การเมือง
นายกฯเรียกถกคดีตึก สตง.ถล่ม เผยตำรวจใกล้จะออกหมายจับแล้ว
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

ความจริงเริ่มเปิดเผย! คดีอาคาร สตง. ถล่มคืบหน้า "นายกฯแพทองธาร" เรียกถกรายละเอียด เผยตำรวจใกล้จะออกหมายจับบุคคลที่กระทำความผิดแล้ว ขณะรองนายกฯเผยข้อมูลชวนสะพรึง อาจมีขบวนการปลอมลายเซ็นโยงหลายฝ่าย
เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 ที่ ห้องประชุมชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประชุมและรับฟังรายงานผลการตรวจสอบอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)
หลังจากนั้น นางสาวแพทองธาร กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ที่พังถล่ม ว่า เมื่อได้พูดคุยในรายละเอียดทุกอย่างแล้ว ต้องขอความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติมมากกว่านี้ เพราะยังมีในเรื่องของเอกสาร และหลักฐานสำคัญที่ขอความร่วมมือไป และได้รับความร่วมมือที่ค่อนข้างช้า เพราะเรื่องนี้รอไม่ได้ ต้องหาหลักฐาน เอกสารให้ครบ เพื่อจะได้มีข้อความที่จะรับผิดชอบต่อผู้ที่เสียชีวิตไปจำนวนมาก ดังนั้น จำเป็นต้องขอความร่วมมือ ไม่ว่าจะเป็นเอกสารทั้งหมดจาก สตง. รวมถึงการรายงานผลจากคณะกรรมการตรวจสอบว่ามีการผิดสัญญา แต่ไม่มีการยกเลิกสัญญาในเวลาที่กำหนด ตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 ซึ่งมีการร้องขอให้ยกเลิกสัญญา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องขอดูเอกสารเพิ่มเติมตรงนี้
นอกจากนี้ จากการติดตามรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา และกรมทรัพยากรธรณีถึงผลกระทบแผ่นดินไหว ว่า กรุงเทพมหานครได้รับผลกระทบมากกว่าปกติหรือไม่ จนทำให้ตึก สตง. ถล่ม ซึ่งเป็นเอกสารที่ยังต้องขอความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน และจะขอความร่วมมือจากกรมบัญชีกลาง ที่เป็นหน่วยงานควบคุมมาตรฐานการจัดซื้อจัดจ้าง ดูคุณภาพวัสดุก่อสร้าง เพื่อจะชี้วัด และมีอำนาจในการบอกเลิกสัญญา
ขณะที่กรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นหน่วยงานที่เป็นหน่วยงานที่ร่วมตรวจรับการออกแบบก่อสร้าง และการตรวจรับงาน เป็นผู้เกี่ยวข้องกลับความเสียหายนี้ ต้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับตำรวจ ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงในการตรวจสอบของกรมโยธาธิการและผังเมือง ควรจะแยกออกจากกระบวนการสืบสวนนี้ด้วย เพื่อไม่ให้มีส่วนเกี่ยวข้องกลับการสืบสวนตรงนี้
นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ กำลังดำเนินคดีกับเหล็ก และปูน ที่ไม่ได้มาตราฐาน รวมถึงการแก้ไขแบบ Core wall หรือ ผนังรับแรงเฉือนจากแรงลมในอาคารสูง และคอปล่องลิฟต์ ที่เป็นจุดศูนย์กลางของตึก แต่ไม่มีการเสริมเหล็ก ทำให้เกิดความเสี่ยงในอาคาร
นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบธุรกิจของคนต่างด้าว และการฮั้วประมูลด้วย จึงฝากสื่อมวลชนให้ช่วยสื่อสาร แต่ตนเองจะย้ำเรื่องนี้ในคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง ขอให้ประชาชนมั่นใจ ว่า เรื่องนี้รัฐบาลไม่ได้ปล่อยมือ ส่วนตัวรับเรื่องนี้ไม่ได้กับการที่มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก เพียงเพราะเหตุผลตึกถล่มเพียงหนึ่งตึก แต่ก็เข้าใจได้ว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เมียนมา ที่เกิดแผ่นดินไหวทั้งหมด และมีขนาดรุนแรงห้ามไม่ได้ แต่มีเพียงหนึ่งตึกของไทยที่ถล่มลงมา ซึ่งตนเองติดตามเรื่องนี้อย่างจริงจัง และเคยให้สัมภาษณ์ไปว่า 90 วัน จะทำเรื่องของโมเดลที่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสรุปสาเหตุตึกถล่มออกมาให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งตรงจุดนี้จะหาเหตุผลโดยละเอียดว่าเกิดจากสาเหตุลม แรงสั่นสะเทือน หรือเป็นวัสดุที่ทำให้ตึกถล่มลงมา ซึ่งเป็นเหตุผลเชิงลึก แต่ระหว่างนี้การดำเนินงานต่าง ๆ ถูกต้องแล้วหรือไม่ตั้งแต่เริ่มตั้งแต่เริ่มหนึ่ง ดังนั้น การจะสรุปเรื่องใดในวันนี้ต้องรอตำรวจ หรือดีเอสไอ ที่จะช่วยหาหลักฐานให้มีความชัดเจนให้มีความชัดเจนก่อน ตนเองจะมาพูดก่อนไม่ได้ เพราะเสี่ยงจะถูกฟ้องได้ ดังนั้น ต้องรอแต่อีกไม่นานนี้จะมีการออกหมายจับ โดยกำชับตำรวจหากมีหลักฐานเพียงพอ ก็สามารถออกหมายจับได้ ซึ่งอีกไม่นานจะมีการเริ่มออกหมายจับ
ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตหรือไม่ ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงไม่ให้ข้อมูล เอกสาร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือไม่เต็มที่ ก็ต้องถูกก็ตั้งข้อสังเกตอยู่แล้ว จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือให้เต็มที่ เพื่อที่จะไม่เป็นข้อคอรหาของประชาชน
ขณะที่ยิ่งตรวจสอบ ยิ่งอาจเข้าข่ายทุจริตการจัดซื้อจัดจ้าง จะถือโอกาสสะสางทั้งหมดหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะทำทุกอย่างตามหลักฐานที่มี และได้เน้นย้ำกับตำรวจว่าให้ทำอย่างเต็มที่ และจริงจัง รวมถึงจะต้องดูข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับการเซ็นรับด้วย
ส่วนจะกำชับการก่อสร้างของหน่วยงานรัฐอื่นที่มีการก่อสร้างขนาดใหญ่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ควรเกิดขึ้นอยู่แล้วทุกตึก ไม่ใช่แค่ตึกของรัฐเท่านั้น ทุกตึกต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ เพราะเกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนที่เข้าไปอยู่ในนั้นทุกวัน แต่เมื่อเกิดปัญหาก็เป็นสิ่งที่ต้องดำเนินคดี ต้องตรวจสอบ และทำให้ชัดเจน
นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า เท่าที่ได้รับรายงานมีเรื่องการปลอมแปลงลายเซ็น ซึ่งต้องตรวจสอบกันต่อไป ว่าปลอมแปลงจริงหรือไม่ พร้อมย้ำว่า สตง. จะต้องรับผิดชอบหรือไม่ ต้องขอดูหลักฐานเป็นรายกรณีไป ต้องดูรายชื่อของคณะกรรมการในแต่ละส่วน จะไม่เหมารวมทั้งหมด พร้อมยอมรับว่า มีหลักฐานบางอย่างออกมา เช่น ตัวปล่องลิฟท์ ที่อาจมีการปรับแก้ให้บางลงตามที่สื่อรายงาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากข้อมูลการออกหมายจับใกล้หรือยัง นายกฯ กล่าวว่า ใกล้ค่ะ การออกหมายจับใกล้มากแล้ว ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวอีกว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีคนผิดเลยในเรื่องนี้ ก็ทราบอยู่แล้ว ว่ามีบางจุดแน่นอนที่ผิดไปจากทุกตึก อันนี้มันชัดเจน การที่จะไม่มีใครรับผิดชอบเรื่องนี้คงเป็นไปได้ยากมาก
โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีตึก สตง.ถล่มว่า เท่าที่ทราบนางสาวแพทองธาร ได้เรียกพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ที่กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าติดตามความคืบหน้าของคดี ซึ่งในคดีนี้มีความคืบหน้ามากขึ้นพอสมควร โดยได้รายงานเบื้องต้นว่าได้ดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง
"ค่อยๆคลี่คลายลง เพราะตอนนี้มีการสอบหลายส่วน มีความเกี่ยวพันหลายเรื่อง โดยเฉพาะวิศวกรคุมแบบ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เท่าที่ได้รับข้อมูลคาดว่า มีบุคคลที่ถูกปลอมลายเซ็นอีกหลายคน" นายภูมิธรรมกล่าว
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- "อนุทิน" นำผู้บริหาร มท. ถวายภัตตาหารเพลแด่ 'พระราชวัชรสุทธิวงศ์ (เจ้าคุณอารยวังโส)' ในโอกาสปาฐกถาธรรมสร้างแรงบันดาลใจส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม 1 พ.ค. 2568
- วันแรงงานแห่งชาติ! นายกฯไม่ตอบขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท 1 พ.ค. 2568
- "นายกฯ แพทองธาร" เปิด "โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ อสม.มั่นคง สาธารณสุขเข้มแข็ง เพื่อคนไทยห่างไกล NCDs" 1 พ.ค. 2568
- "แพทองธาร" นำทีมประชุมบอร์ด AI แห่งชาติครั้งแรก หนุนพัฒนาบุคลากร-เทคโนโลยีทั่วประเทศ 1 พ.ค. 2568
- เครือข่ายแรงงานบุกทำเนียบฯ จี้ปรับค่าแรง 492 บาททั่วประเทศ คัดค้านกาสิโน-ล้มทุนผูกขาด ปชน. ร่วมแจม 1 พ.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
"ไทยภักดี"ประชุมใหญ่สามัญปี 2568 "หมอวรงค์" ชูธงนำ ปราบโกงต้องเพิ่มโทษประหาร 18:39 น.
- "ประเสริฐ" ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ "สุรินทร์" กำชับทุกหน่วยเตรียมพร้อมรับมือฝนทิ้งช่วง ลดผลกระทบต่อประชาชน 18:35 น.
- “ประมวล” เช็คกรมศุลทันที! หลังชาวบ้านสับสนพบรถบรรทุกน้ำมันปาล์มที่ท่าเรือบางสะพานเผยเป็นการส่งออกไปอินเดีย ไม่ใช่นำเข้าให้กระทบราคา 17:35 น.
- "รทสช." ปลื้ม สส.ลงพื้นที่ได้กำลังใจล้นหลาม ชาวบ้านแห่ชม "พีระพันธุ์" ลดค่าไฟต่อเนื่อง ผ่อนคลายค่าครองชีพ ลดความเดือดร้อนครัวเรือน 16:52 น.
- "ทักษิณ" เดินหน้าจัดองคาพยพ ดันสันติสุขชายแดนใต้ ลั่นปีนี้ต้องเห็นผล 15:29 น.