การเมือง
"ไพศาล" เตือนรัฐบาลกู้เงินมาแจกคนละครึ่ง ระวังปมซุกหนี้สาธารณะกว่า 1 ล้านล้านบาท
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน 2565 นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก paisal puechmongkol เรื่องประชาชนค้านการกู้เงินมาแจกมีรายละเอียดดังนี้ ด่วนมาก ประชาชนค้านการกู้เงินมาแจก!!!! การกู้มาแจกในโครงการคนละครึ่ง ก่อความฉิบหาย 2 สถาน
1.หนี้สาธารณะของประเทศเพิ่มขึ้น นับถึงขณะนี้มีจำนวนถึง 10 ล้านล้านบาทแล้ว ต้องใช้หนี้ไม่รู้ว่ากี่ภพชาติ ที่สำคัญคือการกู้มาแจกนั้น ไม่สร้างผลผลิต ไม่เกิดผลทางเศรษฐกิจ และไม่ก่อให้เกิดการปริวรรตของเงิน เพราะเงินจะไหลไปรวมศูนย์อยู่ที่ทุนชาติไม่กี่คน
2.ประชาชนต้องออกเงินอีกครึ่งหนึ่ง เพื่อเป็นค่าซื้อสินค้าหรือไม่ก็ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว ซึ่งไม่ก่อให้เกิดรายได้แก่ประชาชนมิหนำซ้ำต้องเอาเงินที่เก็บไว้เอามาใช้จ่ายโดยไม่เกิดประโยชน์ และจำนวนมากต้องไปกู้ยืมมาใช้ เพื่อหวังว่า จ่ายเงินเพียงครึ่งเดียวจึงทำให้หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น สูงสุดในประวัติศาสตร์คือ 14 .5 ล้านล้านบาท และทำให้คนยากจนเพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้านคนความฉิบหายเหล่านี้ ไม่มีทางได้คะแนนนิยม เพราะมีแต่เสียงสาปแช่ง
ผลโพลล่าสุดปรากฏว่า ประชาชนคัดค้านกว่า 85 เปอร์เซ็นต์
นายไพศาล ยังได้โพสต์อีกว่า " ด่วนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น!!! ข่าวไม่ใหญ่ แต่จะเป็นเรื่องใหญ่น่าใจหาย คือเรื่องการซุกหนี้สาธารณะกว่า 1 ล้านล้านบาท
1. มีการแถลงว่า หนี้ดังกล่าวเป็นการกู้ยืมเงินมาจากธนาคารและสถาบันการเงิน มาใช้จ่ายโครงการคนละครึ่ง และใช้จ่ายค่าประกันราคาพืชผล ซึ่งราคาต่ำกว่าราคาที่ประกันไว้ รัฐบาลจึงต้องชดใช้ตามที่ประกันนั้น ตัวเลขที่ได้ชดใช้ไปแล้วมีกว่า 500,000ล้านบาท
2. การไม่นำเงินกู้หลังดังกล่าวลงบัญชีหนี้สาธารณะ เป็นความผิดทางกฎหมายหลายกะทง และหลายกรรม คือทุกจำนวนครั้ง ที่มีการรับและจ่ายเงิน เป็นความผิดทางอาญา ที่สักวันหนึ่งจะติดคุกตลอดชีวิต ความผิดที่สำคัญคือ!!!
~ เงินที่ไปกู้มาเป็นรายได้แผ่นดินตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายเงินคงคลัง ต้องนำเข้าบัญชีเงินคงคลัง ต้องลงบัญชีหนี้สาธารณะ
เมื่อไม่ทำก็มีความผิด ทุกครั้งที่มีการกระทำนั้น
~ เมื่อเงินกู้เป็นรายได้แผ่นดินตามกฎหมาย จะนำไปใช้จ่ายได้ก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ คือ ต้องทำเป็นกฎหมายงบประมาณ ตามกฎหมายวิธีการงบประมาณ
การนำไปใช้จ่าย โดยไม่เป็นไปตามกฎหมายจึงเป็นความผิดตามกฎหมาย ทุกกรรมความผิดที่ได้เบิกเงินไปจ่าย
ติดตามเรื่องนี้กันให้ดีก็แล้วกัน เพราะน่าห่วงว่าผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องที่ต้องรับผิดชอบจะไม่มีทางที่จะมีชีวิต ที่เป็นสุขในบั้นปลาย อีกแล้ว"
ขณะที่เพจพรรคก้าวไกล - Move Forward Party ได้โพสต์ว่า หนี้ 1 ล้านล้านบาท แม้ไม่นับเป็นหนี้สาธารณะ ก็ต้องเปิดต่อสาธารณะ
กระทรวงการคลังชี้แจงว่า มีหนี้ที่ติดค้างหน่วยงานรัฐต่างๆ อยู่ 1.06 ล้านล้านบาทไม่ได้ถูกบันทึกเป็นหนี้สาธารณะตามนิยามของหนี้สาธารณะตามกฎหมาย เพราะเป็นรายจ่ายที่รัฐบาลต้องตั้งงบประมาณชดเชยทุกปีอยู่แล้ว และคลังก็ไม่ได้พยายามซุกหนี้ เพราะมีการเปิดเผยต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) แม้จะเป็นเรื่องจริงที่ข้อมูลนี้ไม่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะอยู่แล้ว แต่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาก็มีความพยายามบ่ายเยี่ยงไม่เปิดเผยข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องด้วย
Sirikanya Tansakun - ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ติดตามหนี้ที่รัฐบาลติดค้างหน่วยงานรัฐต่างๆ มาตลอด แม้กระทรวงการคลังอ้างว่าได้เปิดเผยไว้ในรายงานความเสี่ยงทางการคลัง แต่กลับพบว่าปัจจุบันไม่ได้มีการเอารายงานนี้ขึ้นเว็บเว็บไซต์ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลังมา 2 ปีแล้ว ทั้งที่ปกติจะนำขึ้นเว็บทุกปี
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ เคยเรียก สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง มาชี้แจง แต่กลับให้ข้อมูลที่ไม่เป็นปัจจุบัน บอกแค่สัดส่วนคร่าวๆ เมื่อสอบถามข้อมูลล่าสุด กลับอ้างว่าเป็นข้อมูลลับ ที่จะเปิดเผยต่อคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังแห่งรัฐเท่านั้น
ไม่นานนี้ เพิ่งมีการขยายกรอบเพดานให้รัฐบาลสามารถกู้ได้เพิ่มเป็น 35% ของงบประมาณรายจ่าย จากเดิม 30% เพื่อให้มีงบไปใช้ในโครงการประกันรายได้เพียงพอ ซึ่งปัจจุบัน มีการกู้ไปจนถึง 34.2% ของงบประมาณแล้ว เรียกได้ว่าขยายเพดานปุ๊บ ก็กู้จนปริ่มเพดานอีกแล้ว
ศิริกัญญาอธิบายว่า หนี้ที่ติดค้างหน่วยงานรัฐ 1.06 ล้านล้านบาทนี้ คืองบที่เอามาใช้ประกันรายได้ จำนำข้าวอุดหนุนดอกเบี้ยธนาคารรัฐประมาณแสนกว่าล้านบาทในแต่ละปี เมื่อใช้เงินนอกงบประมาณ โครงการพวกนี้ก็จะไม่อยู่ในเอกสารงบประมาณประจำปี ไม่ถูกตรวจสอบจากสภา จะมาเห็นอีกทีเมื่อตั้งงบประมาณประจำปีเพื่อใช้หนี้ในอดีต
เจ้าหนี้รายใหญ่ คือ ธกส. ยอดหนี้รวมเกือบ 9 แสนล้าน ในปีงบ 65 มีการตั้งงบใช้หนี้ ธกส. 69,000 ล้านบาท ส่วนในปีงบ 66 ตั้งงบส่วนนี้ไว้สูงถึง 84,000 ล้านบาท ซึ่งถ้าใช้หนี้น้อยเกินไป ก็จะขอกู้ ธกส.เพิ่มไม่ได้แล้วเพราะติดกรอบเพดานที่ 35%
“ต้องมาลุ้นกันดูค่ะว่า รัฐบาลจะใช้วิธีขยายกรอบเพดานไปเรื่อยๆ หรือจะผลักความเสี่ยงไปให้เกษตรกรที่รอเงินจากโครงการประกันรายได้แทน และถึงแม้จะไม่อยากให้สภาตรวจสอบ อย่างน้อยก็ควรเคารพเจ้าของภาษีอย่างประชาชนคนไทย โดยการเปิดเผยข้อมูลหนี้ส่วนนี้ให้เป็นสาธารณะก็ยังดี” ศิริกัญญา กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- รัฐบาลลุยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชายแดนไทย–เพื่อนบ้าน ยึดทรัพย์ 27 ล้าน เชื่อมโยง “ก๊ก อาน” 12 ก.ค. 2568
- "พร้อมพงศ์" สวนแรง! พวกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ปม "ทักษิณ" ถกสู้ภาษีทรัมป์ — แนะคิดถึงประโยชน์ชาติเป็นหลัก 12 ก.ค. 2568
- “อัครา” นำพรรคกล้าธรรม เปิดศูนย์ประสานงาน อ.ศรีราชา ประกาศพร้อมเป็นที่พึ่งให้ชาวชลบุรี 12 ก.ค. 2568
- ผู้ว่าฯ กระบี่นำทีมแถลง จับยาบ้า 1.3 แสนเม็ด ซุกพัสดุผ่านขนส่งเอกชน 12 ก.ค. 2568
- กกต. แจงคดีฮั้ว สว. ยังไม่เข้าสู่การพิจารณา กกต.ชุดใหญ่ ชี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่ 1 ชั้นคณะกรรมการสืบสวนฯ 12 ก.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
กกต. แจงคดีฮั้ว สว. ยังไม่เข้าสู่การพิจารณา กกต.ชุดใหญ่ ชี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่ 1 ชั้นคณะกรรมการสืบสวนฯ 20:47 น.
- ประธานรัฐสภาลงพื้นที่ยะลา เดินหน้า “ยะลาโมเดล” สู่การแก้ปัญหายั่งยืน 17:24 น.
- เคลมอีกแล้ว! เขมรเปิดศึกปลาร้า ซัดไทยใช้ตราสินค้า "ปลาฮกเสียมเรียบ" ที่ขึ้นทะเบียนGIในตลาดต่างประเทศ 17:02 น.
- “DSD เดินหน้าพัฒนาคนพิการ เปิดอบรมทั่วไทยกว่า 70 หลักสูตร ตลอด ก.ค.–ส.ค. 68” 16:40 น.
- "ทวี" พบปะกลุ่มมวลชนพรรคประชาชาติ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ จ.อุบลราชธานี 16:35 น.