อาชญากรรม
คุมตัว“ไอ้ริด”มือฆ่าเผาสาว18ทำแผน ประกอบคำรับสารภาพจุดเกิดเหตุ
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

คุมตัว“ไอ้ริด”มือฆ่าเผาสาว18ทำแผน
ประกอบคำรับสารภาพจุดเกิดเหตุ
นำตัว“ไอ้ริด”ผู้ต้องหาฆ่าเผาน้องปลาสาว18 ทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดเกิดเหตุชาวบ้านรอรุมประชาทัณฑ์นับพัน
จากกรณีพบศพ น.ส.จรินยา ช่วยพยัคฆ์หรือน้องปลา อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 5 ต.ทุ่งกง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เสียชีวิตในลักษณะถูกไฟเผาไหม้เกรียมทั้งตัวเหลือแต่ซากกระดูก โดยมีรถจักรยานยนต์ถูกไฟเผาทั้งคันทับร่างผู้เสียชีวิตอยู่ในคูน้ำริมถนนสายห้วยโศก-ห้วยลึก หมู่ ที่ 12 ต.ช้างขวา อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี
หลังจากหายออกจากบ้านสามี 4 วันโดยพบศพเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 17 พ.ค. ห่างจากบ้านสามีไม่ถึง 2 กม.ก่อนหน้านี้ตำรวจตั้ง 3 ประเด็นหลักคือ เรื่องชู้สาว/ชิงทรัพย์/ยาเสพติด จนกระทั่งเหลือประเด็นเดียวคือชิงทรัพย์และสามารถจับกุมคนผู้ต้องหาได้ด้วยจำนนต่อหลักฐานคือนายพีระพล นวลเสน่ห์ อายุ 27 ปีหรือริด ตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี เลขที่ 153/2562 ข้อหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ซ่อนเร้นย้ายหรือทําลายศพหรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย ซึ่งนายพีระพลยอมรับสารภาพว่าทำคนเดียวด้วยจำนนต่อหลักฐานคือร่องรอยการขีดข่วนที่แขนพยานหลักฐานที่เกิดเหตุทั้งทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานแวดล้อมจนสู่การออกหมายจับกุมและจับกุมตัวเมื่อวันที่ 25 พ.ค.62ที่ผ่านมา ซึ่งนายพีระพลให้การว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่าเผาร่าง น.ส.จรินยา จริงๆ ทำเพียงคนเดียว อ้างว่าสาเหตุที่ทำลงไปเพื่อต้องการฆ่าชิงทรัพย์เหยื่อเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทแหวนทอง1 สลึง โดยวันเกิดเหตุเห็นเหยื่อขี่รถ จยย.ออกไปจากร้านรับซื้อยางพาราเลยรีบขับรถไปจอดบ้านแล้วไปดักทำร้ายร่างกายน้องปลาระหว่างทาง ด้วยการบีบคอแล้วถีบรถ จยย.เหยื่อจนตกคูน้ำ จากนั้นตามไปบีบคอซ้ำแล้วเผาอำพรางทำลายศพ ซึ่งนายพีระพลเป็นลูกค้าขายน้ำยางให้สามีผู้เสียชีวิตและมีบ้านพักอยู่ไม่ไกลจากจุดพบศพ น.ส.จรินยาหรือน้องปลา
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. (26 พ.ค.62) ที่กองบังคับการตํารวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผบช.ภ.8 พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบก.ภ.จว. (รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี) พ.ต.อ.สมบัติ ฉ่ำแสง ผกก.สภ.กาญจนดิษฐ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ร่วมกันนำตัว นายพีระพล หรือ ริด อายุ 27 ปี มาสอบสวนเพิ่มเติม ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังจากสามารถสืบสวนจนทราบว่าแน่ชัดว่าผู้ต้องหารายนี้ก่อคดี ฆ่าเผาโหด น.ส.จรินยา หรือ น้องปลา อายุ 18 ปี พร้อมก่อเหตุชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทจำนวน 1 เส้น และแหวนทองคำหนัก 1 สลึงอีก 1 วง ก่อนจะนำไปขายที่ร้านทอง”ห้างทองแม่จำเริญ” ถนนสุราษฎร์ธานี-บ้านนาสาร ต.ขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานีในราคา 22,000 บาท และกลับมาเผาศพเพื่ออำพรางคดีในคืนวันที่ 13 พ.ค. (เวลาประมาณ 23.00 น) ก่อนจะมีผู้พบศพในช่วงเย็นของวันที่17 พ.ค.
โดยตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเพียง 2 จุด คือจุดแรกคือจุดร้านทองแม่จำเริญพื้นที่ ต.ขุนทะเลและจุดที่2 ที่เกิดเหตุ เป็นจุดที่นายพีระพล ผู้ต้องหามาดักรอผู้เสียชีวิตและพยายามจะชิงสร้อยคอทองคำของผู้เสียชีวิตแต่ผู้เสียชีวิตต่อสู้ขัดขืน จึงใช้เท้าถีบจนผู้เสียชีวิตตกลงไปในร่องน้ำข้างถนน และตามลงไปชกที่ใบหน้าอีกหลายครั้ง และบีบคอจนตายคามือ ก่อนที่จะปลดสร้อยคอทองคำและแหวนของผู้ตาย และนำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายล้มลงไปทับร่างอีกครั้ง ก่อนนำทองไปขายที่ร้านทองแล้วกลับมาอยู่ที่บ้าน แล้วย้อนกลับมาตรงจุดเกิดเหตุในช่วงเวลา 23.00 น.ของวันที่ 13 พ.ค. ใช้น้ำมันราดก่อนจุดไฟเผาซ้ำเพื่อที่ทำลายหลักฐาน
โดยระหว่างการทำแผนตรงจุดเกิดเหตุนั้นมีชาวบ้านที่ทราบข่าวและญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตนำพันคนมารอดูและพยายามจะรุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา และพยายามจะทุบรถตู้ตำรวจที่มีผู้ต้องหานั่ง จนตำรวจต้องสกัดกั้นแต่ยังมีความวุ่นวายเกิดและต้องหยุดการทำแผนบางช่วงโดยเฉพาะช่วงที่ผู้ต้องหาลงไปบีบคอ และจุดที่รับซื้อน้ำยางจุดแรกก็ไม่ได้ทำขณะเดียวกันช่วงระหว่างการทำแผนนั้นมีนายศรายุทธ คงคล้ายหรือเตอร์สามีผู้เสียชีวิตที่สวมเสื้อเกราะอ่อนยืนดูการทำแผนท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยของตำรวจอย่างใกล้ชิด
ญาติ ๆ ของผู้เสียชีวิตกล่าวว่าตอนนี้ยังไม่เชื่อว่าผู้ต้องหามีเพียงคนเดียว จะต้องมีคนอื่นร่วมด้วย ซึ่งผู้ต้องหาอาจจะเป็นผู้ฆ่า แต่ช่วงที่เผาร่างผู้เสียชีวิตเชื่อว่าจะต้องมีคนอื่นร่วมด้วย รอตำรวจหาพยานหลักฐานเพิ่ม
ขณะเดียวกันหลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จทางศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 เข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติมที่บ้านของผู้ต้องหาโดยเก็บเถ้าดินที่คาดว่าน่าจะนำอวัยวะภายในเผาทำลาย และเก็บกางเกงขาสั้น 3 ส่วนลายทหารที่พบใกล้กองไฟเพื่อตรวจพิสูจน์ว่าเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุหรือไม่
ด้านพล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวว่า เหตุการที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจเนื่องจากผู้ต้องหาก่อเหตุอย่างเหี้ยมโหด เพื่อประสงค์ต่อทรัพย์สินของผู้ตาย ก่อนที่จะกลับมาเผาซ้ำเพื่อทำลายศพหวังจะทำลายหลักฐานแต่หนีไม่รอดมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ในที่สุด ส่วนประเด็นที่ยังมีข้อกังขา ตำรวจยังต้องพยานหลักฐานให้ครบถ้วนทุกอย่าง ยังไม่เชื่อในคำรับสารภาพของผู้ต้องหาเสียทีเดียว จะต้องรอตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานเพิ่มเติม
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » อาชญากรรม
Top 5 ข่าวอาชญากรรม ![]()
- ตชด.336 สกัดจับยาบ้าสองคดีซ้อนพร้อมผู้ต้องหา 3 ราย 21 พ.ค. 2568
- โศกนาฏกรรมรักสามเส้า! ผัวเก่าหึงโหดบุกรัวยิง 9 รู ผัวใหม่อดีตเมียดับคาที่ 21 พ.ค. 2568
- มรดกเลือด! พี่เมียยิงน้องเขย-หลานสาหัส 21 พ.ค. 2568
- ตำรวจเมืองสกลนครรวบ 2 ผัวเมียท้องอ่อน ยึดยาบ้าเกือบแสนเม็ด 21 พ.ค. 2568
- สภ.บ้านดู่ตรวจยึดยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด ซุกพงหญ้าริมอ่างเก็บน้ำ 21 พ.ค. 2568
ข่าวในหมวดอาชญากรรม ![]()
รวบโจรขโมยจยย.ในโรงพยาบาลลี้ ตรวจปัสสาวะพบเสพยาบ้า 19:58 น.
- อดีตนักการเมืองท้องถิ่นกร่าง! ตบหน้าผู้ใหญ่บ้านชักปืนขู่บังคับให้กราบเท้า 18:17 น.
- รวบเจ้าบ่าวป้ายแดงชาวปราจีนฯ ลอบขนยาบ้าล็อตมหึมา 5 ล้านเม็ด เตรียมกระจายเข้ากรุงฯ 18:10 น.
- ศุลกากรหนองคาย จับหนุ่มลอบหิ้วกระเป๋าซุกเฮโรอีน 17.6 กก.เข้าไทย มูลค่ากว่า 61 ล้าน 17:33 น.
- รวบแก๊งสวมเสื้อกั๊ก อ้างมาจากโรงพักเดินเรี่ยไรเงินตามร้านค้าสัตหีบ 13:25 น.