วันจันทร์ ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2568 01:35 น.

กทม-สาธารณสุข

 “สมศักดิ์” ปลื้ม 1 ปี 4 เดือน ทำตามสัญญา ดันสภารับร่างพ.ร.บ.อสม.สำเร็จ

วันเสาร์ ที่ 06 กันยายน พ.ศ. 2568, 11.42 น.

 “สมศักดิ์” ปลื้ม 1 ปี 4 เดือน ทำตามสัญญา ดันสภารับร่างพ.ร.บ.อสม.สำเร็จ ยืนยันยึดมั่นยกระดับคุณภาพชีวิต “หมอคนที่ 1” ใกล้ชิดประชาชน ตอบแทนการทำงานหนัก  

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขอขอบคุณสภาผู้แทนราษฎรที่ลงมติรับหลักการร่างพ.ร.บ.อสม.ที่ได้มีการนำเสนอเมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 1 ปี 4 เดือน ตนมีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับด้านความมั่นคงในพี่น้อง อสม. โดยทันทีที่รับตำแหน่งในเดือน พ.ค. 67 ภายในเดือนมิ.ย.ก็ได้สรุปเรื่องและขั้นตอน เดือน ก.ค.ประชุมร่างกฎหมายและรับฟังความคิดเห็นประชาชนผ่านเว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข ก่อนรายงานไปยังคณะรัฐมนตรีและรับฟังความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในจุดนี้ล่าช้าติดขัด ต้องมีการประสานงานอย่างต่อเนื่องนำมาสู่การปรุงปรุงแก้ไขจนสำเร็จเรียบร้อย กระทั่งได้บรรจุวาระและเสนอต่อที่ประชุมสภาฯ และมีมติรับหลักการ ถือว่าทำได้อย่างรวดเร็ว ตามความตั้งใจที่ได้สัญญาไว้กับที่น้อง อสม. และอสส. 

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ระบบสาธารณสุขของประเทศไทย มีความเข้มแข็งเป็นที่ประจักษ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับปฐมภูมิ ซึ่งมีหัวใจสำคัญคือ อสม. ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนมากถึง.1,090,163 คน ซึ่งได้อุทิศตนเป็น "หมอคนที่หนึ่ง อยู่ใกล้ชิดประชาชนที่สุด และเป็นกำลังสำคัญ ในการดูแลสุขภาพของคนในชุมชน ด้วยจิตอาสามาอย่างยาวนาน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 ที่ผ่านมา ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นกลไกหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ในการเฝ้าระวังและป้องกันโรค รวมถึงการต่อสู้กับโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหรือ NCDs ซึ่งเป็นปัญหาที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ โดย อสม.เป็นกลไกสำคัญในการช่วยรณรงค์นับคาร์บ ขณะนี้คนไทยรับรู้การนับคาร์บแล้วกว่า 42 ล้านคน และประชาชนได้รับการคัดกรองสุขภาพ จำนวนกว่า 15,897,389 ล้านคน / อันทำให้สามารถค้นหากลุ่มเสี่ยงได้มากขึ้น ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างทั่วถึง และสามารถลดการใช้ยา ประหยัดค่าจ่ายในช่วงเริ่มแรกได้ถึง 823.37 ล้านบาท

“หลักการของร่างกฎหมายดังกล่าวเพื่อยกระดับสถานะและสร้างหลักประกันที่มั่นคงให้แก่ อสม.เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ โดยกำหนดสิทธิประโยชน์และสวัสดิการที่จำเป็นไว้ในกฎหมายอย่างชัดเจน  อาทิ.ค่าป่วยการสิทธิในการรักษาพยาบาล และการสนับสนุนอื่น ๆ อันเป็นการตอบแทนคุณความดีและความเสียสละ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของ อสม. อย่างต่อเนื่อง ให้มีความรู้ความสามารถที่ทันสมัย สามารถรับมือกับความท้าทายด้านสุขภาพได้ ขณะที่ประชาชนจะได้รับการดูแลสุขภาพในระดับชุมชนอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ประเทศจะมีระบบสาธารณสุขปฐมภูมิที่มั่นคง สามารถรับมือกับภาวะวิกฤตด้านสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ”นายสมศักดิ์กล่าว