วันเสาร์ ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2568 12:23 น.

การเมือง

"ภูมิธรรม" ยืนยันส่งตัวชาวอุยกูร์เป็นไปตามขั้นตอนหลักสากล ผู้ต้องหาทุกคนสมัครใจกลับ เชื่อไม่กระทบภาพลักษณ์ไทยในเวทีโลก

วันพฤหัสบดี ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 21.51 น.

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568   นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงภายหลังการประชุมหารือกรณีส่งตัวชาวอุยกูร์กลับไปยังประเทศจีน ว่า รัฐบาลจีนได้มีคำขออย่างเป็นทางการโดยหนังสือทางการทูต ขอให้รัฐบาลไทยส่งคนจีนเชื้อสายอุยกูร์ จำนวน 40 คน ที่กระทำความผิดโดยได้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทยอย่างผิดกฏหมาย จึงถูกจับกุม และกักกันอยู่ในประเทศไทยมากว่า 10 ปีแล้ว โดยไม่มีข้อหาอื่นใด และทางรัฐบาลจีนยืนยันว่าบุคคลดังกล่าวเป็นคนสัญชาติจีนทั้งหมด พร้อมได้มอบหลักฐาน และเอกสารประกอบ ซึ่งบุคคลเหล่านี้มีความผิดเพียงเล็กน้อย เป็นเรื่องการเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่ถูกต้องตามกฏหมาย และไม่พบว่ามีความเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดที่ร้ายแรงอื่นใด ดังนั้นเมื่อเดินทางกลับถึงประเทศจีน จะได้รับอนุญาตให้กลับคืนสู่ครอบครัวได้โดยตรง และกลับคืนสู่การดำรงชีวิตโดยปกติ และให้การรับรองอย่างเป็นทางการ และหนักแน่นว่าจะให้ความปลอดแก่บุคคลเหล่านนี้อย่างเต็มที่

รัฐบาลจีนพร้อมให้ฝ่ายไทยร่วมสังเกตุการณ์ในขณะที่คนเหล่านี้เดินทางไปถึงเพื่อยืนยันว่า เป็นไปด้วยความปลอดภัย และกลับคืนสู่ครอบครัวด้วยความปลอดภัย และเพื่อแสดงให้เห็นว่าจีนให้ความเคารพต่อเรื่องสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้ รัฐบาลจีนพร้อมให้คณะผู้แทนจากฝ่ายไทยเข้าไปสังเกตการณ์เป็นระยะๆ ว่าคนเหล่านี้ได้กลับไปสู่ครอบครัว และกลับไปดำรงชีวิตโดยปกติ และได้รับความปลอดภัย

นายภูมิธรรม เปิดเผยว่า การแถลงข่าววันนี้เนื่องจากต้องการชี้แจงว่า การส่งกลับตัวชาวอุยกูร์ ทุกกระบวนการ รัฐบาลได้มีการวางแนวทางในการดำเนินการ และเป็นไปตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทำร้ายและการกระทำที่ทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 เพื่อให้ชาวอุยกูร์กลับสู่ประเทศและพบกับครอบครัว ยืนยันว่าไทยไม่อยากกักตัว

ส่วนประเด็นที่จีนได้ทำหนังสือมาขอตัวชาวอุยกูร์ ในช่วงเวลานี้ เนื่องจากประเทศจีนทำหนังสือมาโดยให้เหตุผลว่าต้องการตัวพลเมืองของประเทศตัวเองกลับ ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางการไทยเคยส่งตัวกลุ่มผู้ต้องกักชาวอุยกูร์ ซึ่งเป็นหญิงเด็กและคนชราจำนวน 109 คน ให้ประเทศตุรกีเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา และในทุกปี ประเทศไทย พยายามติดต่อหาประเทศที่ 3 ให้ แต่ ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาไม่มีประเทศที่ 3 รับตัวกลุ่มชาวอุยกูร์ที่เหลือกลุ่มนี้ไป ทางการไทยจึงเห็นว่าเป็นการดีในการที่จะส่ง ตัวผู้ต้องกักเหล่านี้ไป แต่ต้องเป็นไปตามการต่อรองในการดูแลสวัสดิภาพของกลุ่มคนเหล่านี้ ยืนยันผู้ต้องหาทั้งหมดมีความประสงค์ที่จะเดินทางกลับโดยความสมัครใจ ส่วนจะมีเหตุผลอะไรนั้นไม่สามารถตอบแทนได้ และการที่ต้องส่งตัวผู้ต้องกักทั้งหมดในช่วงเวลากลางคืน รวมถึงไม่เปิดเผยรายละเอียดนั้น เพราะไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวาย ในกระบวนการส่งตัว รวมถึงไม่อยากให้กรณีนี้เกิด การจินตนาการไปเอง เพราะทุกอย่างทำตามขั้นตอน ส่วนกรณีนี้จะกระทบกับภาพลักษณ์ของประเทศไทยในมุมมองของต่างชาติ รวมถึงจะมีผลต่อการจัดอันดับการค้ามนุษย์ในประเทศไทยหรือไม่นั้น ตัวเองมองว่าภาพทั้งหมดกับข้อเท็จจริงที่ออกมาจะเป็นคำตอบในเวทีโลก

ด้าน พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระบุว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้รับหนังสือจาก สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ให้ส่งชาวอุยกูร์กลับจีน และ ทางสตม. ได้มีการทำความเข้าใจกับผู้ต้องกักชาวอุยกูร์ ภายใต้ข้อตกลงที่ว่าหากเดินทางกลับไปแล้วทุกคนจะได้รับความปลอดภัย แม้ช่วงแรกจะมีกลุ่มคนบางส่วนไม่ยินยอมแต่ภายหลังที่ มีการชี้แจงทำความเข้าใจทุกคนจึงยินยอม

ด้านนายทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า ขณะนี้ยังคงมีผู้ต้องขัง ชาวอุยกูร์ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำประเทศไทยอีก 5 คนเนื่องจาก มีพฤติกรรมหลบหนีออกจากห้องขังซึ่งทางศาลได้มีคำพิพากษาให้จำคุก 7 ปีและจะมีกำหนดพ้นโทษในปีพ.ศ. 2572 โดยหากพ้นโทษออกมาก็จะมีกระบวนการส่งตัวกลับเช่นเดียวกัน

ขณะที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกรัฐบาล ได้กล่าวทิ้งท้ายโดยขอโทษสื่อมวลชนและสังคม ที่ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นนี้ช้า เนื่องจาก ภารกิจนี้เป็นภารกิจลับสุดยอด และมีตัวแปรสำคัญ หากมีการเปิดเผยใบหน้าของกลุ่มผู้ต้องกักทั้งหมดอาจจะกระทบกับความปลอดภัยของผู้ต้องกักทั้งหมดได้

ทั้งนี้ ในระหว่างการแถลงข่าวได้มีการเปิดเผยภาพ และคลิปวิดีโอของการส่งตัวชาวอุยกูร์ ว่าตั้งแต่เดินทางออกไปเป็นอย่างไร และทันทีที่ไปถึง ได้มีครอบครัวมารอรับ ซึ่งมีการโอบกอดกันอย่างอบอุ่นของครอบครัว มีการเตรียมอาหารเอาไว้ให้ ส่วนคนที่มีอาการป่วย ก็ได้พาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล

ช่วงหนึ่งของการแถลงข่าว นายภูมิธรรม กล่าวโดยสรุปว่า นี่เป็นภาพที่เกิดขึ้น เราอยากให้เห็นว่าการเดินทางกลับไปในครั้งนี้ พวกเขาเหล่านี้ปลอดภัย มีการดูในเรื่องข้อกฎหมาย และประสานงานกันอย่างต่อเนื่อง โดยทุกอย่างทำตามขั้นตอน กระบวนการ และหลักสิทธิมนุษยชน พร้อมเชื่อว่าภาพที่ออกมาจะทำให้เห็นถึงความจริงมากกว่า ว่าพวกเขาเหล่านี้จะปลอดภัย
 

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง