วันพุธ ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 12:05 น.

การเมือง

นายกฯถกรมต.เพื่อไทย  ความไม่สงบชายแดนใต้  ก่อนประชุมครม.

วันอังคาร ที่ 06 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 10.33 น.

นายกฯถกรมต.เพื่อไทย  ความไม่สงบชายแดนใต้  ก่อนประชุมครม. "วราวุธ" ลั่นไม่เห็นด้วยใช้ความรุนแรงจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังเกิดเหตุทำร้ายผู้บริสุทธิ์ถี่  "ทวี" ยันรัฐบาลมุ่งแก้ปัญหาไฟใต้ ยึดการพูดคุยสันติสุข เพื่อความปลอดภัยปชช. วอนอย่าด้อยค่าคู่เจรจา 

เมื่อวันที่ 6  พฤษภาคม 2568   นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย จากตึกไทยคู่ฟ้า มายังตึกบัญชาการ 1 ภายหลังนายกรัฐมนตรี เรียกเข้าไปพูดคุยโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง  โดยกล่าว มีการพูดคุยหลายเรื่องร่วมถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนใต้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เสนอผลการพิจารณาข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 14/2559 เรื่อง คณะกรรมการที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการกำหนดอำนาจหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคง ภายในราชอาณาจักร ลงวันที่ 4 เมษายน พุทธศักราช 2559 พ.ศ. ... ของสภาผู้แทนราษฎร

ทางด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีการเกิดเหตุความรุนแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพุ่งเป้าไปที่กลุ่มผู้บริสุทธิ์ ว่า ในเบื้องต้นกระทรวง พม. ได้ให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เข้าไปเยี่ยมเยียน และให้กำลังใจ ดูแลสภาพจิตใจครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบ และในขณะเดียวกันได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ของ พม. ที่อยู่ในพื้นที่ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง และเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง รวมถึงประชาชนกลุ่มเปราะบาง

นายวราวุธ กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นใคร ผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือแม้แต่เด็กเล็กคงไม่ใช่เป้าหมายหลักในการก่อความรุนแรง แต่ในส่วนของพม. ไม่เห็นด้วยในการทำความรุนแรงทุกรูปแบบ

 "ภูมิธรรม"เสียใจเหตุไฟใต้ สั่งเพิ่มกำลังดูแลเต็มที่ ย้ำยินดีเจรจาแต่ต้องไม่แบ่งแยกรัฐ
 
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงถึงสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า รู้สึกเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นไทยพุทธหรือไทยมุสลิม พร้อมย้ำว่าการใช้ความรุนแรงไม่ช่วยให้เกิดผลดีใดๆ ทั้งยังเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม โดยเฉพาะเป้าหมายที่เป็นพระภิกษุ เณร เด็ก คนชรา และผู้พิการ

เขาเผยว่าได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองเพิ่มความเข้มงวดในการตั้งด่าน ตรวจตราพื้นที่เสี่ยง และส่งกำลังเข้าดูแลประชาชนทุกกลุ่ม โดยมีเป้าหมายเพื่อยุติเหตุรุนแรงโดยเร็วที่สุด

นายภูมิธรรมยังกล่าวถึงแนวทางการเจรจาสันติภาพว่า จากการพูดคุยระหว่างนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม และนายกรัฐมนตรีไทย แพทองธาร ชินวัตร ทั้งสองฝ่ายตกลงให้เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการเข้าพบผู้อำนวยความสะดวกจากทางมาเลเซีย โดยมีเงื่อนไขสำคัญว่าผู้เจรจาต้องมีอำนาจหยุดความรุนแรงได้จริง และการเจรจาจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อฝ่ายตรงข้ามยุติการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรม

“เราพร้อมพูดคุยภายใต้รัฐธรรมนูญไทยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประเทศไทยต้องเป็นรัฐเดียว หารือเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ในการบริหารจัดการได้ แต่จะไม่พูดคุยหากมีเป้าหมายแบ่งแยกเป็นรัฐอิสระ” นายภูมิธรรมกล่าว

นอกจากนี้ เขายังย้ำถึงความจำเป็นในการหยุด “เกมการเมือง” ของบางกลุ่มที่ใช้การเข่นฆ่าเป็นเครื่องมือ และกล่าวว่าไทยยอมรับในพหุวัฒนธรรม ซึ่งทุกฝ่ายต้องเคารพและอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

เขายังระบุว่าได้หารือกับแม่ทัพภาคที่ 4 และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 โดยเน้นย้ำว่าการแก้ปัญหาทุกด้านจะเกิดขึ้นได้เมื่อสามารถหยุดความรุนแรงลงได้ก่อน พร้อมสนับสนุนแนวคิดของนักวิชาการอย่างนายสุนัย ผาสุข ที่เสนอให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาพูดคุยกันด้วยความจริงใจ และไม่บิดเบือนประเด็นให้ไขว้เขว

กรณีใบปลิวข่มขู่พระและประชาชนไทยพุทธที่ถูกปล่อยออกมาในพื้นที่นั้น นายภูมิธรรมชี้ว่าเป็นเพียงการโฆษณาชวนเชื่อและการเคลื่อนไหวที่ไร้มนุษยธรรม ซึ่งยิ่งทำยิ่งบั่นทอนความชอบธรรมของผู้ก่อเหตุ พร้อมย้ำว่าขณะนี้รัฐได้ส่งหน่วยเคลื่อนที่เข้าไปดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิดแล้ว

สุดท้าย นายภูมิธรรมกล่าวว่า จังหวัดชายแดนใต้มีศักยภาพในการพัฒนาอย่างมาก หากไทยและมาเลเซียร่วมมือกัน ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ พร้อมเปิดเผยว่าเตรียมพูดคุยกับทางการมาเลเซียเรื่องนี้ และในวันที่ 7 พฤษภาคม จะมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และรับฟังปัญหา พร้อมขอให้ประชาชนเข้าใจเจ้าหน้าที่ที่กำลังเสี่ยงชีวิตเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย

“ขอให้ทุกฝ่ายมองปัญหาอย่างตรงไปตรงมา หยุดเข่นฆ่าประชาชน และร่วมกันเดินหน้าสร้างสันติภาพอย่างมั่นคงและยั่งยืน” รองนายกรัฐมนตรีกล่าวทิ้งท้าย

"ทวี" ยันรัฐบาลมุ่งแก้ปัญหาไฟใต้ ยึดการพูดคุยสันติสุข เพื่อความปลอดภัยปชช. วอนอย่าด้อยค่าคู่เจรจา 

 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ยืนยันว่ารัฐบาลมุ่งมั่นจะแก้ปัญหาภาคใต้ โดยเฉพาะชีวิต ความปลอดภัยและทรัพย์สิน อยากสร้างสันติสุขให้ยั่งยืน ซึ่งการแก้ปัญหาภาคใต้ต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ และแก้ด้วยสันติวิธี โดยเมื่อวานนี้ (5 พ.ค.) ตนได้ไปรดน้ำศพตำรวจที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิด และพบหน่วยกำลังในพื้นที่ ก็ได้บอกว่าในเบื้องต้นต้องทำให้ประชาชนได้รับการปกป้องคุ้มครองความปลอดภัย อย่าให้พื้นที่เป็นของฝ่ายตรงข้าม พื้นที่ต้องเป็นของรัฐ

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เนื่องจากในโครงสร้าง ในหมู่บ้าน จะมีผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยรักษาความปลอดภัยทั้งหมด 37 คน และมีกองกำลังอาสา จ.นราธิวาส ที่มี 3,000 คน และมีทหารพราน 7,500 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 3,800 คน ซึ่งทั้งหมดนี้อาจจะป้องกันไม่ได้ แต่ว่าต้องได้รับความร่วมมือ จากผู้นำในท้องที่ ผู้นำศาสนา หรือผู้นำจิตวิญญาณ ทุกคนต้องเข้าใจตรงกันว่ามนุษย์ต้องได้รับการปกป้องคุ้มครอง ซึ่งได้หามาตรการไว้แล้ว

พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว รัฐบาลมีนโยบายไว้แล้ว ซึ่งขณะนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ดูแลอยู่ คงจะได้มีการพูดคุยกัน

 เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการพุ่งเป้าไปที่ชาวไทยพุทธเยอะ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตนก็ได้รับรายงานถึงสาเหตุมา แต่ตนก็ขอให้มีการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ เมื่อวานนี้ (5 พ.ค.) ที่ตนไปเยี่ยมผู้ป่วย ก็มีผู้นำศาสนามาเยี่ยมด้วย ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของศาสนา แต่การกระทำกับกลุ่มเปราะบางเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้าน เรียกร้องให้มีการเปิดพื้นที่เจรจาโดยเร็วที่สุด พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เราคงไม่ต้องออกทีวีเจรจา

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการเจรจาทางลับอยู่ใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การแก้ปัญหาสูงสุดคือ ต้องเอาความปลอดภัยและความอยู่ดีกินดีของประชาชนเป็นหลัก รัฐบาลเคารพฝ่ายค้าน แต่วิธีการกระทำของรัฐบาล ก็ต้องทำภายใต้รัฐธรรมนูญ ที่สำคัญเราต้องเปิดให้ประชาชน มีส่วนในการกำหนดชะตาชีวิตของตัวเอง โดยเฉพาะชาวไทยพุทธต้องเข้ามามีส่วนในการพูดคุยด้วย

เมื่อถามว่า เรื่องการเจรจาพูดคุย ในส่วน หัวหน้าของฝ่ายไทย ยังไม่มีความชัดเจนว่ามีใครบ้าง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เดินเป็นเลขา สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แต่เมื่อเปลี่ยนรัฐบาล ตนไม่ทราบว่าคำสั่งนั้นมีการยกเลิกหรือยัง แต่ก็เป็นแบบนี้มาตลอด ที่เลขา สมช.เป็นหัวหน้าในการพูดคุย

เมื่อถามว่า คนที่เราพูดคุยเจรจาด้วย ใช่คนที่มีอำนาจในการตัดสินใจหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เราอย่าไปด้อยค่าเขา เพราะการพูดคุยหากเป็นช่วงเดือนรอมฎอน ถ้าเขาบอกหยุดก็ต้องหยุด เพราะฉะนั้น เราอย่าไปด้อยค่าใคร

เมื่อถามว่า ในพื้นที่มีใบปลิวโจมตีว่ารัฐบาลจะออก พ.ร.บ.ก่อการร้าย พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ไม่มีคำพูดนี้จากรัฐบาล แต่ในส่วนของวุฒิสภา มีการพูดคุยในเรื่องนี้ แต่ไม่น่าจะมีความคิดนี้ โดยเฉพาะตน ไม่มีแน่นอน

เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.อ.ทวี เคยพูดถึงการเป็นเขตปกครองพิเศษ จุดยืนของพรรคประชาชาติเป็นอย่างไร พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตนไม่เคยพูดถึงเรื่องเขตปกครองพิเศษ แต่พูดว่า ตนพึ่งได้ไปเขตปกครองพิเศษซินเจียง-อุยกูร์มา และบอกว่าลักษณะของเขตปกครองพิเศษนี้ จะคล้ายกับภาคใต้บ้านเรา ในเรื่องของภาษาและวัฒนธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะปิดกั้น นอกจากนี้ คนจีนก็พูดกับคนในพื้นที่ไม่ได้ ต้องมีการแปลจาก ภาษาอุยกูร์เป็นภาษาจีน

เมื่อถามว่า การเพิ่มขึ้นของเหตุความรุนแรงในพื้นที่ ต้องทำให้รัฐบาลเพิ่มการพูดคุยเจรจามากขึ้นหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การเจรจาก็เป็นกุศโลบายหนึ่ง เพราะเราต้องยอมรับว่าคนที่ก่อเหตุเป็นคนไทยด้วยกัน ดังนั้นควรหันหน้ามาคุยกัน
 

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง