วันศุกร์ ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567 17:35 น.

กทม-สาธารณสุข

เปลี่ยน “ภาระ” เป็น “พลัง” !! สสส.ปลุกชุมชนน่าอยู่

วันศุกร์ ที่ 02 มีนาคม พ.ศ. 2561, 20.40 น.

เปลี่ยน “ภาระ” เป็น “พลัง” !! สสส.ปลุกชุมชนน่าอยู่

 

สสส.เปิดข้อมูลสถานะชุมชน เครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ปี 61 ห่วงสูงวัยอยู่ลำพัง 22.72 % ชี้ผู้สูงอายุ 84 % ติดสังคม ช่วยสุขภาพใจ-กายแข็งแรง ดึงศักยภาพเปลี่ยน “ภาระ” เป็น “พลัง” เดินหน้าพัฒนาคุณภาพชีวิตเป็นรูปธรรม ขณะที่สถานการณ์สูบบุหรี่ในชุมชนลดได้ร้อยละ 93.2

 

 

ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี   เครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ สำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส ) จัดเวทีสานพลังชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็งสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ครั้งที่ ๒ ประจำปี 2561 “ศาสตร์ของพระราชากับการสร้างเสริมสุขภาวะชุมชน” ระหว่างวันที่ ๑-๓ มีนาคม อโดยมีงค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมกว่า ๑,๕๐๐ ตำบลมีตัวแทนเข้าร่วมกว่า๔,๐๐๐ คน โดยนำเสนอข้อมูลชุมชน และนวัตกรรมในการแก้ปัญหาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน

 

นางสาวดวงพร  เฮงบุณยพันธ์  ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน สสส.  กล่าวถึง  รายงานการขับเคลื่อน “เครือข่ายร่วมสร้างชุมชมท้องถิ่นน่าอยู่กับการสร้างเสริมสุขภาวะชุมชน” ว่า จากข้อมูลในการทำงาน สร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ของเครือข่ายชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ๒,๗๐๕ แห่ง มีประชากรในเครือข่าย ๘.๕ ล้านคน  หรือคิดเป็นจำนวนครัวเรือนจำนวน ๒.๗ ล้านครัวเรือน ผลการสำรวจสถานะชุมชน จากการทำงานของกลไกเครือข่ายในพื้นที พบว่า มีผู้สูงอายุ ๖๐-๖๙ ปี มากที่สุด ร้อยละ ๕๕ ซึ่งในกลุ่มนี้ หากมีการเตรียมพร้อมที่ดีก็สามารถเปลี่ยนภาระเป็นพลังได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุติดสังคมที่มีถึงร้อยละ ๘๔ ถือเป็นทุน ศักยภาพ โอกาส ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ เพราะเป็นกลุ่มที่มีสุขภาพแข็งแรง และยิ่งติดสังคมก็จะช่วยให้อายุยืน มีความสุข นอกจากนี้พบว่า มีผู้สูงอายุที่อยู่กับครอบครัว ร้อยละ ๔๗  ผู้สูงอายุที่อาศัยเพียงคนเดียวร้อยละ ๒๒.๗๒ ผู้สูงอายุที่อยู่กับกับเด็กร้อยละ ๑๗.๓๑  ผู้สูงอายุที่อยู่ด้วยกันลำพัง ร้อยละ ๑๒.๙๕ ซึ่งในปีนี้ สสส.และเครือข่ายฯจะพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุให้เห็นผลเป็นรูปธรรม

 

นางสาวดวงพร  กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังพบว่าการทำงานของเครือข่ายในเรื่องของการจัดการสารเคมี โดยมีการใช้สารเคมี ร้อยละ ๑๐.๓๓  และมีครัวเรือนที่ลดปริมาณการใช้สารเคมี และเริ่มทำเกษตรอินทรีย์ร้อยละ ๕.๐๖  โดยการทำปุ๋ยหมักใช้เอง ส่วนปัญหาหนี้สินครัวเรือนพบว่า ชุมชนในเครือข่าย มีหนี้ ร้อยละ ๔๗  ไม่มีหนี้ ร้อยละ ๕๓ มีการออมร้อยละ๔๕.๒  ไม่มีการออมร้อยละ ๕๔.๕ ขณะที่การควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ ๗.๔๑และควบคุมการบริโภคบุหรี่ได้มากถึงร้อยละ ๙๓.๒ ทั้งนี้ความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับชุมชน เกิดจากการทำงานของศาสตร์พระราชาที่ทดลองปฏิบัติมาแล้วกว่า ๗๐ ปี โดยใช้เครื่องมือการพัฒนาศักยภาพใน ๔ ภาคี คือ ท้องถิ่น ท้องที่ หน่วยงานรัฐ องค์กรชุมชนให้เห็นศักยภาพของพื้นที่ตัวเอง โดยใช้การวิจัยข้อมูล จนสามารถขับเคลื่อนเป็นนโยบายสาธารณะได้

 

ด้าน นายธวัชชัย ฟักอังกูร ประธานกรรมการบริหารแผน คณะที่ ๓ สสส.กล่าวในการเสวนาปฏิรูประบบปฏิบัติการของชุมชนท้องถิ่นสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนว่า สสส.มีแผนสุขภาวะชุมชนมา ๘ ปีแล้ว เป็นการปฏิรูปให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง  โดยเริ่มต้นปฏิรูปชุมชนท้องถิ่นด้วยการทำความเข้าใจตัวเอง เริ่มจากจัดเก็บข้อมูล เริ่มเข้าใจว่าชุมชนมีปัญหาอะไร เริ่มค้นพบว่าสิ่งที่คิดว่าเป็นปัญหา

 

“หากชุมชนเข้าถึงปัญหาจะเกิดจากการเข้าถึงทุนและศักยภาพในชุมชน และเริ่มพัฒนาตัวเองโดยไม่รอหน่วยงานรัฐ ทั้งหมดที่ทำนี้คือศาสตร์พระราชา ในเรื่องการเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา” นายธวัชชัย กล่าวและว่า เครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่กำลังก้าวเดินสู่ระยะที่ ๒ ใช้แนวทางตามยุทธศาสตร์เดิม แต่เข้มข้นด้วยประสบการณ์ และวิชาการ ในการแก้ปัญหาจากเป้าหมายแรก แก้ปัญหาตนเอง สู่การแก้ปัญหาสังคม ปัญหาของประเทศและของโลก เราจะเป็นชุมชนที่มีการแก้ปัญหาอย่างสมบูรณ์แบบ หากไม่แก้ปัญหาสังคม หรือปัญหาโลก วันหนึ่งปัญหาเหล่านั้นจะย้อนกลับมาหาเราได้อีก

หน้าแรก » กทม-สาธารณสุข