วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 13:32 น.

การเมือง

"พิชัย" จี้แบงก์รัฐหั่นกำไร ช่วยผู้ส่งออกลดผลกระทบปมภาษีสหรัฐ

วันพฤหัสบดี ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 16.07 น.

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568  นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลโดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายกระทรวงการคลังให้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยเหลือภาคธุรกิจไทย ที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศนโยบายภาษีสหรัฐอเมริกาเป็นการเร่งด่วนนั้น

กระทรวงการคลังจึงมีนโยบายให้สถาบันการเงินของรัฐปรับกลยุทธ์การดำเนินงานโดยการลดเป้าหมายกำไรจากการทำธุรกิจ เพื่อจัดสรรเม็ดเงินงบประมาณมาจัดทำโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นแก่ผู้ประกอบการ โดยสถาบันการเงินของรัฐทั้ง 7 แห่ง อยู่ระหว่างเตรียมดำเนินการตามนโยบาย

 7 แบงก์รัฐ ประกอบด้วย  1. ธนาคารออมสิน  2. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)  3. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)  4. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ SME D Bank  5. ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM Bank  6. ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย 7. บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)

สำหรับโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการสินเชื่อ Soft Loan วงเงิน 100,000 ล้านบาท โดยธนาคารออมสิน ที่กำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขแตกต่างจากสินเชื่อ Soft Loan โครงการอื่น เนื่องจากมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายผู้ประกอบการที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการชัดเจน 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. ธุรกิจส่งออกไปยังตลาดสหรัฐอเมริกา 2. ธุรกิจ Supply Chain 3. ธุรกิจผู้ผลิตสินค้าที่ต้องมีการแข่งขันสูงกับสินค้านำเข้าราคาถูกจากต่างประเทศ ตลอดจนผู้ประกอบการ SMEs ในภาพรวม และสถาบันการเงินของรัฐอื่นเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคเกษตรกรรม และภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงออกมาตรการลดดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบของนโยบายภาษีสหรัฐอเมริกาที่ส่งผลต่อผู้ส่งออกและธุรกิจ SMEs/Supply Chain อย่างมีนัยสำคัญ เป็นต้น

"ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใต้สภาวะความผันผวนที่ภาคธุรกิจไทยต้องเผชิญความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอกที่ส่งกระทบต่อความเชื่อมั่นและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ กล่าวได้ว่ากลไกสถาบันการเงินของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ผ่านการขับเคลื่อนมาตรการต่าง ๆ ที่จะช่วยเหลือประคับประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นวิกฤติ เศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตอย่างเข้มแข็งยั่งยืนในระยะยาว" นายพิชัย กล่าว

"ออมสิน" จ่อลดดอกเบี้ยช่วยลูกค้า 2–3% รับมือผลกระทบภาษีทรัมป์ 

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยภายหลังการประชุมมอบนโยบายสถาบันการเงินของรัฐ นำโดยนายพิชัยว่า ธนาคารเตรียมเดินหน้านโยบายช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯทันที ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 2–3% โดยไม่ต้องเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) และพร้อมดำเนินการภายใน 2–3 วัน

เป็นนโยบายที่รัฐมนตรีคลังต้องการให้ธนาคารลดกำไรลงเพื่อช่วยเหลือสังคม ซึ่งออมสินทำมาโดยตลอด ครั้งนี้เราพร้อมลดดอกเบี้ยให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ แม้จะกระทบกำไรลดลง แต่ไม่สูญเสียความแข็งแกร่งของธนาคาร โดยลูกค้าที่สนใจต้องมาติดต่อธนาคารเอง จะไม่ได้เป็นการให้ลูกค้าเป็นการทั่วไป

นอกจากนี้ ธนาคารยังเตรียมเสนอ “โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ” (Soft Loan) วงเงินใหม่ 100,000 ล้านบาท เข้าครม. เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะ โดยรูปแบบการปล่อยสินเชื่อจะยังคงเหมือนเดิม คือออมสินปล่อยกู้ให้ธนาคารพาณิชย์ที่อัตรา 0.01% และให้ธนาคารพาณิชย์นำไปปล่อยกู้ต่อให้ลูกค้า

กลุ่มเป้าหมายเบื้องต้นมี 3 กลุ่มหลัก ได้แก่  1. ผู้ส่งออกไปสหรัฐฯ  2. ธุรกิจในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain)  3. ผู้ผลิตที่ต้องแข่งขันกับสินค้านำเข้าราคาถูก

นอกจากนี้ รวมถึงผู้ประกอบการ SMEs โดยทั่วไป ขณะเดียวกัน สถาบันการเงินของรัฐอื่นก็อยู่ระหว่างเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในภาคเกษตรกรรมและอสังหาริมทรัพย์

 
 

หน้าแรก » การเมือง