เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568   นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นางสาวจิตศ์ตราฎ์ หมีทองธนกรณ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 10 นายแพทย์นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา รองอธิบดีกรมอนามัย นายแพทย์ปกรณ์ ตุงคะเสรีรักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัยทีม SEhRT และคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่หาดใหญ่ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เยี่ยมประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ และมอบสิ่งของสนับสนุนด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม ช่วยลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพในช่วงหลังน้ำลด

นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ที่ส่งผลกระทบครอบคลุมจังหวัดสุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ส่งกระทบเป็นวงกว้างกว่า 92 อำเภอ 581 ตำบล 4,146 หมู่บ้าน 719,858 ครัวเรือน 1,917,521 คน ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มเปราะบาง จากข้อมูลกรมอนามัยที่ติดตามกลุ่มเปราะบางในพื้นที่หาดใหญ่ มีจำนวน 117,184 คน ได้รับมีการติดตามดูแลแล้ว 85,032 คน คิดเป็นร้อยละ 72.56 ส่วนเป็นผู้สูงอายุ 65,648 คน ในกลุ่มนี้เป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 38,949 คน นอกนั้น คือ เด็กอายุ 0-5 ปี หญิงตั้งครรภ์ ผู้พิการ ผู้ป่วยล้างไต ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข และบุคลากรในพื้นที่ได้ดำเนินการติดตามกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง มากที่สุดถึงร้อยละ 90 สำหรับผู้สูงอายุผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก มีการติดตามมากกว่า ร้อยละ 70 

“วันนี้ ได้เข้าตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ ศูนย์พักพิงชั่วคราวและชุมชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อรับฟังปัญหา ติดตามการฟื้นฟูสภาพแวดล้อม รวมทั้งสนับสนุนการจัดการขยะและน้ำเสียในพื้นที่ เพื่อป้องกันโรคติดต่อที่มักพบหลังน้ำท่วม เช่น โรคฉี่หนู โรคระบบทางเดินอาหาร และโรคผิวหนัง พร้อมทั้งส่งมอบอุปกรณ์สนับสนุนด้านสุขาภิบาล เช่นชุดทำความสะอาด น้ำยาฆ่าเชื้อ ถุงดำ และสื่อความรู้ด้านการป้องกันโรคหลังน้ำท่วม และมอบหมายให้ทีม SEhRT กรมอนามัย ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนการจัดการด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมสุขภาพ รวมทั้งให้คำแนะนำประชาชนเกี่ยวกับการใช้น้ำอย่างปลอดภัย ให้ความรู้ในการจัดการขยะ โดยคัดแยกขยะอินทรีย์ ซากสัตว์ และเศษอาหาร เน้นบรรจุถุงดำโรยปูนขาว และนำไปพักรอรถเก็บ เพื่อลดกลิ่นและป้องกันการแพร่เชื้อโรค พร้อมทั้ง มอบของสนับสนุน สำหรับการจัดการสุขาภิบาล สุขอนามัย และอนามัยสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมสุขภาพกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะเด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า แนวทางการดูแลกลุ่มเปราะบางของเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะในผู้สูงอายุเน้นย้ำ เรื่อง การป้องกันการลื่นล้ม ในพื้นที่แฉะหรือน้ำท่วมขัง การได้รับยาสำหรับโรคประจำตัวอย่างต่อเนื่อง และดูแลสุขภาพจิต ลดความเครียด สำหรับป่วยติดเตียงต้องมีการป้องกันแผลกดทับ รักษา ความสะอาดร่างกาย อุปกรณ์ และที่นอนเพื่อสุขอนามัยที่ดี ป่วยโรคเรื้อรัง ต้องมีการจัดยาฉุให้เพียงพอ แนะนำเรื่อง ควบคุมอาหาร เช่น ลดเค็ม ลดหวาน เพื่อป้องกันอาการกำเริบ และสังเกต ภาวะฉุกเฉิน เช่น หอบเหนื่อย ตัวบวม และนำส่งโรงพยาบาลทันที หญิงตั้งครรภ์งดเดินลุยน้ำเนื่องจากเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการหกล้ม ฝากครรภ์ต่อเนื่อง ตามนัด แม้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน และไปโรงพยาบาลหากมีอาการเจ็บครรภ์ผิดปกติหรือน้ำเดิน เด็กเล็ก จัดกิจกรรมระบายสี ชวนอ่านนิทาน จัดหานมและอาหารที่สะอาดเพื่อป้องกันท้องเสียโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ และเฝ้าระวังอาการผิดปกติ เช่น ไข้สูง ผื่น หรือแผลจากแมลงกัด