การเมือง
เกษตรฯ ประกาศตนเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้แมลงผสมเกสร เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 นางณมาณิตา กลับบ้านเกาะ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน เปิดกิจกรรมวันผึ้งโลก ภายใต้กิจกรรมเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิตการตลาดแมลงเศรษฐกิจและประชาสัมพันธ์สินค้าแมลงเศรษฐกิจ ณ จริงใจ มาร์เก็ต จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อตอกย้ำบทบาท "นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม" สู่โลกการเกษตรอย่างยั่งยืน ที่ปัจจุบันความมั่นคงทางอาหารทั่วโลก กำลังเผชิญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการใช้แมลงผสมเกสร เช่น ผึ้ง ช่วยเพิ่มผลผลิตพืชไร่และผลไม้หลากหลายชนิดได้อย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับประเทศไทยมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจ เช่น ผึ้งพันธุ์ ผึ้งโพรง ชันโรง จิ้งหรีด และครั่ง ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญทั้งด้านเศรษฐกิจการเกษตร และสิ่งแวดล้อม รวมถึงสามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม และมีแนวโน้มเติบโตในตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ระบบนิเวศ การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง และยังส่งผลกระทบอย่างมากต่อผึ้งและแมลงช่วยผสมเกสร ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบนิเวศ และความมั่นคงทางอาหารของมนุษย์
ด้านนายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวคิดในการส่งเสริมการเลี้ยงแมลงผสมเกสร เป็นหนึ่งในวิธีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และสร้างความยั่งยืนให้กับภาคเกษตรกรรมของไทยและโลก การส่งเสริมการเกษตรในปัจจุบัน จึงให้ความสำคัญกับการสนับสนุนเกษตรกรให้เลี้ยงแมลงเศรษฐกิจ เช่น ผึ้ง เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของการทำเกษตรแบบยั่งยืน และส่งเสริมการเลี้ยงให้ได้รับมาตรฐาน GAP
ซึ่งการเดินหน้าแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนจึงต้องเข้าใจปัญหา และเข้าใจวงจรชีวิตของแมลงอย่างแท้จริง กิจกรรมสำคัญภายในงานกิจกรรมหนึ่งคือ การเสวนา การรับมือเท่าทันภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบต่อการเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจ จากผู้เชี่ยวชาญด้านแมลงเศรษฐกิจ ด้านการรับมือการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ได้ข้อสรุปที่สำคัญ ดังนี้
ภูมิอากาศป่วน วงจรชีวิตผึ้งสะเทือน
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลโดยตรงต่อพฤติกรรมและการอยู่รอดของผึ้ง อุณหภูมิสูงกว่าปกติทำให้รังร้อนเกิน 35 องศาเซลเซียส ซึ่งอาจทำให้ผึ้งต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการระบาย สความร้อน ส่งผลให้หาอาหารได้น้อยลง
รวมถึงภาวะฤดูกาลเลื่อนจากโลกร้อน ทำให้เวลาการออกดอกของพืชไม่ตรงกับช่วงผึ้งออกหาน้ำหวาน ส่งผลต่อการผสมเกสรและลดปริมาณน้ำผึ้ง ขณะเดียวกัน ความเครียดจากสภาพอากาศยังทำให้ผึ้งอ่อนแอ ติดโรคง่าย และไวต่อพาหะนำโรค ผลรวมของปัจจัยเหล่านี้กำลังคุกคามความอยู่รอดของผึ้ง แมลงเศรษฐกิจสำคัญที่มีบทบาทต่อระบบนิเวศและความมั่นคงทางอาหารของมนุษย์ ส่งผลความสามารถหาอาหารของผึ้ง ลดความสามารถในการผสมเกสร
ทั้งนี้ผึ้งยุคโลกร้อนถือเป็นความท้าทายของเกษตรกรและสิ่งแวดล้อม โดยสิ่งที่ท้าทายที่สุดคือ ต้นทุนการจัดการที่สูงขึ้น ทางออกคือ เกษตรกรต้องลงทุนในวิธีเลี้ยงผึ้งที่ปลอดภัย เช่น การติดตั้งรังผึ้งในพื้นที่ควบคุมอุณหภูมิ การใช้เซ็นเซอร์ตรวจสภาพรัง หรือการเคลื่อนย้ายรังตามฤดูกาล ไปยนหาอาหารแหล่งใหม่ให้กับผึ้ง รวมถึงความเสี่ยงจากโรคและศัตรูผึ้ง อากาศแปรปรวนทำให้แมลงพาหะและโรคผึ้งระบาดบ่อยขึ้น เกษตรกรต้องใช้ความรู้และเทคโนโลยีเพื่อควบคุมโดยไม่ทำลายระบบนิเวศ นอกจากนี้การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งผึ้งเป็นตัวชี้วัดสุขภาพของระบบนิเวศ หากผึ้งลดลงจะกระทบต่อการผสมเกสรของพืชป่า ทำให้ความหลากหลายทางชีวภาพลดลงและระบบนิเวศเสียสมดุล เมื่อผลผลิตพืชลดลง อาจกระทบต่อปริมาณและคุณภาพอาหารในตลาด ซึ่งเชื่อมโยงถึงผู้บริโภคและเศรษฐกิจโดยรวม
โดยเกษตรแม่นยำปกป้องผึ้งเมื่อเทคโนโลยีจับมือสิ่งแวดล้อมส่งเสริมให้เกษตรกรมีองค์ความรู้เกษตรแม่นยำ (Precision Agriculture) ใช้ข้อมูลสภาพอากาศ เพื่อวางแผนปลูกพืชและจัดรอบการปล่อยผึ้งผสมเกสรให้สอดคล้องกับช่วงออกดอกของพืชมากที่สุด ใช้การตรวจวัดอุณหภูมิ ความชื้น และปริมาณผึ้ง พร้อมส่งข้อมูลผ่านระบบ IoT และแอปพลิเคชัน แจ้งเตือนเมื่อสภาพรังเสี่ยงต่อความร้อนสูงหรือความชื้นไม่เหมาะสม รวมถึงการฟื้นฟูระบบนิเวศการเกษตร โดยเชื่อมความร่วมมือระหว่าง ผู้วิจัย และหน่วยงานรัฐ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลโรคผึ้ง ผลผลิต และสภาพอากาศ ช่วยให้การตัดสินใจแม่นยำและลดความสูญเสีย การผลิตที่ควบคู่กับการฟื้นฟูระบบนิเวศการเกษตร
ขณะเดียวกันจะต้องมีความเชื่อมความร่วมมือระหว่าง ภาคการศึกษา ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคเกษตร เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลผลผลิต และสภาพอากาศ ช่วยให้การตัดสินใจแม่นยำและลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ส่งเสริมการเข้าสู่ระบบมาตรฐาน GAP รวมถึงการจัดทำฐานข้อมูลผู้เลี้ยงแมลงเศรษฐกิจ โดยสร้างการรับรู้ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงแมลงเศรษฐกิจ เปิดรับขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ 1. มาแจ้งด้วยตนเอง ณ สถานที่รับขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ได้แก่ ศูนย์บริการเกษตรพิรุณราช ณ สำนักงานเกษตรอำเภอ (ตามที่ตั้งแปลง) หรือจุดนัดหมายที่สำนักงานเกษตรอำเภอกำหนด 2. แจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้ด้วยตนเองผ่าน e-Form ทบก. (https://efarmer.doae.go.th) และ 3. Farmbook Application (สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม)
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- ททท.กระบี่ ชวนเปลี่ยนโหมดมาสัมผัสการท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบมีสไตล์และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กับงาน “Krabi Agro Fest” 10 ส.ค. 2568
- แม่ทัพภาคที่ 2 รับมอบโดรน 10 ชุดจาก "ทักษณ" หนุนป้องกันชายแดน เสริมศักยภาพลาดตระเวน 10 ส.ค. 2568
- แม่ทัพภาค 2 เปิดใจศึกชายแดน! กัมพูชาส่งทหารนับพัน-โดรนล่าพิกัด รพ. หวังยึด "ตาเมือนธม" 10 ส.ค. 2568
- "ธีรรัตน์" ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างบ้านให้ประชาชนพื้นที่ตำบลสีวิเชียร อ.น้ำยืน พร้อมกำชับจังหวัดเร่งเบิกจ่ายเงินเยียวยา 10 ส.ค. 2568
- ไทยร้องอนุสัญญาออตตาวา กัมพูชาละเมิดวางทุ่นระเบิดใหม่ ทำทหารเจ็บสาหัส 10 ส.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
"บุ๋ม ปนัดดา" เริ่มแล้ว! ประณามกัมพูชาวางทุ่นระเบิดในเขตไทย ละเมิดอนุสัญญา–ข้อตกลงหยุดยิง ยังไม่มีอะไรฝากถึง "มาลี" 21:23 น.
- ปัญหาชายแดนคลี่คลาย! "ภูริกา" เบอร์ 1 เพื่อไทย รุกหาเสียงเลือกซ่อมศรีสะเกษ เขต 5 ลุยเปิดเวทีรับฟังปัญหาถึงชุมชน 20:39 น.
- "เฮง รัตนา" อ้างทหารไทยเหยียบระเบิดตกค้าง ยกข้อตกลง GBC ไม่เคลื่อนย้ายกำลัง-ลาดตระเวนที่ตั้งอีกฝ่าย 20:27 น.
- “มาลี” ยังไม่ได้รับรายงานทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด ยันเคารพข้อตกลงหยุดยิง หวังว่าไทยจะไม่เคลื่อนกำลัง 19:50 น.
- "มนพร" รมช.คมนาคม มอบสไบเบี่ยงขาว หนุนสวมชุดพื้นเมือง เข้าวัดฟังธรรม สืบสานประเพณี กระตุ้นเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว ชุมชน 18:29 น.