เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2563 ร.ต.อ.ธัญญาวิทย์ เนียมเครือ   รอง.สว.ป. สภ.แม่สอด จ.ตาก ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายขว้างระเบิดใส่รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ  ดีแม็กสีบรอนซ์เงิน  หมายเลขทะเบียน 1 ฒบ. 5361 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดอยู่บริเวณลานจอดรถโรงแรมแห่งหนึ่งในอำเภอแม่สอด ถนนชิดวานา ต.แม่สอด อ.แม่สอด จึงประสาน พ.ต.ท.หญิงศุภธิดา อันถามนต์ นักวิทยาศาสตร์ ( สบ3 ) พิสูจน์หลักฐานจังหวัดตาก  เดินทางไปตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุพบชิ้นส่วนระเบิด ประกอบด้วย ตะปู  หัวน็อต  เหล็กเส้น  ตกอยู่บนท้ายกระบะรถยนต์คันดังกล่าว แรงระเบิดยังให้กระจกรถด้านหลังคนขับแตกเป็นรู  และที่บริเวณพื้นดินยังพบชิ้นส่วนกระป๋องสีตกอยู่  โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

 

จากการสอบถาม นายพงศ์พัฒน์ เบ็ดเสร็จ อายุ 44 ปี  เจ้าของรถยนต์กระบะ เล่าว่า  ก่อนเกิดเหตุตนขับรถมาจอดไว้บริเวณลานจอดรถโรงแรมแห่งหนึ่งในอำเภอแม่สอด  จากนั้นตนกลับเข้าไปนอนผักผ่อนอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์ใกล้กับบริเวณที่เกิดเหตุประมาณ  200  เมตร   จนกระทั้งถึงตอนเช้าตนจะไปทำงานพบว่ารถของตนถูกคนร้ายปาระเบิดใส่รถของตนได้ความเสียหาย ส่วนสาเหตุ เนื่องจากตนเป็นเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ในพื้นที่ด่านศุลกากรแม่สอด หรือที่ราชพัสดุ บริเวณด่านพรมแดนไทย - เมียนมา  ใกล้กับสะพานมิตรภาพไทย - เมียนมา แห่งที่ 2 ท้ายบ้านวังตะเคียน ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด  น่าจะเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับวงการรับเหมาก่อสร้างซึ่งทุกคนรู้กันอยู่  โดยเฉพาะลูกจ้างของตนเองรู้ดีว่าฝีมือใคร

 

ข่าวแจ้งว่า พื้นที่ก่อสร้างอาคารด่านศุลกากรแห่งที่  2 นี้มีปัญหาตลอด โดยเฉพาะเรื่องการรับเหมาก่อสร้าง เริ่มตั้งแต่เริ่มแรกจากถมดิน และมาจนถึงปัจจุบัน และมีปัญหามาตลอด โดยเคยมีการไปแจ้งความดำเนินคดีกันที่  สภ.แม่สอดมาแล้วครั้งหนึ่ง

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่ามีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 1 คน สวมหมวกกันน็อค ใส่เสื้อกันหนาวสีขาว  ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดรถอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ จากนั้นใช้ไฟแช็ค  จุดชนวนดินปืนข้างระเบิดกระป๋องโยนใส่ท้ายกระบะรถยนต์ จึงได้เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น ก่อนที่คนร้ายจะขับรถจักรยานยนต์หลบหนีออกไป