เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 62 น.ส.ครองขวัญ ขอสงวนนามสกุล (หรือติ๊ก) อายุ 32 ปี พร้อมกลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 คน นำหลักฐานและเอกสารการโอนเงินติดต่อสั่งจองโปรทองคำที่มีราคาถูกกว่าราคาปกติทั่วไป  เข้าแจ้งความกับพนักงาน สภ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ให้ติดตามตัว น.ส.ปริชาติ หรือนก ธัญญเจริญ อายุ 30 ปี อดีตลูกจ้าง อบต.แห่งหนึ่ง อ,ด่านช้าง บ้านอยู่ อ,ด่านช้าง มาดำเนินคดี เนื่องจากกลุ่มผู้เสียหายได้ถูก น.ส.ปริชาติ หรือนก เป็นคนบ้านเดียวกันอยู่ในตลาดด่านช้างและเคยทำงานที่เดี่ยว ได้โพสต์ลงในเฟสบุ๊ค ชวนให้ร่วมลงทุนสั่งจองซื้อทองคำในราคาถูก โดย น.ส.ปริชาติ บอกว่า เป็นตัวแทนร้านทองแห่งหนึ่ง จึงได้สั่งซื้อไป 1 บาท จำนวนเงิน 19,000 บาท และได้โอนเงินไปให้แล้วจากนั้นได้รับทองคำมาจริงๆ

 

จนกระทั่งตนเชื่อว่า น.ส.ปริชาติ ไม่มีพฤตกรรมที่หลอกลวง จึงได้ร่วมลงทุนเพิ่มไปอีกเรื่อยๆ จนเวลาผ่านไป 3-4 เดือน ได้มีหน้าเฟสบุ๊ค ขึ้นมาว่าช่วงนี้มีโปรทองคำในราคาถูกอีก ราคาเพียงบาทละ 16,000 บาท จึงได้สนใจโทรศัพท์ติอต่อไปสอบถามรายละเอียดกับ น.ส.ปริชาติ ว่าได้ราคาบาทละ 15,000 บาท น.ส.ครองขวัญ หนึ่งในผู้เสียหายหลงกลสั่งจองทองคำ 10 บาท โดยได้โอนเงินไปให้ น.ส.ปริชาติ จำนวน 150,000 บาท แต่ล่าสุดยังไม่มีใครได้รับทองคำตามที่ น.ส.ปริชาติ ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กเอาไว้ เมื่อติดต่อทวงถามไป น.ส.ปริชาติ ก็อ้างเหตุผลไปต่างๆ นา ๆ เช่นช่วงนี้ยังไม่สามารถไปเอาทองคำมาให้ได้ ต้องให้รอไปอีกราว 2-3 วัน บางครั้ง น,ศ,ปริชาติ ก็ส่งภาพถ่ายทองคำคำจากที่ร้านทอง มาให้เหยื่อดูพร้อมอ้างว่ากำลังจะส่งทองคำให้ จนกระทั่งเหยื่อหลายคนหลงเชื่อว่าจะมีการส่งทองคำให้จริง ๆ แต่เวลาผ่านไป เหยื่อทุกรายก็ไม่เคยได้รับทองคำ เมื่อติดต่อไปว่าจะขอเงินคืนก็ถูกปฏิเสธว่าเงินได้สั่งซื้อทองคำไปทั้งหมดแล้ว

 

ต่อมาทราบว่า น.ส.ปริชาติ ได้ติดต่อกับเหยื่อรายอื่นอีกว่าถ้าสั่งจะจองทองคำจำนวน 10 บาท ขึ้นไปจะได้ทองในราคาบาทละ 14,000 บาท เท่านั้น แต่ส่วนใหญ่ไม่มีใครหลงเชื่อ น.ส.ปริชาติแล้ว เนื่องจากผู้เสียหายที่หลงกลตกเป็นเหยื่อได้มีการติดต่อกันในกลุ่มผู้เสียหายที่ถูกหลอกสูญเงินไปหลายรายแล้ว จึงไม่มีใครส่งจองทองคำเพิ่มอีก ซึ่งที่ผ่านมามีผู้เสียหายบางรายหลงกลเชื่อร่วมลงทุนลักษณะเดียวกันแบบนี้ มากกว่า 20 ราย โดยบางรายต้องสูญเสียเงินไปถึงนับล้านบาท ซึ่งเฉพาะผู้เสียหายที่มาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ น.ส.ปริชาติวันนี้ รวมมูลค่าความเสียหายน่าจะกว่า 5,000,000 บาท จากนั้นผู้เสียหายจึงได้รวบรวมกับมากแจ้งความกับ พนักงานสอบสวน สภ.ด่านช้าง เพื่อให้ช่วยติดตามตัว น.ส.ปริชาติ มาดำเนินคดี

 

กระทั่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ด่านช้าง ได้ติดตามตัว น.ส.ปริชาติ มาที่ สภ.ด่านช้าง เพื่อแจ้งมารับทราบข้อกล่าวหา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ฉ้อโกงและผิดพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน แต่ผู้ถูกกล่าวหาได้ปฏิเสธ จะขอไปให้การในชั้นศาล จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดสุพรรณบุรี