เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568   เวลา 10.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นำผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ถวายภัตตาหารเพลแด่พระเดชพระคุณพระราชวัชรสุทธิวงศ์ (เจ้าคุณอารยวังโส) เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (ธ) ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ณ ห้องรับรองกระทรวงมหาดไทย ในโอกาสเป็นองค์ปาฐกถาธรรมเพื่อสร้างแรงบันดาลใจส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมให้แก่ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย

ทั้งนี้  ในเวลา 08.45 น. นายอรรษิษฐ์  สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นประธานกิจกรรมรับฟังธรรมสร้างแรงบันดาลใจเพื่อส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องประชุมราชบพิธ ชั้น 5 อาคารดำรงราชานุสรณ์ กระทรวงมหาดไทย โดยได้รับเมตตาจากพระเดชพระคุณพระราชวัชรสุทธิวงศ์ (เจ้าคุณอารยวังโส) เมตตาเป็นองค์ปาฐกถาธรรม โดยมี นายสันติธร ยิ้มละมัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน นางดวงกมล ยิ้มละมัย อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย  พร้อมด้วยผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ผู้ช่วยปลัดกระทรวงมหาดไทย รองอธิบดี หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และพุทธศาสนิกชน ร่วมในกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

พระราชวัชรสุทธิวงศ์ กล่าวสัมโมทนียกถา ความตอนหนึ่งว่า “ธรรมะ” คือ ความปกติทางกาย วาจา ใจ เป็นแบบแผนของชีวิตในการเดินสู่จุดมุ่งหมาย เมื่อเรามีธรรมะในจิตใจ ก็ย่อมหมายถึงการมีสติที่ดีพร้อม มีปัญญาใฝ่ดี ซึ่งจะช่วยทำให้เราได้ฉุกคิดพิจารณาถึงจุดมุ่งหมายของเนื้อเรื่องนั้น ๆ ว่าควรหรือไม่ เป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมมากกว่าส่วนตนหรือไม่ ถ้าเรามีธรรมะดี ชีวิตเราก็จะไม่พลาดเกิดปัญหา มีแบบแผนในการทำงานตามครรลองครองธรรม และใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข

“การสร้างแรงบันดาลใจ” เป็นส่วนสำคัญในการทำงานเช่นกัน เพราะการมีแรงบันดาลใจที่ดีจะนำไปสู่ความสำเร็จผลตามจุดมุ่งหมายได้ สิ่งสำคัญที่สุด คือ ต้องมี “แบบอย่างที่ดี” หรือ “หัวหน้าที่ดี” เป็นผู้ใฝ่รู้ในธรรม และมีความเป็นธรรมในการปกครอง อันจะเป็นการสร้างความรู้ที่ถูกต้อง ส่งต่อให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเกิดความเคารพเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้เขาตั้งใจทำดี และสร้างสังคมที่ดีตามไปด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนอยู่ในจิตใจของ “คนมหาดไทย” อยู่แล้ว แค่เราต้องฟื้นฟูให้เป็นความเคยชินในการดำรงตนอย่างมีสติ ไม่ประมาท มีหลักธรรมเป็นกรอบวิธีคิดอยู่เสมอ และต้องทำงานร่วมกันเป็นทีม อย่าเก่งคนเดียวทำคนเดียว เราต้องทำความดีร่วมกัน เพื่อเป้าหมายสูงสุดคือการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้แก่ประชาชนได้มีชีวิตที่ดีขึ้น“ พระราชวัชรสุทธิวงศ์ กล่าว

กระทรวงมหาดไทยมุ่งส่งเสริมข้าราชการในการนำหลักธรรมมาเป็นเข็มทิศนำทางสร้างแรงบันดาลใจและพร้อมรับต่อความเปลี่ยนแปลงในการปฏิบัติงาน การใช้ชีวิตให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และนำหลักธรรมคำสอนของศาสนา วิถีวัฒนธรรมไทยที่ดีงาม และหลักคุณธรรมมาปรับใช้เพื่อเป็นหลักในการทำหน้าที่ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ปฏิบัติราชการให้พี่น้องประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข