วันพฤหัสบดี ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 20:01 น.

การเมือง

กกต.ย้ำ พท.ชูแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นไม่ผิด กม. เหตุเป็นนโยบายไม่ใช่สัญญาว่าจะให้

วันอาทิตย์ ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2566, 12.25 น.

เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2566 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงนโยบายการหาเสียงของพรรคการเมืองว่า สำหรับนโยบายที่จะต้องใช้งบประมาณขอชี้แจงก่อนว่านโยบาย ไม่ใช่สัญญาว่าจะให้ เพราะถ้าเป็นสัญญาว่าจะให้จะมีเส้นแบ่งของนโยบายตามแนวทางของ กกต.และคำพิพากษาของศาล คือ 1.เรื่องนั้นคนที่ทำมีอำนาจหน้าที่หรือไม่ เช่น รัฐบาลหรือองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) 2.ใช้งบประมาณแผ่นดิน และ 3.ดำเนินการโดยหน่วยงานของรัฐ นี่คือนโยบาย ส่วนจะดีหรือไม่ดีประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน ไม่ใช่ กกต. ถ้าทุกพรรคทำตามเงื่อนไขนี้ก็สามารถนำนโยบายไปเสนอกับประชาชนได้เพื่อให้ประชาชนตัดสิน ส่วน กกต.มีหน้าที่จัดการเลือกตั้งให้เกิดความเป็นธรรม ทุกฝ่ายต้องได้รับความเป็นธรรมในการแข่งขัน อย่าเอาคนออกจากสนามเพราะคิดว่า กกต.จัดการได้ ต้องต่อสู้กันด้วยนโยบาย

นายแสวงกล่าวต่อว่า ส่วนสัญญาว่าจะให้ คือ 1.ไม่มีอำนาจ 2.ใช้เงินส่วนตัว และ 3.ดำเนินการในนามตนเอง ดังนั้น กล้าพูดว่าเรื่องนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้ประชาชนทุกคนที่มีอายุเกิน 16 ปีขึ้นไป เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ คือนโยบาย เพราะกฎหมายเขียนรองรับไว้อยู่แล้ว แต่ดีไม่ดีให้ประชาชนตัดสินกันเอง ภายใต้เงื่อนไข 3 ข้อ คือ 1.มีการระบุวงเงินที่ต้องใช้และที่มาของเงินที่จะใช้ดำเนินการ 2.ความคุ้มค่าและประโยชน์ในการดำเนินนโยบาย 3.ผลกระทบและความเสี่ยงในการดำเนินนโยบาย ทั้งนี้ เมื่อประชาชนดูแล้วว่าครบตามกฎหมายแล้วจะเลือกหรือไม่เลือก อย่างไรก็ตาม มองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีคนมาสนใจเรื่องแบบนี้ เพราะไม่ได้ทำแค่พรรคเดียว แต่เท่าที่มีข้อมูล ทุกพรรคทำนโยบายประชานิยม เพียงแต่ทำแล้ว ถ้าไม่ดีก็สามารถวิจารณ์พรรคการเมืองอื่นได้ เพราะมันคือการแข่งขัน เมื่อทำถูกตามเงื่อนไขหรือกฎหมาย กกต.ไม่มีสิทธิทำอะไรได้ นอกจากไม่เข้าเงื่อนไข 3 ข้อ แต่ไปเข้าเกณฑ์สัญญาว่าจะให้ กกต.ค่อยมาพิจารณา แต่ถ้าพรรคไม่ทำตามเงื่อนไข ไม่ส่งวงเงินหรือวิธีการ อาจจะเข้าข่ายหลอกลวง ปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ

หน้าแรก » การเมือง