การเมือง
ไทยร้องอนุสัญญาออตตาวา กัมพูชาละเมิดวางทุ่นระเบิดใหม่ ทำทหารเจ็บสาหัส
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

กต.ส่งหนังสือ 3 ฉบับถึงประธานรัฐภาคีฯ และยูเอ็น หลังพบการวางทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ละเมิดพันธกรณีระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2568 กระทรวงการต่างประเทศเผยแพร่คำชี้แจงการดำเนินการของประเทศไทยต่อเหตุการณ์ที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด รวม 3 ครั้ง โดยระบุว่า ตามที่เมื่อวันที่ 16, 23 ก.ค. และ 9 ส.ค.2568 กองกำลังทหารไทยรวม 11 นาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่วางใหม่โดยกองกำลังทหารกัมพูชาในบริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี และช่องโดนเอาว์-กฤษณา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ตามลำดับนั้น กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการภายใต้กรอบอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mine Ban Convention: APMBC) หรืออนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Convention) เพื่อตอบโต้กัมพูชา ดังนี้
1.เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา สหพันธรัฐสวิส มีหนังสือถึงประธานการประชุมรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 จำนวน 3 ฉบับ ดังนี้ หนังสือฉบับแรก ลงวันที่ 23 ก.ค.2568) ไทยร้องเรียนกัมพูชาละเมิดพันธกรณีข้อ 1 ของอนุสัญญาฯ (ห้ามใช้หรือสะสมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล) ที่บริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานีที่เป็นเส้นทางลาดตระเวนปกติของทหารไทย ซึ่งผลการตรวจสอบโดยหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยพบว่าทุ่นระเบิดที่ทหารไทยเหยียบเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางใหม่ และเป็นทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ซึ่งกัมพูชาครอบครอง ดังนั้น ฝ่ายไทยขอให้ประธานอนุสัญญาฯ เวียนหนังสือแจ้งรัฐภาคีอื่นๆ เพื่อทราบต่อการละเมิดอนุสัญญาฯ ของฝ่ายกัมพูชา
หนังสือฉบับที่ 2 ลงวันที่ 24 ก.ค.2568 ไทยร้องเรียนกัมพูชาละเมิดพันธกรณีของอนุสัญญาฯ ที่บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี และแจ้งว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2568 เวลา 20.00 น. กัมพูชาได้กระทำการรุกรานอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย โดยได้โจมตีมายังฝั่งไทยอย่างไม่แยกแยะระหว่างพลรบและพลเรือน ซึ่งส่งผลกระทบทางมนุษยธรรมและขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และขอให้ประธานอนุสัญญาฯ เวียนหนังสือถึงรัฐภาคีอื่นๆ เพื่อทราบต่อการละเมิดอนุสัญญาฯ ของฝ่ายกัมพูชา
หนังสือฉบับที่ 3 ลงวันที่ 9 ส.ค.2568 ไทยร้องเรียนการละเมิดพันธกรณีของกัมพูชาในพื้นที่บริเวณช่องโดนเอาว์-กฤษณา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้เก็บกู้ทุ่นระเบิดแล้ว และจากการตรวจสอบหลักฐานพบว่าเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นเพียง 2 วันหลังจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งในการประชุมดังกล่าว ฝ่ายไทยได้เสนอให้ไทยและกัมพูชาเก็บกู้ทุ่นระเบิดร่วมกันตามที่นายกรัฐมนตรีของทั้ง 2 ประเทศตกลงกันไว้ แต่ฝ่ายกัมพูชาปฏิเสธ ไทยจึงขอให้ประธานอนุสัญญาฯ เวียนหนังสือแจ้งรัฐภาคีอื่น ๆ เพื่อทราบต่อการละเมิดอนุสัญญาฯ ของฝ่ายกัมพูชา
2.เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา มีหนังสือลงวันที่ 24 ก.ค.2568 ถึงเลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อขอรับความชัดเจนจากฝ่ายกัมพูชาต่อการกระทำที่เป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งเป็นการดำเนินการตามกระบวนการการเรียกร้องให้รัฐภาคีปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาออตาวา ตามข้อ 8 วรรค 2 ของอนุสัญญาฯ ซึ่งระบุว่ารัฐภาคีสามารถขอความชัดเจน และขอให้แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพันธกรณีของอนุสัญญาฯ ของอีกรัฐสมาชิกหนึ่งผ่านเลขาธิการสหประชาชาติ โดยกัมพูชามีพันธกรณีที่จะต้องส่งข้อมูลและคำชี้แจงต่อฝ่ายไทยผ่านเลขาธิการสหประชาชาติ
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา และเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ได้เข้าพบประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 และเลขาธิการสหประชาชาติ รวมถึงผู้แทนระดับสูงของรัฐภาคีต่างๆ ของอนุสัญญาฯ ตลอดจนองค์กรภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้ดำเนินการต่อการละเมิดพันธกรณีของกัมพูชา และชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการการปฏิบัติตามอนุสัญญาฯ ของกรอบอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง
สำหรับอนุสัญญาออตตาวา ห้ามรัฐภาคีใช้ สะสม ผลิต หรือเคลื่อนย้าย ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล รวมทั้งให้ทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคลตามที่ระบุในอนุสัญญาฯ โดยปัจจุบันมีสมาชิก 165 ประเทศ ซึ่งไทยเข้าเป็นภาคีในปี 2542 (เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) และได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังอาวุธหมดสิ้นเมื่อปี 2546 และทำลายทุ่นระเบิดส่วนที่เก็บไว้เพื่อการวิจัยและอบรมหมดสิ้นในปี 2562 ขณะที่กัมพูชาเข้าเป็นภาคีในปี 2543 และยังคงมีทุ่นระเบิดที่เก็บไว้สำหรับการวิจัยและอบรม รวมถึงทุ่นระเบิดประเภท PMN-2
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- ททท.กระบี่ ชวนเปลี่ยนโหมดมาสัมผัสการท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบมีสไตล์และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กับงาน “Krabi Agro Fest” 10 ส.ค. 2568
- แม่ทัพภาคที่ 2 รับมอบโดรน 10 ชุดจาก "ทักษณ" หนุนป้องกันชายแดน เสริมศักยภาพลาดตระเวน 10 ส.ค. 2568
- แม่ทัพภาค 2 เปิดใจศึกชายแดน! กัมพูชาส่งทหารนับพัน-โดรนล่าพิกัด รพ. หวังยึด "ตาเมือนธม" 10 ส.ค. 2568
- "ธีรรัตน์" ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างบ้านให้ประชาชนพื้นที่ตำบลสีวิเชียร อ.น้ำยืน พร้อมกำชับจังหวัดเร่งเบิกจ่ายเงินเยียวยา 10 ส.ค. 2568
- ไทยร้องอนุสัญญาออตตาวา กัมพูชาละเมิดวางทุ่นระเบิดใหม่ ทำทหารเจ็บสาหัส 10 ส.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
"บุ๋ม ปนัดดา" เริ่มแล้ว! ประณามกัมพูชาวางทุ่นระเบิดในเขตไทย ละเมิดอนุสัญญา–ข้อตกลงหยุดยิง ยังไม่มีอะไรฝากถึง "มาลี" 21:23 น.
- ปัญหาชายแดนคลี่คลาย! "ภูริกา" เบอร์ 1 เพื่อไทย รุกหาเสียงเลือกซ่อมศรีสะเกษ เขต 5 ลุยเปิดเวทีรับฟังปัญหาถึงชุมชน 20:39 น.
- "เฮง รัตนา" อ้างทหารไทยเหยียบระเบิดตกค้าง ยกข้อตกลง GBC ไม่เคลื่อนย้ายกำลัง-ลาดตระเวนที่ตั้งอีกฝ่าย 20:27 น.
- “มาลี” ยังไม่ได้รับรายงานทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด ยันเคารพข้อตกลงหยุดยิง หวังว่าไทยจะไม่เคลื่อนกำลัง 19:50 น.
- "มนพร" รมช.คมนาคม มอบสไบเบี่ยงขาว หนุนสวมชุดพื้นเมือง เข้าวัดฟังธรรม สืบสานประเพณี กระตุ้นเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว ชุมชน 18:29 น.