เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568    นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แถลงภายหลังรับหนังสือข้อเสนอจากคณะ ส.ส. นำโดยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร, นายเซีย จำปาทอง และนายสหัสวัต คุ้มคง เพื่อเรียกร้องให้ดูแลแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ตึกถล่มว่า  พร้อมด้วย นาย อารี ไกรนรา เลขาฯรมว. แรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน  ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ณ กระทรวงแรงงาน ดินแดง 

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานไม่ได้นิ่งนอนใจ และเร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุกคนอย่างเต็มที่ โดยยึดหลักว่า “ไม่ว่าจะเป็นแรงงานที่ถูกกฎหมายหรือไม่ก็ตาม กระทรวงแรงงานจะดูแลอย่างเท่าเทียม” ซึ่งแรงงานที่อยู่ในระบบประกันสังคม ม.33 จะได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย ทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าทดแทนรายได้ และกรณีเสียชีวิตจะได้รับเงินเยียวยาเบื้องต้นไม่น้อยกว่า 950,000 บาท และอาจสูงถึง 1.7 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับอายุงานและฐานค่าจ้าง ส่วนแรงงานที่อยู่นอกระบบหรือแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีเอกสาร จะดำเนินการประสานกับนายจ้างให้รับผิดชอบ พร้อมไล่เบี้ยถึงบริษัทต้นทางและบริษัทรับเหมาช่วง เพื่อให้แรงงานได้รับการดูแลครบถ้วน พร้อมผลักดันให้นำแรงงานเข้าสู่ระบบโดยเร็ว และดำเนินการปรับนายจ้างที่หลีกเลี่ยงกฎหมาย

ทั้งนี้ยังไม่สามารถระบุจำนวนแรงงานผิดกฎหมายได้ทั้งหมด โดยอยู่ระหว่างการพิสูจน์อัตลักษณ์แรงงานที่ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดกว่า 70 ราย ทั้งนี้จะประสานกับสถานทูตประเทศต้นทาง อาทิ ลาว เมียนมา กัมพูชา และเวียดนาม เพื่อยืนยันสัญชาติและติดต่อญาติ หากไม่สามารถติดต่อได้ สถานทูตจะดำเนินการประสานกลับไปยังถิ่นกำเนิดของแรงงานเหล่านั้นต่อไป

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่สูญหาย ยังต้องตรวจสอบว่าทำงานในไซด์งานจริงหรือไม่ โดยร่วมกับตำรวจสืบสวนข้อเท็จจริง และตรวจสอบข้อมูลลูกจ้างที่ตกค้างหรือหล่นหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือได้อย่างครบถ้วน
ซึ่งเผยข้อมูลจาก ศูนย์ประสานงานและช่วยเหลือแรงงานฯ รายงานความคืบหน้าถึงวันที่ 8 เม.ย. 68 เวลา 16.00 น.
 • พบผู้เสียชีวิต 22 ราย บาดเจ็บ 79 ราย
 • แรงงานที่ได้รับผลกระทบแล้วกว่า 103 ราย
 • ยื่นรับสิทธิประโยชน์จากประกันสังคมแล้ว 29 ราย รวมเป็นเงิน 19.9 ล้านบาท
 • ติดต่อขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วน 1506 แล้ว 417 ราย