วุฒิสภาผนึกกำลังพร้อมผลักดัน "กฎหมายข้าว" เพื่อคุ้มครองเกษตรกรครบวงจร แก้ปมราคาตกต่ำ-ภัยพิบัติ พลิกโฉมและยกระดับคุณภาพชีวิตชาวนาไทย

เมื่อวันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน 2568  ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมาธิการศึกษาและพัฒนาระบบข้าวครบวงจร ในคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา นำโดย นายเดชา นุตาลัย ประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ศึกษาดูงาน ณ บริษัท นาเฮียใช้ จำกัด ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อศึกษาการบริหารจัดการเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพสูงและการบริหารจัดการแปลงนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิตข้าว

จากการลงพื้นที่ คณะฯ เล็งเห็นว่า การบริหารจัดการเมล็ดพันธุ์ข้าวเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการปลูกข้าวของชาวนาไทย จึงมีข้อเสนอแนะให้กรมวิชาการเกษตรและกรมการข้าวบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมให้ภาคเอกชนสามารถขอขึ้นทะเบียนรับรองพันธุ์ข้าวได้อย่างรวดเร็ว โดยต้องรักษาคุณภาพมาตรฐานและความถูกต้อง นอกจากนี้ ยังเสนอให้มีหน่วยงานเจ้าภาพที่ชัดเจนในการนำเข้าพันธุ์ข้าวจากต่างประเทศ เพื่อใช้ประโยชน์ในการวิจัยและพัฒนาต่อยอด และที่สำคัญคือ การพิจารณาปรับปรุงพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้ทันสมัยและสอดคล้องกับการพัฒนาพันธุ์ข้าวที่รวดเร็วในปัจจุบัน

สรุปข้อเสนอแนะที่สำคัญของคณะอนุกรรมาธิการฯ คือ การผลักดันให้มี กฎหมายว่าด้วยข้าว เพื่อให้การบริหารจัดการข้าวทั้งประเทศเป็นระบบ และ คุ้มครองผลประโยชน์ของเกษตรกรอย่างแท้จริง โดยเฉพาะเมื่อเกิดภาวะราคาข้าวตกต่ำหรือภัยพิบัติ จะต้องมีมาตรการช่วยเหลือที่ชัดเจน เพื่อสร้างความมั่นคงในอาชีพเกษตรกรผู้ปลูกข้าวอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งต้องมีกลไกกำกับราคาข้าวและราคาปัจจัยการผลิตให้อยู่ในระดับที่เป็นธรรม เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของชาวนาไทย