วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 17:50 น.

กทม-สาธารณสุข

“สมศักดิ์” เปิดบริการทุกช่วงวัยฯ รพ.คำเขื่อนแก้วยโสธร พร้อมมอบเครื่องช่วยฟัง หวังยกระดับส่งเสริมสุขภาพ

วันศุกร์ ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 15.26 น.

“สมศักดิ์” เปิดบริการทุกช่วงวัยฯ รพ.คำเขื่อนแก้วยโสธร พร้อมมอบเครื่องช่วยฟัง หวังยกระดับส่งเสริมสุขภาพ เผยข่าวดีที่แรก ส่งร่างพ.ร.บ.อสม.เข้าสภาฯ แล้ว เล็งคุย สปสช.หากประหยัดค่า รักษา NCDs ได้ ขอดึงเข้าบัญชีนอกงบประมาณให้ อสม.  

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568    ที่โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร นายสมศักดิ์ เทพสุทินรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีเปิดโครงการบริการทุกช่วงวัยด้วยความห่วงใยจากกระทรวงสาธารณสุข อสม.มั่นคง สาธารณสุขเข้มแข็งเพื่อคนไทยห่างไกล NCDs และเป็นประธานเปิดอาคารผู้ป่วยนอก และอาคารอุบัติเหตุฉุกเฉิน โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว  โดยมีนายขรรค์ไชย ทันทิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร นายวิเชียร สมวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารและบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข นายบุญแก้ว สมวงศ์ สส.ยโสธร เขต 2 พรรคเพื่อไทย นางสุภาพร สลับศรี สส.ยโสธรเขต 1 พรรคไทยสร้างไทย และอสม.เข้าร่วมงาน 

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายทางสาธารณสุขที่สำคัญ เช่น โครงสร้างประชากรแบบสังคมสูงวัย การเพิ่มขึ้นของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs  เราจึงจำเป็นต้องยกระดับส่งเสริมสุขภาพ  การป้องกันและรักษาโรค สำหรับพี่น้องประชาชนทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็น โรค NCDs  เช่น เบาหวาน มะเร็ง หัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากปัจจัยเสี่ยงทางพฤติกรรมที่สามารถป้องกันได้รวมถึงโรคหรือปัญหาสุขภาพที่สำคัญของผู้สูงอายุ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตา หู และกระดูก ตนจึงมีความยินดี ที่ได้มาเปิดโครงการบริการทุกช่วงวัย ด้วยความห่วงใยจากกระทรวงสาธารณสุข มอบเครื่องช่วยฟัง เปิดอาคารผู้ป่วยนอกและอาคารอุบัติเหตุฉุกเฉิน ที่โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว 
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้า พ.ร.บ.อสม.ว่า อสม.ยโสธร เป็นที่แรกที่จะได้ทราบข่าวดีว่าได้ส่งร่าง พ.ร.บ.อสม.เข้าสภาฯ เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยได้ประสานวิปรัฐบาล เพื่อให้บรรจุระเบียบวาระ ถ้าโชคดี ในการประชุมสภาฯ วันที่ 30 พ.ค. ถ้าบรรจุระเบียบวาระทันจะได้พิจารณา ซึ่งสภาฯ ใช้เวลาในการทำงาน แต่ละฉบับใช้เวลาประมาณ 2 ปี วันนี้ถือว่าไปถึงบันไดขั้นที่ 1 ของสภาฯ และจะไปประกบร่างกฎหมายของพรรคเพื่อไทย และพิจารณาร่วมกันต่อไป ในกฎหมายจะทำให้ อสม.มั่นคง มีเครดิตเพิ่มขึ้น สถาบันการเงินก็ต้องการจะปล่อยเงินให้กู้ยืมได้ และจะมีบัญชีนอกงบประมาณที่จะใช้เฉพาะกิจการ อสม.แต่ไม่ของบฯจากรัฐบาลโดยตรง จะขอจากส่วนแบ่งที่ อสม. สามารถทำให้ประหยัดงบฯ การรักษาพยาบาลประชาชนลงได้ โดยเฉพาะในโรค NCDs ที่ใช้งบประมาณแต่ละปีสูงถึง 7.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งตนพยายามรณรงค์การนับคาร์บ หรือการรับประทานคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกาย เพราะทำให้เกิดสารพัดโรคจากการกิน ถ้าประหยัดเงินได้ มันมีความหมายกับ อสม. มาก โดยเฉพาะบัญชีนอกงบประมาณจะเป็นตัวรับเงิน ตนจะไปต่อรองกับ สปสช.ที่ใช้เงินรักษา NCDs จำนวน 7.9 หมื่นบ้านบาท ถ้ารักษาเบาหวาน 6.5 ล้านคน จะประหยัด 2.6 หมื่นล้านบาท เงินส่วนนี้ควรเข้าบัญชีนอกงบประมาณของ อสม.

จากนั้นนายสมศักดิ์ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการบูธคลินิกทั้ง 11 บูธ อาท  คลินิกโรคอ้วน คลินิก NCDs คลินิกโรคไต  คลินิกผ่าตัดนิ้วล็อค คลินิกบริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ คลินิกสมุนไพร พร้อมกับพูดคุยทักทาย ถ่ายภาพร่วมกับ อสม.
 

หน้าแรก » กทม-สาธารณสุข