คอลัมน์ รอบบ้าน รอบเมือง ประจำวันเสาร์ที่  25 ตุลาคม  2568

.......ขอรำลึก นึกพระคุณ มหาราช

ฝ่าพระบาท พระเคยหนุน จุลสยาม

พระปิยะ ภูมิพล สองพระนาม

กษัตริย์ราม จุติแคว้น แดนพระพรหม

.......เดือนรฤก ตรึกฟ้า นภาสรร

คุณพระนั้น ประดับจิต พินิจมั่น

พระผู้สร้าง ผู้ให้ ไร้ขีดกั้น

ขอบุญท่าน ขจรไกล คู่ไทยเอง

...............เบญจรงค์...............

 

** สายปาร์ตี้เฮสนั่น ผับปิดตีสี่ทุกที่ทั่วไทย ภายในเดือนมกราคม 69 พร้อมปลดล็อคขายแอลกอฮอล์ 14.00-17.00 น. นายกฯ อนุทิน สั่งลุย คาดเก็บภาษีเพิ่มได้หลายแสนล้าน ทำเอาสายปาร์ตี้สายเที่ยวกินดื่มร้องเฮกับข่าวนี้ เมื่อ อนุทิน สั่งลุยยกเลิกโซนนิ่งแอลกอฮอล์ และให้ผับเปิดได้ถึงตีสี่ทุกที่ทั่วไทยตั้งเป้าจบใน 4 เดือนก่อนยุบสภา หรือช่วงมกราคม 2569 แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ได้ออกมาเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันหารือเพื่อยกเลิกการโซนนิ่งพื้นที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้เปิดกว้างขายได้ทั่วประเทศ และขยายเวลาเปิดสถานบริการถึง เวลา 04.00 น. จากปัจจุบันที่เปิดให้บริการได้ถึง 02.00 น. และยังจะมีการปรับเงื่อนไขสำหรับสถานบริการให้มีความสะดวกสบายมากขึ้นจากเดิมที่มีความจำเป็นต้องขอใบอนุญาตสถานบริการให้เปลี่ยนเป็นขึ้นทะเบียนสถานบริการเท่านั้น คาดว่ามาตรการนี้จะทำให้สามสามารถเก็บภาษีได้หลายแสนล้านบาท ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี สำหรับสายดื่มกิน แต่บางกลุ่มบางเสียงก็กลับออกมาบอกว่าอาจเป็นภาระสำหรับผู้อยู่ใกล้เคียงสถานบันเทิงหรือไม่ หรือการกระทำเช่นนี้อาจกระตุ้นให้มีการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวมากขึ้น อาจเกิดอุบัติเหตุได้ “ไมโครโฟน”  อย่างไรก็ตามคงจะต้องดูสถานการณ์ต่อไปว่าเมื่อออกนโยบายนี้แล้วสังคมจะเป็นเช่นไร

 

 

** ผลสำรวจของคนไทยกว่า 40% ต้องทำงานจนแก่ใช้หนี้ ไม่มีเงินออม จากตัวเลขในปี 2567 พบว่าผู้สูงอายุไทยเกือบ 4 ใน 10 ต้องทำงานแม้ว่าจะอยู่ในวัยเกษียณทำให้สะท้อนถึงความไม่มั่นคงของการเงิน โดยมีค่าใช้จ่ายหลักคือ ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพซึ่งครัวเรือนที่มีผู้สูงอายุจะมีค่าใช้จ่ายตรงนี้สูงกว่าครัวเรือนทั่วไปถึง 48% และสิ่งที่น่ากังวลก็คือ แม้ว่าจะเข้าสู่วัยเกษียณแล้วผู้สูงอายุกว่า 42.7% ยังคงมีหนี้สินเฉลี่ยกว่า 130,000 บาทต่อคน และอีกเกือบครึ่งหนึ่ง 44% เงินออมเลยทำให้จะต้องหารายได้จากการทำงาน หรือสวัสดิการของรัฐเพื่อประคองใช้ชีวิต จากผลสำรวจทั้งหมดทำให้พบว่าคนรุ่นใหม่ต้องเตรียมพร้อมอย่างไรหากถึงวัยเกษียณ หรืออยากขอฝากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยพัฒนาสวัสดิการของผู้สูงอายุ เพื่อให้ประชาชนไทยไม่ต้องตกอยู่ในสภาวะลำบากเช่นนี้สู่** หยุดเสียเถิดการเผา ไม่ว่าจะเป็นการเผาขยะ เผาป่าไม้ หรือรวมไปถึงการเผาอ้อย ล่าสุดรัฐบาลเร่งอ้อยเผาไม่เกิน 15% พร้อมรับซื้อใบอ้อยเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ปัญหาของฝุ่น PM 2.5 วนกลับมาทุกปีโดยเฉพาะช่วงปลายปีนี้ไปจะต้องรับมือกับฝุ่นแบบเลี่ยงไม่ได้ หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญก็คือการเผาในพื้นที่เกษตร โดยเฉพาะไร่อ้อยที่ถูกจับตาอย่างหนัก ปี 2568 รัฐบาลจึงเดินหน้ามาตรการเชิงเศรษฐศาสตร์เพื่อหวังลดต้นตอฝุ่นพิษอย่างจริงจัง โดยตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เมื่อ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ภาคเกษตรถูกกำหนดให้ลดการเผา และนำเศษวัสดุเหลือใช้กลับมาเพิ่มมูลค่าพร้อมใช้แรงจูงใจทางเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดการไม่เผา เป้าหมายคือการหยุดไฟ ดับฝุ่นละออง สร้างการจัดการเศษวัสดุจากเกษตรกร “ไมโครโฟน” ก็ถือว่าขอให้โครงการนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีเพื่อที่ประชาชนไทยจะได้ไม่ต้องรับฝุ่นควันพิษเข้าสู่ปอด

 

 

 

คุณพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ไวยาวัจกรวัดสระเกศ อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เชิญชวนพุทธศาสนิกชนมาร่วมเขียนชื่อ-นามสกุล บนผ้าแดงมงคล ณ ศาลาบำเพ็ญกุศล ๒  วัดสระเกศฯ เพื่ออัญเชิญขึ้นห่มบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ณ พระเจดีย์บรมบรรพต (ภูเขาทอง) เปิดให้เขียนชื่อ-นามสกุล ตั้งแต่เวลา 7.00-21.00 น. ไปจนถึงพิธีอัญเชิญขึ้นห่มบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ในวันพุธที่ 29 ตุลาคม 2568 เนื่องในงานเทศกาลประจำปีวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-7 พ.ย 2568 เพื่อร่วมสร้างบุญใหญ่สืบสานประเพณีอันงดงามแห่งพุทธศาสนา

 

 

** คนละครึ่งพลัสลงทะเบียนแล้ว แต่กลับมีผู้ได้รับสิทธิ์จำนวนหนึ่ง ขายสิทธิ์ วอนโซเชียล รัฐบาลออกเตือนอย่าหาทำ มีโทษหนักถึงขั้นจำคุก จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อความผ่านโซเชียลเรื่องการขายสิทธิ์ “คนละครึ่งพลัส” ล่าสุด นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลขอย้ำเตือนประชาชนที่ได้รับสิทธิ์คนละครึ่งพลัส แล้วนำมาขายสิทธิ์ให้ผู้อื่น และร้านค้าหรือกลุ่มร้านค้าร่วมมือกับผู้ได้รับสิทธิ์คนละครึ่งพลัส ใช้สิทธิ์โดยไม่มีการซื้อขายสินค้าจริง เป็นการกระทำความผิดฐานการฉ้อโกงมีโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และจะทำให้ถูกระงับสิทธิ์ไม่ให้เข้าร่วมโครงการอื่นของรัฐบาล รวมไปถึงจะต้องคืนเงินให้รัฐบาลด้วย จึงอยากขอฝากเตือนผู้ที่กำลังกระทำเช่นนี้ นอกจากจะเสี่ยงต่อการได้รับโทษแล้วยังเป็นการทำให้ผู้ที่ต้องการได้รับสิทธิ์จริงๆไม่ได้รับสิทธิ์อีกด้วย

 

 

** ความเสียหายระดับมหาศาล วิกฤตสแกมเมอร์ เหยื่อไทยศูนย์เงินนับไม่ถ้วน ความเสียหายต่อคนอันดับ 9 ของโลก ยังคงเป็นที่น่าวิตกกังวลกับเรื่องสแกมเมอร์ ที่ยังคงถือว่าเป็นการได้รับยกระดับเป็นภัยคุกคามเร่งด่วนต่อประเทศไม่ใช่แค่ในระดับบุคคล แต่ยังคงส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจมหภาคและความเชื่อมั่นของนานาชาติ ขณะนี้ชี้ว่าประเทศไทยติดอันดับที่ 9 ของโลก ในฐานะเหยื่อที่สูญเสียเงินจากสแกมเมอร์มากที่สุด โดยมีมูลค่าความเสียหายเฉลี่ยต่อคนสูงถึง 37,000 บาท ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ตัวเลขความเสียหาย 37,000 บาทต่อคน ทำให้สะท้อนถึงความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาชี้ว่าเครือข่ายธุรกิจสแกมเมอร์ซึ่งเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กาสิโน และการฟอกเงิน อาจมีมูลค่าทุรกรรมสูงกว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปี  

 

** พื้นที่ สภ. บางพลี  จังหวัดสมุทรปราการ ก็มีชาวบ้านพร้อมผู้อยู่อาศัยร้องเรียนมาเป็นประจำว่า ยาเสพติดระบาดทั่วพื้นที่ ผู้ค้ารายใหญ่สั่งให้ลูกน้องเดินขายทั้งกลางวันกลางคืน ก่อให้เกิดขี้ยาเวลาไม่มีเงินซื้อยาก็จะทำร้ายคนในครอบครัว สร้างความผวาดผวาให้กับชาวบ้านมาตลอด ขอฝากให้ พ.ต.อ. ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก. สภ. บางพลี ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อการตรวจสอบและจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดทุกแก๊ง โดยเฉพาะแก๊งค้ายาบ้าให้ราบคาบไปเลย

 

** พื้นที่ สภ. เมืองนครปฐม มีชาวบ้านร้องเรียนมาว่า มียาเสพติดระบาดทั่วทุกพื้นที่ ก่อให้เกิดพวกขี้ยาจะเที่ยวฉกวิ่งราวทรัพย์เป็นประจำ ขอฝากให้ พ.ต.อ. อชิรวัตติ์ ถาวรเจริญวัฒน์ ผกก. สภ. เมืองนครปฐม ลงพื้นที่ไปตรวจสอบกับผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อจับกุมแก๊งค้ายาบ้า ปราบปรามให้สิ้นซากไปเลย

 

** พื้นที่ของ สภ. ศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีคนแจ้งเบาะแสมาว่ามีแก๊งค้ายาเสพติดทุกชนิด โดยเฉพาะแก๊งค้ายาบ้า ผู้ค้ารายใหญ่สั่งให้ลูกน้องเดินขายเย้ยฟ้าท้ากฎหมาย ก่อให้เกิดพวกขี้ยาจะเที่ยวฉกชิงวิ่งราวทรัพย์ชาวบ้านเขา ฝากให้ พ.ต.อ. สุรกิจ อินอ่ำ ผกก. สภ. ศรีราชา ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อปราบปรามให้เด็ดขาด เพื่อขจัดทุกข์ให้ชาวบ้านในพื้นที่ด้วย 

 

** พื้นที่ สน. สายไหม ก็มีชาวบ้านและผู้อยู่อาศัยพร้อมนักธุรกิจร้องเรียนมาเป็นประจำว่า ยาเสพติดระบาดทั่วพื้นที่ โดยเฉพาะแก๊งค้ายาบ้า ที่กลายเป็นโจรผู้ร้าย เที่ยวฉกชิงวิ่งรายทรัพย์เป็นประจำ ฝากให้ พ.ต.อ. ณธัชพงศ์ กิรัมย์ ผกก. สน. สายไหม ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อตรวจสืบจับให้สิ้นซากไปจากพื้นที่ เพื่อขจัดทุกข์ให้ชาวบ้านในพื้นที่ด้วย

 

** พื้นที่ สน. คลองตัน ก็เต็มไปด้วยยาเสพติดระบาดทั่วพื้นที่ ทำให้ผู้อยู่อาศัยและบรรดานักธุรกิจทั้งหลายร้องเรียนกันมาเป็นประจำว่า ยาเสพติดแทบทุกชนิดระบาดหนัก ผู้ค้ารายใหญ่สั่งให้ลูกน้องเดินขายตั้งแต่เช้าจรดเย็นก่อให้เกิดพวกขี้ยากลายเป็นโจรผู้ร้ายเที่ยวงัดแงะทรัพย์ของชาวบ้าน ฝากให้ พ.ต.อ. พิสิษฐ์ มีวิริยกุล ผกก. สน. คลองตัน ลงพื้นที่เพื่อการตรวจสอบแก๊งค้ายาบ้าและปราบปรามให้เด็ดขาดไปเลย

 

** พื้นที่ สน. เทียนทะเล ชาวบ้านร้องเรียนมาว่า มียาเสพติดระบาดไปทั่วโดยเฉพาะแก๊งค้ายาบ้าผู้ค้าสั่งให้ลูกน้องเดินขายตามตรอกตามซอย เป็นว่าเล่น ฝากให้ พ.ต.อ. ปัญญา กุลไทย ผกก. สน. เทียนทะเล ลงพื้นที่ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อตรวจสอบโดยเฉพาะแก๊งค้ายาบ้าถ้าเจอปราบให้สิ้นซากไปเลย

 

**  บริจาคปัจจัยและโลงศพให้กับศพผู้ไร้ญาติได้ที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และมูลนิธิปอเต็กตึ๊ง ได้กุศลดี  

ไมโครโฟน