วันพุธ ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 11:38 น.

การเมือง

ครม.อนุมัติแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ งบ 1.57 แสนล้าน กระตุ้น ศก.ครั้งใหญ่

วันอังคาร ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 12.21 น.

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568  นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา

ซึ่งครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำและคมนาคม การท่องเที่ยว การลดผลกระทบส่งออกและเพิ่มผลิตภาพ ตลอดจนเศรษฐกิจชุมชนและอื่น ๆ โดยมีเป้าหมายกระจายเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ เพื่อรักษาการจ้างงาน และวางรากฐาน โดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการค่าใช้จ่าย เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจโดยมีแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. ข้อเสนอโครงการ/มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

1.1) โครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ ประกอบด้วย (1) ป้องกันอุทกภัยในช่วงฤดูฝน และกักเก็บน้ำไว้สำหรับฤดูแล้ง (2) กระจายน้ำไปยังชุมชนและพื้นที่ต่าง ๆ ผลิตเพื่อสนับสนุนภาคเกษตรในพื้นที่ทั่วประเทศและ (3) พัฒนา/ปรับปรุงระบบประปา

ด้านคมนาคม ประกอบด้วย (1) แก้ไขปัญหาด้านการจราจรในพื้นที่ที่เป็นคอขวดและขาดความเชื่อมโยง (Bottleneck/Missing Link) (2) เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางและขนส่ง (3) แก้ไขปัญหาจุดตัดระหว่างทางรถไฟและถนนเสมอระดับ (4) ก่อสร้าง/ปรับปรุงจุดพักรถบรรทุกเพื่อให้สามารถบังคับใช้พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 และ (5) ปรับปรุง/พัฒนาถนนเชื่อมโยงเมืองรอง แหล่งท่องเที่ยวและพื้นที่การผลิต

1.2 ) การท่องเที่ยวด้านการพัฒนาภาคการท่องเที่ยว ประกอบด้วย (1) ปรับปรุง/พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว สนามกีฬา และสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ห้องน้ำ ห้องพัก สถานที่ป้ายบอกทาง (2) พัฒนาระบบอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว (3) พัฒนาและยกระดับความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว อาทิ การติดตั้งระบบ CCTV ในพื้นที่เมืองท่องเที่ยวสำคัญ และ (4) กระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศโดยเฉพาะในพื้นที่เมืองรอง

1.3) ลดผลกระทบภาคการส่งออก/เพิ่มผลิตภาพด้านการเกษตร เพิ่มผลิตภาพทางการเกษตร อาทิ การสนับสนุนให้เกษตรกร และผู้ประกอบการ SMEs ใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีปรับเปลี่ยนพื้นที่การเพาะปลูกให้เหมาะสม

ด้านการลดผลกระทบแรงงาน สนับสนุนมาตรการการเงินการคลังสนับสนุนสินเชื่อ(เฉพาะผู้ประกอบการส่งออก) เพื่อส่งเสริมการจ้างงานให้กับกองทุนประกันสังคม ด้านดิจิทัล พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล เพื่อสนับสนุนการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลและการค้าระหว่างประเทศ

1.4) เศรษฐกิจชุมชนและอื่น ๆ กองทุนหมู่บ้าน (SML) สนับสนุนงบประมาณแก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อเป็นแหล่งเงินให้กับประชาชนในพื้นที่ และพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก โครงการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนและอื่น ๆ พัฒนาเศรษฐกิจ และการพัฒนาชุมชนที่เป็นความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ในพื้นที่ โครงการการพัฒนาทุนมนุษย์ด้านการศึกษาเพื่อวางรากฐานเศรษฐกิจให้กับประเทศ

2. การกำกับติดตามผลการดำเนินงาน รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน เป็นประธานอนุกรรมการ เพื่อกำกับและติดตามผลการดำเนินงานของโครงการและมาตรการต่าง ๆ ตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฯ ตลอดจนรายงานผลการดำเนินการต่อคณะกรรมการฯ ทราบต่อไป

3. แหล่งเงินในการดำเนินโครงการ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ วงเงินไม่เกิน 157,000 ล้านบาท

4. ระยะเวลาดำเนินการ การจัดทำข้อเสนอโครงการและคำของบประมาณ ให้หน่วยรับงบประมาณจัดทำข้อเสนอโครงการตามแบบฟอร์มการพิจารณาโครงการตามแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2568 ที่กำหนด โดยเสนอผ่านรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล เพื่อเสนอคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ พิจารณาตามที่คณะกรรมการฯ ได้มอบหมาย พร้อมทั้งเสนอโครงการดังกล่าวต่อสำนักงบประมาณในคราวเดียวกันด้วยภายในเดือนพฤษภาคม 2568

5. การพิจารณาอนุมัติโครงการ

คณะกรรมการฯ รวบรวมข้อเสนอโครงการที่ผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ เพื่อพิจารณานำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ ภายในเดือนมิถุนายน 2568
การขอรับจัดสรรงบประมาณ: หน่วยรับงบประมาณนำส่งโครงการที่คณะรัฐมนตรี อนุมัติให้สำนักงบประมาณ โดยสำนักงบประมาณจะพิจารณารายละเอียดโครงการและจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ พ.ศ. 2567 ภายในเดือนกรกฎาคม 2568

นายจิรายุ กล่าวต่อไป ว่านายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฯ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาศัยการเร่งรัดการใช้จ่ายผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถดำเนินการได้

โดยจะส่งผลให้เกิดการจ้างงาน กระจายรายได้ และสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจผ่านการลงทุนในทุนมนุษย์และการปรับปรุงกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ให้เอื้อต่อการยกระดับขีดความสามารถ ในการแข่งขันของประเทศ เพิ่มผลิตภาพแรงงาน และวางรากฐานการพัฒนาในระยะยาว ภายใต้การติดตามแผนการขับเคลื่อน ฯ อย่างรอบคอบ เพื่อให้การใช้งบประมาณ เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

นายจิรายุ  เปิดเผยด้วยว่า นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการสำคัญดังนี้
 
       1.รัฐบาลได้รับข้อร้องเรียนจากภาคเอกชนว่า ขณะนี้มีความพยายามลักลอบน้ำเข้าสินค้าปูน และเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานจำนวนมากตามชายแดน โดยอาจสวมสิทธิ ม.อ.ก. ปลอมด้วย  สั่งการให้กรมศุลกากรและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกันเข้มงวด ตรวจจับปราบปรามโดยประสานข้อมูลกับกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพาณิชย์ ด้วย
 
    2. ในการการลงพื้นที่ตรวจราชการสำรวจตลาดผลไม้ของไทยในภาคตะวันออกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่ตรวจราชการในจังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดที่ปลูกผลไม้ที่สำคัญของไทย เพื่อรับฟังปัญหาในเรื่องคุณภาพ ภาวะล้นตลาดและขั้นตอนการส่งออกจากภาคเกษตรกร และกลุ่มภาคีต่าง ๆ ในพื้นที่ ซึ่งได้รับข้อมูล ที่เป็นประโยชน์อย่างมาก จึงสั่งการดังนี้
        1) ให้ กระทรวงมหาดไทย เร่งรัดติดตามสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี จัดทำ workshop กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องภายในจังหวัด ทั้งภาครัฐ และเอกชน ตั้งแต่ต้นน้ำจนปลายน้ำ เพื่อรับฟังปัญหา ความเห็น และข้อเสนอแนะ เพื่อนำมาเป็นโมเดลให้แก่จังหวัดอื่น ๆ ทั้งในด้านของการตรวจสอบมาตรฐาน และกระบวนการต่าง ๆให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ไขกฎหมาย และบทลงโทษให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น
        2) ให้กระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ กำกับดูแลให้เจ้าหน้าที่ ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เช่น การควบคุมมาตรฐาน GAP รวมทั้ง เร่งทบทวน/ปรับปรุงกฎหมายที่ใช้อยู่ในปัจจุบันให้สอดคล้องกับความเป็นจริง พร้อมกำหนดบทลงโทษให้ชัดเจน
        3) ให้กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการอุดมศึกษาฯ ร่วมกันพิจารณาความเป็นไปได้ในการ จัดให้มีห้องแล็บประจำจังหวัด เพื่อใช้ตรวจสอบคุณภาพของผลไม้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่จะมีการส่งออกไปยังต่างประเทศ
         4) ให้ กระทรวงมหาดไทย  กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานความมั่นคง ศึกษาความเป็นไปได้และความเหมาะสม ในการออกใบอนุญาตทำงานเพื่อให้แรงงานให้สามารถทำงาน ข้ามจังหวัดได้ ภายในช่วงระยะเวลาที่กำหนด โดยมีมาตรการควบคุมให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างชัดเจน
         5) ให้ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงต่างประเทศ ขอความร่วมมือจากด่านของประเทศจีนในการตรวจสอบสอบคุณภาพผลไม้ เพียงด่านเดียวจากไทย รวมทั้งเร่งหามาตรการร่วมกัน เพื่อลดระยะเวลาการเก็บสินค้า และหาพื้นที่หรือโกดังในการรองรับสินค้าที่มีคุณภาพเพื่อลดความเสียหายของสินค้า
         6) ให้กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการอุดมศึกษาฯ ศึกษาหานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ช่วยลดต้นทุน รวมทั้งพัฒนาหาพันธุ์ที่เหมาะสมกับประเทศไทย และตรงตามความต้องการ กับตลาด
         7) ให้ กระทรวงแรงงาน ศึกษาความเป็นไปได้ในการออกใบรับรองวิชาชีพสำหรับเกษตรกรตัดทุเรียน เพื่อควบคุมคุณภาพของการเก็บเกี่ยวผลผลิต ให้เป็นไปตามมาตรฐานของตลาด
 
          3.การจัดการและแก้ไขปัญหาช้างป่า เนื่องจากปัญหาปริมาณข้างป่าที่เพิ่มมากขึ้นและรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ภาคการเกษตรของประชาชน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อพื้นที่ พืชผลทางเกษตร และประชาชนเป็นจำนวนมาก จึงขอมอบหมายให้ กระทรวงทรัพยากรฯ หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางในการแก้ไขเรื่องนี้อย่างจริงจังและเกิดผลเป็นรูปธรรม โดยใช้งบประมาณของ กระทรวงที่ได้รับการจัดสรรไว้แล้ว
 
      สำหรับการแก้ไขปัญหาทางด้านสังคม นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการต่อไป ว่า 
        4.สำหรับปัญหาการพนันออนไลน์ที่แพร่ระบาดในขณะนี้ แม้ว่ารัฐบาลจะมีการปราบปรามและจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับพนันออนไลน์ไปแล้วเป็นจำนวนมาก แต่ปัญหาการพนันออนไลน์ยังคงมีอยู่อย่างแพร่หลาย ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากเป็นหนี้สิน ครอบครัวแตกแยก และเป็นบ่อเกิดอาชญากรรมอื่นๆ ตามมา ขอสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลฯกระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งปราบปรามปัญหาพนันออนไลน์ให้เข้มข้นมากขึ้น รวมทั้งแถลงผลการปราบปรามและดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องให้ประชาชนทราบด้วย
 
       5. สำหรับการแก้ไขปัญหายาเสพติด นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการว่า  ในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นรายงานข่าวเกี่ยวกับปัญหาผู้ติดยาเสพติดก่ออาชญากรรมโดยเฉพาะการทำร้ายพ่อ แม่ และคนในครอบครัวที่เพิ่มมากขึ้น จึงขอให้ กระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้มงวดกับการจับและยึดทรัพย์ผู้ค้า และผู้เสพ รวมทั้งให้ความสำคัญกับกระบวนการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดและให้จัดทำระบบรายงานผลการดำเนินงานดังกล่าว โดยให้กำหนดเป็นตัวชี้วัดผลงานที่สำคัญของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้ สำนักงาน ป.ป.ส. ประสานและจัดทำแผนกำกับติดตามและสนับสนุนปัจจัยต่าง ๆ ด้วย
 
     นายจิรายุ กล่าวต่อไป ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติมอบให้ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนในการบริหารสั่งการกรมสอบสวนคดีพิเศษ( DSI )กระทรวงยุติธรรมส่วนกรณีของนายภูมิธรรม  เวชยชัย. รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เคยมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบกระทรวงยุติธรรมอยู่แล้ว   สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นว่าได้รับมอบหมายให้ดูแลด้านความมั่นคงซึ่งรวมถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องขอมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในการมอบหมายอีก

เห็นชอบร่างงบปี 69 วงเงิน 3.78 ล้านลบ.ชงเข้าสภา 28-30 พ.ค.
 
นายจิรายุ  เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาพร้อมเอกสารประกอบงบประมาณแล้ว โดยจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไปตามที่สำนักงบประมาณเสนอ

สำหรับปฏิทินงบประมาณครั้งนี้ได้มีการเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญในวันที่ 28-30 พ.ค.68 เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ในวาระที่1 จากนั้นจะเข้าสู่วาระที่ 2 เพื่อพิจารณารายมาตรา และวาระที่ 3 เพื่อประกาศใช้ต่อไปในเดือน ต.ค.นี้

สำหรับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 จำแนกตามประเภทต่าง ๆ ได้ดังนี้
1.จำแนกตามกลุ่มงบประมาณ ดังนี้
- รายจ่ายงบกลาง 632,968.75 ล้านบาท คิดเป็น 16.74%
- รายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณ 1,408,060.33 ล้านบาท คิดเป็น 37.25%
- รายจ่ายบูรณาการ 98,767.82 ล้านบาท คิดเป็น 2.61%
- รายจ่ายบุคลากร 820,820.81 ล้านบาท คิดเป็น 21.71%
- รายจ่ายสำหรับทุนหมุนเวียน 274,576.81 ล้านบาท คิดเป็น 7.26%
- รายจ่ายเพื่อการชำระหนี้ภาครัฐ 421,864.43 ล้านบาท คิดเป็น 11.16%
- รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง 123,541.06 ล้านบาท คิดเป็น 3.27%

2.จำแนกตามยุทธศาสตร์ 6 ด้าน และรายการค่าดำเนินการภาครัฐ ดังนี้
- ด้านความมั่นคง 415,327.94 ล้านบาท
- ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน 394,611.65 ล้านบาท
- ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 605,927.26 ล้านบาท
- ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 942,709.17 ล้านบาท
- ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 147,216.90 ล้านบาท
- ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ 605,441.60 ล้านบาท
 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง