมาก ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดตามแนวชายแดน และยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นอีกด้วย ทางด้านสื่อหลายๆ แหล่งในกัมพูชาก็ได้ออกมนำเสนอข่าวนี้ให้กับประชาชนในประเทศของตนเองรับรู้ แต่ในความเป็นจริงนั้นทางด้านกัมพูชาได้มีการละเมิดข้อหยุดยิง และยั่วยุ สารพัดรูปแบบลักลอบวางระเบิดทุ่นสังหาร PMN-2 และอีกมากมาย “ไมโครโฟน” จึงอยากฝากให้ชาวกัมพูชาหยุดการกระทำเช่นนี้เถิดมันไม่เกิดผลดีต่อประเทศตัวเอง และประเทศคนอื่นหนำซ้ำยังทำให้หลายๆ ประเทศทั่วโลกเขารับรู้พฤติกรรมที่กำลังทำอยู่อีกด้วย!!

 

 

** ตกงานแล้วตกงานอีก แรงงานชาวกัมพูชาตกงานกันมหาศาลหลังจากกลับประเทศ และไม่มีงานรองรับ ยันยังตกงานอยู่อีกมากกว่าครึ่งล้านคน หลายๆ คนยังคงจำกันได้ดีถึงเหตุการณ์การแห่กันกลับประเทศของแรงงานกัมพูชาที่ผ่านมาไม่นานนี้ เนื่องจากว่ากลัวจะไม่มีงานทำที่ประเทศไทย และรู้สึกไม่ปลอดภัยหลังจากเกิดสงครามชายแดนไทย-กัมพูชา โดยทางการของกัมพูชาได้ประกาศชัดว่ากลับประเทศยังไงก็มีงานให้ทำแน่นอน จึงทำให้แรงงานกัมพูชาที่ทำงานอยู่ในไทยก่อนหน้านี้รวมตัวกันเดินทางกลับประเทศกันยกโขยง จนผ่านมาจวบจนวันนี้ สำนักข่าว Kiripost ของทางกัมพูชารายงานถึงความยากลำบากของชาวกัมพูชาที่หลังจากได้เดินทางออกไปจากไทยแล้วกลับพบว่าไม่มีงานรองรับจริงอย่างที่กล่าวอ้าง และอีกหลายแสนคนยังคงตกงานอย่างยากลำบาก CDRI ได้ออกมาเตือนว่าหากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ความยากจนในหมู่ครัวเรือนของกัมพูชาจะเพิ่มขึ้นจาก 30% มากไปถึง 50% เลยทีเดียว และอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจหลายๆ ภาคส่วนอีกด้วย เห็นแบบนี้แล้วก็น่าเห็นใจแรงงานชั้นผู้น้อยที่ถูกลวงให้กลับไปเจอกับสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นนี้

 

 

** อายัด บัญชี กันเป็นว่าเล่น จากข่าวสารช่วงนี้ที่ถูกส่งต่อกันอย่างแพร่หลายบนแพตฟอร์มต่างๆ เกี่ยวกับบัญชีที่ถูกอายัดหลังพบว่าเป็นลูกหลงของบัญชีม้า ทำให้เกิดความกังวลกันเป็นอย่างมากหลายคนถึงกับไปถอนเงินออกจนหมดบัญชี เนื่องจากกลัวไม่มีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวันจนทำให้เกิดเหตุการณ์เงินสดไม่เพียงพอให้ถอน ที่ผ่านมานั้น ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) และธนาคารพาณิชย์ (ธพ.) ได้ยกระดับการจัดการบัญชีม้า โดยขยายขอบเขตการติดตามเส้นทางเงินให้กว้างขึ้น เพื่อกักเงินที่โยงกับบัญชีม้ามาคืนผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด ทางด้านการอายัดบัญชีนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อบัญชีถูกใช้งานดังนี้ หากผู้ใดเป็นเหยื่อและถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินสามารถไปแจ้งตำรวจได้ว่าถูกหลอก เพื่อที่จะให้ทางตำรวจดำเนินการช่วยเหลือกันต่อไป

 

 

** ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้เข้าพบนายกเทศมนตรี-ส.ว. แทมมี ดักเวิร์ธ เพื่อการหารือร่วม พัฒนาเมือง ผู้ว่ากทม. ได้ไปเยือนยังวอชิงตัน ดี.ซี ก่อนเข้าพบนายกรัฐมนตรี และ ส.ว. แทมมี ดักเวิร์ธ ร่วมกันหารือพัฒนาเมือง โดย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครพร้อมด้วย นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางเข้าร่วมกิจกรรมและการประชุมหลายวาระหลังจากการเข้าร่วมพิธีเปิดเทศกาล Sawasdee Dc Thai Festival 2025  ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ก่อนได้เข้าเยี่ยมคารวะ นางมิวเรียล บาวเซอร์ นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อทำการหารือเกี่ยวกับการบริหารจัดการเมืองโดย ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้เน้นย้ำถึงความท้าทายที่สำคัญของกรุงเทพมหานครในการพัฒนา กลุ่มคุณภาพชีวิตของประชาชนการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะและด้านการศึกษาซึ่งนี่เป็นพื้นฐานสำคัญในการลดความไม่เท่าเทียมกันในสังคมขณะที่นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูเมืองทั้งในด้านเศรษฐกิจและการศึกษาหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา และยังหารือถึงกิจกรรมการเฉลิมฉลองครบรอบ 250 ปีของการก่อตั้งสหรัฐอเมริกาในปีพุทธศักราช 2569 พร้อมกันนี้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้ส่งมอบเสาชิงช้าจำลองขนาด 170 เซนติเมตรอย่างเป็นทางการซึ่งได้จัดส่งมายังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.แล้วตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2565 เพื่อเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 60 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์พี่น้องระหว่างกรุงเทพฯ และกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยภารกิจของผู้ว่าฯ ในการเดินทางไปเยือนครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างกรุงเทพมหานครและกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการ พัฒนาเมือง นโยบายทางสังคม และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม

 

 

** พื้นที่ สภ. พนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา  มีชาวบ้านร้องเรียนมาว่า มีการเล่นพนันกันทั่วพื้นที่   ทำให้ก่อเกิดอาชญากรรมไม่เว้นแต่ละวัน ขอฝากให้ พ.ต.อ.   พิสิษฐ์ธัช นาคชัยวัฒนา ผกก. สภ. พนมสารคาม  สั่งการไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาปราบปรามแก๊งเล่นการพนันให้หมดไปจากพื้นที่โดยเร็ว

 

 

** พื้นที่ สภ.  บางปะกง  มีชาวบ้านร้องเรียนมาว่า มียาเสพติดระบาดไปทั่วทุกตรอกซอกซอย ก่อให้เกิดโจรผู้ร้ายเที่ยวตะเวนลักทรัพย์ชาวบ้านไม่เว้นแต่ละวัน  ขอฝากให้ พ.ต.อ. พงศ์สัณห์ มีศรี ผกก. สภ.บางปะกง   ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาไปตรวจสอบ และปราบปรามแก๊งยาเสพติดให้สิ้นซาก เพื่อขจัดทุกข์ให้ชาวบ้านในพื้นที่ด้วย

 

 

** พื้นที่ สน. ประชาชื่น มีชาวบ้านร้องเรียนมาว่า การจราจรติดขัดในช่วงเย็น และช่วงเช้าทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนการจราจรติดขัดอย่างหนักในช่วงนี้ ขอฝากให้ พ.ต.อ.  สัญญา อุบลวิรัตนา ผกก. สน.  ประชาชื่น  สั่งการไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาช่วยเร่งระบายการจราจรในช่วงเวลาเร่งด่วนให้เกิดความคล่องตัวด้วย

 

 

** พื้นที่ สน. ตลิ่งชัน มีชาวบ้านร้องเรียนมาว่า มียาเสพติดระบาดในพื้นที่ ผู้ค้าสั่งให้ลูกน้องเดินขายยาบ้ากันทั้งกลางวันและกลางคืน ขอฝากให้ พ.ต.อ. มนต์ชัย อรุณส่องแสงดี  ผกก. สน. ตลิ่งชัน  สั่งการไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาลงไปตรวจสอบว่าจริงอย่างที่ชาวบ้านเขาร้องเรียนมาหรือไม่

 

** พื้นที่ สน. บุคคโล   มีชาวบ้าน และสื่อมวลชนร้องเรียนมาว่า มีแก๊งอันธพาลขี่จักรยานเสียงดังช่วงกลางคืนจนชาวบ้านนอนไม่หลับ แถมซ้ำยังมีแก๊งค้ายาเสพติดก่ออาชญากรรมในพื้นที่ด้วย ขอฝากให้ พ.ต.อ. ฉัฐกิตติ์ ผดุงจันทน์ธนัย  ผกก. สน. บุคคโล    สั่งการไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาลงพื้นที่ไปตรวจสอบ และปราบปรามให้เด็ดขาดให้หมดไปจากพื้นที่ด้วย

 

**  พื้นที่ สน. ปากคลองสาน  มีชาวบ้านและสื่อมวลชนชื่นชมเจ้าหน้าที่ฝ่ายจราจร  จัดระเบียบการจอดรถ รับส่งผู้โดยสาร ตรวจสอบรถผิดกฎหมาย และแท็กซี่ที่ไม่กดมิเตอร์ ขอฝากให้ พ.ต.อ. ปิยะกรณ์ ศรีวันทา  ผกก. สน. ปากคลองสาน เลื่อนขั้นและปรับอัตราเงินเดือนให้ผู้บังคับบัญชาในการขยันออกตรวจจับด้วย

 

** โลหิตยังขาดแคลนเป็นจำนวนมาก โปรดบริจาคโลหิตให้กับสภากาชาดไทย เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ได้กุศลแรง

 

ไมโครโฟน